ก่อนไปคิดอะไร ผลประกอบการของ 2Q67 ต่ำกว่าที่คาดไว้ด้วยปัจจัยกดดันจากขาดทุนบนเงินลงทุนและส่วนแบ่งจากบริษัทย่อยที่เป็นขาดทุน เราคาดหวังการฟื้นตัวของรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรใน 3Q67 รวมไปถึงโอกาสการออก ICO ให้ตามแผนใน 2H67 เพื่อเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการของปีนี้ หลังไปได้อะไร ผลประกอบการ 2Q67 อ่อนตัว : XPG รายงานกำไรสุทธิของ 2Q67 ที่ 2 แสนบาท ลดลง 99% YoY และ QoQ โดยรายได้เท่ากับ 169 ล้านบาท (+15% YoY แต่ลดลง 21% QoQ) รายได้จากดอกเบี้ยเติบโตได้ 21% YoY และ 10% แต่โดนกดดันด้วยการบันทึกขาดทุนจากเงินลงทุนที่ 38.5 ล้านบาท รวมไปถึงค่าใช้จ่ายบุคคลกรที่เพิ่มขึ้นและส่วนแบ่งจาก KTX ที่ไตรมาสนี้เป็นขาดทุน ส่งผลให้ 1H67 กำไรเท่ากับ 51 ล้านบาท (+70% YoY) XPG ปรับประมาณการรายได้ปีนี้ลง 15-20% จากผลประกอบการที่อ่อนแอกว่าคาดและแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะค่อยเป็นค่อยไปใน 2H67 รวมไปถึงเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงในตลาดตราสารหนี้ ทำให้ XPG มีการปรับแผนใน 2H67 โดยมีการชะลอการประมูลหนี้ในกลุ่ม AMC เพื่อรอดูราคาและอัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงแผนการทำ ICO portal ใน 2H67 นี้คาดว่าจะเกิดขึ้นเพียง 1 ดีลที่เป็น Private Placement ขนาดเล็ก ขณะที่ดีลขนาดใหญ่จะมีความล่าช้าไปถึงปี 2568 ดังนั้น XPG มีการปรับเป้ารายได้ของปี 2567 ลดลง 15-20% จากเดิมที่ระดับ 1 พันลบ. ซึ่งปรับลดในส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการและกำไรจากเงินลงทุนเป็นหลัก โดยคาดว่าส่วนของ Asset Management และ Real Estate Private Equity Fund จะยังสามารถเติบโตได้ ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน ปรับประมาณการปี 2567 ลงสะท้อนผลประกอบการ 2Q67 ที่อ่อนแอ เราปรับประมาณการรายได้ของ XPG ในปี 2567 ลง 13% เท่ากับ 781 ล้านบาท (+28%) โดยมีสัดส่วนรายได้จากดอกเบี้ย 68% และรายได้จากธรรมเนียมและบริการที่ 26% ขณะที่รายได้จากเงินลงทุนใน 2H67 แม้คาดว่าจะสามารถทำกำไรกลับมาได้แต่ไม่สามารถหักล้างกับขาดทุนที่เกิดขึ้นใน 1H67 ดังนั้นหลังปรับประมาณการรายได้คาดกำไรสุทธิที่ 93 ล้านบาท (-12%) ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 178 ล้านบาท ซึ่งเรามีการรวมประมาณการค่าธรรมเนียมการทำ ICO แบบ PP ไว้ใน 4Q67 และคาดส่วนแบ่งกำไรจาก KTX จะดีขึ้นใน 2H67 และทำให้ทั้งปี 2567 XPG คาดจะได้ส่วนแบ่ง 33 ล้านบาท (-45%) โดยกำไรสุทธิของ 1H67 คิดเป็นสัดส่วน 55% ของประมาณการทั้งปี ความเสี่ยงและความกังวล : โอกาสการตั้งสำรองหนี้หากเกิดการผิดนัดชำระหนี้อาจสูงขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตต่ำ ข้อกำหนด บทกฎหมาย ของ Digital Asset ที่อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต คำแนะนำ : เราประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2567 ที่ 1.80 บาทต่อหุ้น (ลดลงจากเดิมที่ 2.30 บาทต่อหุ้น) โดยใช้วิธี Valuation ด้วย PBV ที่ 1.6 เท่าจากสมมติฐาน PBV เฉลี่ยของกลุ่มและ Discount rate ที่ 10% เพื่อสะท้อนระดับ ROE ที่ต่ำกว่ากลุ่ม เราให้คำแนะนำที่ ซื้อ และคาดว่าทิศทางผลประกอบการของ 3Q67 จะฟื้นตัวได้ QoQ แต่จะลดลง YoY จากศักยภาพการทำกำไรในปีที่ผ่านมาที่ดีกว่า |
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก XPG_Stock Note 240828_T |