ก่อนไปคิดอะไร
ผลการดำเนินงาน 4Q66 จะเป็นอย่างไร หลัง 3Q66 NYT มีกำไรสุทธิ 123 ลบ. โต 93%YoY แรงหนุนจาก 1) รายได้ให้บริการท่าเทียบเรือที่เพิ่มขึ้น 20%YoY หลังมีปริมาณรถยนต์ผ่านท่าเพิ่มขึ้นราว 14%YoY สอดคล้องกับยอดส่งออกรถยนต์ของไทยที่เพิ่มขึ้น 14.1%YoY 2) พลิกรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบ.ร่วม (ท่าเรือ C0 ถือ 49%) ราว 13 ลบ. จากขาดทุน 11 ลบ. ใน 3Q65 หลังลูกค้าเริ่มกลับมาส่งสินค้าโครงสร้างขนาดใหญ่ และ 3) มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 43.7% จาก 38.7% ใน 3Q65 และ SG&A/Sales ลดลงเป็น 9.5% จาก 10.3% ใน 3Q65 หลังเกิดผลประหยัดต่อขนาดตามปริมาณรถยนต์ผ่านท่าที่เพิ่มขึ้น
หลังไปได้อะไร
NYT คาด 4Q66 รายได้จากให้บริการท่าเทียบเรือจะอ่อนตัวลง YoY เนื่องจาก 4Q65 มีฐานยอดส่งออกรถยนต์ที่สูงจาก Pent Up Demand และปัญหาชิปขาดแคลนคลี่คลาย ส่วนรายได้คลังสินค้าคาดเติบโต 2-3%YoY หลังพื้นที่เช่าเดิม 2.7 แสนตร.ม. มีอัตราใช้พื้นที่คลังสินค้าเกือบเต็ม 100% ขณะที่พื้นที่เช่าใหม่ที่บ่อวิน 3.4 หมื่นตร.ม. ปัจจุบันมีอัตราเช่าเพิ่มขึ้นเป็น 30% จาก 25% ใน 3Q66 และคาดจะเพิ่มขึ้นตามการเติบโตในแถบ EEC
ด้านธุรกิจเรือซีฮอร์สเฟอร์รี่ได้หยุดดำเนินงานชั่วคราวตั้งแต่ มิ.ย. ถึงปัจจุบัน หลังเข้าสู่ช่วงบำรุงรักษาและยังเป็น Low Season ของการท่องเที่ยวในเกาะสมุย (เข้าสู่หน้ามรสุม) โดยบริษัทคาดเรือซีฮอร์สจะกลับมาดำเนินงานอีกครั้งหลังหมดฤดูมรสุมในช่วงต้นปีหน้า ทั้งนี้ 9M66 NYT รับรู้ผลขาดทุนจากเรือ (ถือหุ้น 50%) ไปแล้วราว 41 ลบ. (1Q-2Q66 ขาดทุนไตรมาสละ 15 ลบ., 3Q66 ขาดทุน 11 ลบ. และ 4Q66 คาดรับรู้ขาดทุน 11 ลบ.) ทำให้ปีนี้คาดรับรู้ผลขาดทุน 52 ลบ. สูงกว่าปี 2565 ที่รับรู้ผลขาดทุน 44 ลบ.
ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน
กำไร 9M66 คิดเป็น 94% ของประมาณการทั้งปีซึ่งสูงเกินไป เนื่องจากรายได้รวมฟื้นตัวดีกว่าคาดและเกิดผลประหยัดต่อขนาดมากกว่าคาด ขณะที่ 4Q66 แม้คาดกำไรจะอ่อนตัว QoQ แต่จะยังเติบโต YoY เนื่องจากคาดรายได้ให้บริการท่าเทียบเรือที่ชะลอตัวลงจากฐานปีก่อนที่สูง จะถูกชดเชยได้ด้วยการเติบโตของรายได้ให้บริการคลังสินค้า เพื่อสะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าว เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไร โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดปี 2566 NYT มีกำไรสุทธิ 436 ลบ. เติบโตเด่น 73.7%YoY และโตต่อ 4.7%YoY ในปี 2567 ตามการเติบโตของยอดส่งออกและนำเข้ารถยนต์ อีกทั้งแนวโน้มการเกิดผลประหยัดต่อขนาดเพิ่มขึ้น
เรายังคงมุมมองบวกต่อ NYT ซึ่งเป็นผู้นำการให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อส่งออกและนำเข้ารถยนต์ของไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 80% จากการให้บริการท่าเทียบเรือ A5 และ C0 ทั้งนี้เรามอง NYT มีจุดเด่น 1) ผลการดำเนินงานได้อานิสงส์บวกโดยตรง จากการเติบโตที่ดีของตลาดส่งออกรถยนต์ของไทยและตลาดนำเข้ารถยนต์ EV และ 2) เป็น Dividend Stock โดยมีฐานะการเงินและกระแสเงินสดแข็งแกร่ง สามารถจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอในอัตราสูง โดยคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2566 หุ้นละ 0.28 บาท คิดเป็น Yield ปีนี้ราวละ 7.4% ขณะที่เราประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่หุ้นละ 4.80 บาท (อิง PER -1SD ที่ 13x จากค่าเฉลี่ยย้อนหลังล่าสุด 5 ปี) กลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำ “ซื้อ” เทคนิคมีแนวรับที่ 3.76/3.68
ความเสี่ยงสำคัญ : ปัญหาขาดแคลนชิปส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทาน, ศก. คู่ค้าชะลอ, กระแสตอบรับในธุรกิจเรือซีฮอร์สเฟอร์รี่ ขณะที่การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคาดผลกระทบจำกัด เนื่องจากพนักงานส่วนใหญ่เป็นแรงงานมีทักษะที่ได้ค่าแรงสูงกว่าขั้นต่ำอยู่แล้ว
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม NYT_Stock Note 231114_T