ก่อนไปคิดอะไร บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตปี 2567 อย่างไร หลัง 4Q66 WICE มีกำไรสุทธิ 18 ลบ. หดตัวหนัก 81%YoY ซึ่งเกิดจาก 1) รายได้รวมลดลง 33%YoY โดยแม้มีการเติบโตของรายได้ธุรกิจ Supply Chain Solutions (+46%YoY) หลังเปิดพื้นที่คลังสินค้าเพิ่ม 3 หมื่นตร.ม. แต่ถูถหักล้างด้วยการลดลงของรายได้ธุรกิจ Sea freight (-44%YoY), ธุรกิจ Air freight (-46%YoY) และธุรกิจขนส่งบกข้ามแดน CBS (-20%YoY) หลังมีปริมาณและค่าขนส่งที่ลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และ 2) อัตรากำไรข้นต้นลดลง YoY และ SG&A/Sales เพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากเกิดผลประหยัดต่อขนาดลดลงตามรายได้ที่ลดลง หนุนให้ทั้งปี 2566 WICE มีกำไรสุทธิ 170 ลบ. หดตัว 69%YoY ตรงตามที่เราคาดการณ์ หลังไปได้อะไร ผู้บริหาร WICE ตั้งเป้าการเติบโตปี 2567 จะไม่ต่ำกว่า 20%YoY หลังคาดค่าระวางขนส่งทางเรือและทางอากาศผ่านจุดต่ำสุดแล้วและจะปรับตัวดีขึ้น ส่วนปริมาณขนส่งสินค้าทางทะเลคาดจะฟื้นตัวดีขึ้นหลังประเทศคู่ค้าหลักอย่างจีนมีแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึง China Relocation ตามการย้ายฐานการผลิตสู่ไทย ขณะที่ธุรกิจ Air Freight จะมีการขยายตลาดสู่เวียดนามและฟิลิปปินส์ และธุรกิจ Supply Chain Solutions มีแผนเปิดพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มอีก 2-3 หมื่นตร.ม. อีกทั้งธุรกิจ CBS เตรียมขยายเครือข่ายสู่ธุรกิจขนส่งสินค้า แบบควบคุมอุณหภูมิ อาทิ ผลไม้ไทยไปจีน และมีแผนนำ EV TRUCK มาช่วยขนส่งแทนรถยนต์สันดาปเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน หลังลูกค้าหลายรายของบริษัทมีนโยบายผลักดันเรื่อง ESG ทั้งนี้ปี 2567 ตั้งงบลงทุนไว้สำหรับขยายกิจการต่างๆ ราว 200-300 ลบ. ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน ปี 2567 คงคาด WICE จะมีกำไรสุทธิ 206 ลบ. พลิกเติบโต 21%YoY จากปริมาณขนส่งและค่าระวางที่คาดปรับตัวดีขึ้นหลังผ่านจุดต่ำสุดแล้ว อีกทั้งเศรษฐกิจของลูกค้าหลักจากจีนน่าจะฟื้นตัวชัดเจนขึ้นได้ใน 2H67 แต่อย่างไรก็ดี ล่าสุดค่าระวางในเส้นทางขนส่งหลักของ WICE ยังฟื้นตัวช้ากว่าคาด โดยจากข้อมูลของ สรท. พบว่า ช่วง ม.ค.-ก.พ. 24 ค่าระวางเรือในเส้นทางไทย-จีน ลดลง YTD และค่าระวางในเส้นทางไทย-ประเทศอื่นๆ ในเอเชียยังทรงตัว YTD (ต่างจากค่าระวางเรือเส้นทางไทยไปยุโรปและสหรัฐที่ปรับขึ้นแรง YTD เพราะเกิดสถานการณ์โจมตีเรือในทะเลแดง) จึงเป็นความเสี่ยงต่อประมาณการกำไรที่ยังต้องติดตาม แม้บริษัทประกาศจ่ายปันผลจากกำไรปี 2566 หุ้นละ 0.24 บาท (XD 4 มี.ค.) คิดเป็น Yield 4.1% แต่ 1Q-2Q67 คาดกำไรจะหดตัว YoY และราคาหุ้นปัจจุบันไม่มี Upside จากราคาเป้าหมายปี 2567 ที่หุ้นละ 5.40 บาท (อิง PER 17x) ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงยังคงไม่แนะนำเข้าลงทุน (Underperform) จนกว่าจะเห็นกำไรมีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น ความเสี่ยงสำคัญ คือ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีน, การชะลอตัวของเศรษฐกิจ และความผันผวนของค่าระวางขนส่ง ส่วนความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม (E) และการจัดการด้านความปลอดภัย (S) |
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก WICE_Stock Note 240221_T |