ก่อนไปคิดอะไร
KCE ประกาศกำไรสุทธิ 3Q23 ที่ 520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% QoQ แต่ยังลดลง 20.7% YoY มากกว่าตลาดคาด 13% โดยกำไรสุทธิปรับตัวสูงขึ้น QoQ เนื่องจากปริมาณความต้องการสินค้าของลูกค้าเริ่มดีขึ้น เห็นได้จากการสั่งของเข้าสต็อคมากขึ้น รวมถึงผลของเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว โดยปริมาณขายเพิ่มขึ้นเกือบทุกภูมิภาคทั้งยุโรป (+14.4% QoQ) ไทย (+36.4% QoQ) จีน (+10.3% QoQ) และเอเชีย (+7.8% QoQ) ส่วนปริมาณขายใน US ลดลงเล็กน้อย 2.7%QoQ นอกจากนี้ต้นทุนโดยรวมก็มีการปรับตัวลดลง ทั่งราคาวัตถุดิบหลักอย่างทองแดง ค่าไฟฟ้าที่ปรับลดลงตามราคาก๊าซธรรมชาติ และค่าเงินบาทที่อ่อนค่า โดยรวมทำให้ Gross margin สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้เป็น 22% ใน 3Q23 จาก 19% ใน 2Q2
หลังไปได้อะไร
ผู้บริหาร KCE ยังคงมองว่ายอดขายรวมจะดีขึ้นต่อเนื่องใน 4Q66 แม้ว่าจะเป็น Low season แต่ยังมีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง โดยเฉพาะ High Density Interconnect (HDI) ที่มี Backlog ใน 4Q23 ขณะที่ผลกระทบจากการ Strike ของ UAW ได้สะท้อนไปแล้วตั้งแต่เดือนก.ย. ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3-4% QoQ ใน 4Q66
ขณะที่คาดว่าปีหน้าคาดว่าจะกลับมาเติบโตประมาณ +/-10% YoY จากแนวโน้มความต้องการแผงวงจรสำหรับรถยนต์ที่กลับมา แม้ว่าทาง KCE กำลังเจรจาปรับลดราคาขายให้ลูกค้าลง 3.0-3.5% ลง (สะท้อนต้นทุนทองแดงที่ลดลง) ในบาง Product เดิม อย่างไรก็ตามปกติทาง KCE ก็มีออก Product ใหม่ๆ ที่มีราคาสูงขึ้นเข้ามาชดเชย ซึ่งสัดส่วน Product ใหม่จะมากกว่า Product เดิมในแต่ละปี เห็นได้จาก ASP โดยรวมของ KCE ไม่ได้เห็นการปรับลงมากนัก ทั้งนี้ KCE ยัง Focus ที่จะเพิ่มสินค้า high margin โดยเฉพาะ HDI ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 25-30% YoY ในปี 2024
สำหรับ Gross margin คาดว่าจะเริ่มทยอยปรับตัวดีขึ้น ตามการผลิตที่เพิ่มขึ้น (เพิ่ม efficiency) และแนวโน้มราคาวัตถุดิบที่ลดลง อีกทั้งค่าไฟฟ้าคาดว่าจะลดลงโดยเฉพาะ Ft งวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 ที่ลดลง 25 สต ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงประมาณ 6% เหลือ 4.45 บาทต่อหน่วย ส่งผลบวกต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าของ KCE ที่คิดเป็นประมาณ 9% ของต้นทุนรวม โดยคาดว่า Gross margin จะเพิ่มขึ้นเป็น 23-24% ใน 4Q66 จาก 22% ใน 3Q66 และยังคาดว่า Gross margin ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1-2% ต่อไตรมาส มาอยู่ที่เฉลี่ย 25-27% ในปี 2567 สาเหตุหลักมาจากทั้ง 1) Product mix โดยทาง KCE มองว่ายอดขาย HDI ที่มี margin สูงขึ้น; 2) efficiency ที่เพิ่มขึ้น และ 3) ต้นทุน Raw material จาก Supplier ที่ลดลง นอกจากนี้ค่าไฟฟ้า (สัดส่วนประมาณ 8% ของต้นทุนรวม) ยังมีแนวโน้มลดลง
ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน
เรายังมองบวกกับ KCE จากผลการดำเนินงานของ KCE ที่ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง 2H66 จะเติบโตจากการขยายกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์ Special grade PCB (HDI, 30% ของยอดขายรวม) ที่มี Margin สูงมากขึ้นขึ้น ซึ่ง HDI เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในพวก Break system ในรถยนต์ EV และผลิตภัณฑ์ Radar/Lidar เป็นต้น โดยปัจจุบันมี เครื่อง Laser drill สำหรับใช้กับการผลิต HDI อยู่ 11 เครื่อง ซึ่งผลิตเต็มกำลังอยู่ และยังมี Demand ที่ค่อนข้างสูง โดยปัจจุบันมีการเพิ่มเครื่อง Laser Drill เข้าไปอีก 4 เครื่อง เรียบร้อยแล้ว กำลังที่จะ ramp up ต่อไป ขณะที่ราคาหุ้นของคู่แข่งในอุตสาหกรรม อย่าง Chin-poon Industrial, TTM Technologies, CMK Crop และ Meiko ต่างก็เห็นสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้เรายังคงแนะนำ Outperform ที่ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 61 บาท อิง 29X หรือ 5 ปี PE mean
ความเสี่ยง เศรษฐกิจโลกหากถดถอยรุนแรงมากกว่าคาดจะกระทบต่อปริมาณความต้องการแผงวงจร PCB โดยรวม ความผันผวนของต้นทุนวัตถุดิบตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และค่าเงินบาทจะกระทบอัตราทำกำไรได้
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม KCE_Stock Note 231109_T