Keyword
PDF Available  
Stock Note

Stock Note - KLINIQ บมจ. เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม

By ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล|14 Aug 25 9:32 AM
สรุปสาระสำคัญ

ช่วงสั้นกลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำ “Outperfrom” จากเป็นผู้นำคลินิกด้านผิวหนังความงามของไทยซึ่งกำไรเติบโตเด่นกว่าคู่แข่งและคาดยังโตต่อเนื่องในระยะยาวหลังมีกระแสดูแลตัวเองมากขึ้นในทุกกลุ่ม อีกทั้งยังเดินหน้าต่อยอดบริการใหม่และขยายสาขาในแบรนด์ที่หลากหลาย นอกจากนี้ฐานะการเงินยังแกร่ง โดยแทบไม่มีหนี้ที่มีดอกเบี้ยจ่ายเลยและมีเงินสดสุทธิ 789 ลบ. พอรองรับแผนลงทุนปีละ 450 ลบ. และจ่ายปันผล โดยราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside น่าสนใจจากราคาเป้าหมายปี 2569 วิธี DCF (อิง WACC ที่ 8.5% และการเติบโตระยะยาวที่ 1%) ที่หุ้นละ 33 บาท และคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2568 หุ้นละ 1.56 บาท คิดเป็น Div. Yield ปีละ 6.3% ซึ่งล่าสุดแจ้งจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 หุ้นละ 0.7 บาท (XD 26 ส.ค.) คิดเป็น Div. Yield 1.8%

ก่อนไปคิดอะไร

 

  • บริษัทมีแผนปรับเป้ายอดขายและแผนขยายสาขาปี 2568 หรือไม่ หลัง 2Q68 มีกำไรสุทธิ 89 ลบ. (ดีกว่าตลาดคาด 13%) โดยเพิ่มขึ้น 20%YoY ปัจจัยหนุนมาจากรายได้รวมที่เติบโต 21.3%YoY ซึ่งเกิดจากยอดขายสาขาเดิมเติบโต 7%YoY และรับรู้รายได้สาขาใหม่ที่มีเพิ่มขึ้นจาก 2Q67 จำนวน 9 แห่ง (The Klinique 2 แห่ง, L.A.B.X 3 แห่ง, KLINIQ Spa 1 แห่ง และ L’Clinic 3 แห่ง) อีกทั้งมีรายได้จากศูนย์ศัลยกรรมเพิ่มขึ้น 32%YoY นอกจากนี้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเป็น 50.8% จาก 50.5% ใน 2Q67 หลังเพิ่มบริการใหม่ที่มีมาร์จิ้นดีขึ้น และ SG&A/Sales ลดลงเป็น 37.1% จาก 38.1% ใน 2Q67 จากเกิดผลประหยัดต่อขนาดตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นและคุมค่าใช้จ่ายดีขึ้น ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5%QoQ ปัจจัยหนุนหลักมาจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 4.6%QoQ หลังยอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้น 2%QoQ จากลูกค้ากลับมาใช้บริการปกติหลังผ่านพ้นเหตุแผ่นดินไหวปลาย มี.ค. และรับรู้รายได้สาขาใหม่ที่มีเพิ่มขึ้นจาก 1Q68 จำนวน 5 แห่ง (The Klinique 1 แห่ง, L.A.B.X 1 แห่ง และ L’Clinic 2 แห่ง) อีกทั้งมีรายได้จากศูนย์ศัลยกรรมที่เพิ่มขึ้น 6%YoY

 

หลังไปได้อะไร

  • ผู้บริหาร KLINIQ ยังคงตั้งเป้ารายได้รวมปี 2568 ที่ 3.5 พันลบ. เติบโต 15-20%YoY และอัตรากำไรสุทธิที่ราว 12% ปัจจัยหนุนหลักมาจากรับรู้รายได้สาขาใหม่ที่มีแผนขยายสาขาต่อเนื่องโดยเน้นพื้นที่ที่มีกำลังซื้อดี ภายใต้แบรนด์ที่หลากหลายเพื่อเจาะลูกค้าทุกกลุ่มทุกเพศทุกวัยตั้งแต่ High End (KLINIQUE), Premium Mass (A.B.X) จนถึง Mass (L Clinic) โดยล่าสุดบริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าขยายสาขาใหม่ปีนี้จากเดิม 10 แห่ง เป็น 11 แห่ง (เพิ่มอีก 1 แห่งจากแบรนด์ L’Clinic) แบ่งเป็นแบรนด์ The Klinique 3 แห่ง, L.A.B.X 4 แห่ง และ L’Clinic 4 แห่ง ทำให้สิ้นปีนี้คาดมีสาขารวม 83 แห่ง โดย 2H68 จะเปิดสาขาใหม่ 6 แห่ง (The Klinique 2 แห่ง, L.A.B.X 3 แห่ง และ L’Clinic 1 แห่ง) หลังเปิดสาขาใหม่ 5 แห่งใน 1H68 ซึ่งการมีสาขาเพิ่มขึ้นคาดหนุนให้เกิดผลประหยัดต่อขนาด ส่วนยอดขายสาขาเดิมคาดยังเติบโตได้จากกระแสดูแลตัวเองที่มีมากขึ้นและการเพิ่มบริการใหม่ๆ
  • กำไรสุทธิ 1H68 คิดเป็น 49% ของประมาณการทั้งปี และเรายังคงประมาณการเดิม โดยประเมินว่า 2H68 กำไรจะดีกว่าทั้ง HoH และ YoY ตามผลฤดูกาลเพราะปกติไตรมาสสี่จะเป็น High Season ที่มีลูกค้ามาใช้บริการมากขึ้นจากเข้าสู่เทศกาลสังสรรค์และต้องการปรับภาพลักษณ์ก่อนปีใหม่ อีกทั้งยังคงมีแรงหนุนจากรับรู้ยอดขายสาขาใหม่หลังมีแผนขยายสาขาต่อเนื่อง การเติบโตของยอดขายสาขาเดิมหลังมีการเพิ่มบริการใหม่ การคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น อีกทั้งผลการดำเนินงานของศูนย์ศัลยกรรมคาดจะปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ดังนั้นเราจึงคาดปี 2568 KLINIQ จะมีกำไรสุทธิ 359 ลบ. ยังเติบโต 3%YoY โดย 3Q-4Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY ทุกไตรมาส
  • ความเสี่ยงสำคัญ คือ มีภาวะการแข่งขันในธุรกิจมีสูง, พฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยีการรักษาดูแลความงามเปลี่ยนแปลงเร็ว ส่วนความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ ความปลอดภัยและการรักษาข้อมูลการรักษาของผู้มาใช้บริการ (S) รวมทั้งมีผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้นของบริษัทเกิน 50% (G)
Stocks Mentioned
KLINIQ.BK
Author
Slide2
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล

นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5