Keyword
PDF Available  
Stock Note

Stock Note - NER บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์

By ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล|14 Aug 25 8:37 AM
สรุปสาระสำคัญ

แม้ไทยจะได้อัตราภาษีนำเข้าจากสหรัฐใกล้เคียงคู่แข่งทำให้ยังมีศักยภาพแข่งขัน แต่มีความเสี่ยงที่มาตรการภาษีของสหรัฐจะทำให้ผู้บริโภคชะลอซื้อหลังราคาสินค้าแพงขึ้นซึ่งจะกดดันยอดขายยางและศักยภาพทำกำไรให้ชะลอตัวลงได้ อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside ไม่จูงใจพอจากราคาเป้าหมายปี 2569 ที่หุ้นละ 5.00 บาท (EPS อิงจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากใช้สิทธิแปลงสภาพ NER-W2  ซึ่งมี 308 ล้านหน่วย และกำหนดให้ใช้สิทธิเท่ากัน 3 ครั้งในเวลาที่เหลือ 1.5 ปี พร้อมอิงค่าเฉลี่ย PER ที่ 6 เท่า) กลยุทธ์ลงทุนช่วงสั้นจึงคงแนะนำ Neutral เพราะมีจุดเด่นที่ปันผลสูง โดยคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2568 หุ้นละ 0.34 บาท คิดเป็น Div. Yield สูงปีละ 7.6% ซึ่งล่าสุดประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 หุ้นละ 0.05 บาท (XD 22 ส.ค.) คิดเป็น Div. Yield 1.1%

ก่อนไปคิดอะไร

 

  • บริษัทมองผลการดำเนินงานช่วง 2H68 อย่างไร หลัง 2Q68 NER มีกำไรสุทธิ 554 ลบ. แต่หากไม่รวมรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 489 ลบ. (ใกล้เคียงตลาดคาด) หดตัว 6%YoY โดยแม้ยอดขายจะเพิ่มขึ้น 30.6%YoY จากมีปริมาณขายยาง 1.12 แสนตัน เพิ่มขึ้น 23.7%YoY และราคาขายยางเฉลี่ยอยู่ที่ 67.79 บาทต่อกก. เพิ่มขึ้น 5.6%YoY แต่ถูกหักล้างด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดเหลือ 10.5% จาก 12.4% ใน 2Q67 หลังมีต้นทุนยางเฉลี่ยสูงขึ้น อีกทั้งมีดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้น 24%YoY หลังออกหุ้นกู้เพิ่มในช่วง ธ.ค. 67 ขณะที่กำไรปกติที่หดตัว 17.7%QoQ ตามผลฤดูกาลซึ่งปกติจะมีปริมาณขายลดลงจากเข้าสู่ช่วงปิดกรีดยาง โดยมียอดขายลดลง 12.8%QoQ จากมีปริมาณขายยางลดลง 12%QoQ และราคาขายยางลดลง 0.9%QoQ ขณะที่มีอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัว QoQ

 

หลังไปได้อะไร

  • ผู้บริหาร NER ปรับลดเป้ายอดขายและปริมาณขายยางปี 2568 จากเดิม 3.4 หมื่นลบ. และ 5 แสนตัน เหลือ 3.25 หมื่นลบ. (18%YoY) และ 4.7 แสนตัน (+7%YoY) ตามลำดับ ส่วนเหตุไฟไหม้ที่โรงเก็บสินค้าสำเร็จรูปไม่ได้กระทบต่อการดำเนินการผลิต (อยู่คนละอาคาร) และบริษัทยังสามารถส่งมอบยางให้ลูกค้าตามปกติ อย่างไรก็ดีบริษัทประเมินความเสียหายเหตุไฟไหม้ไว้ราว 200-400 ลบ. ซึ่งคาดจะบันทึกใน 3Q68 โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการเคลมประกัน และคาดจะบันทึกค่าชดเชยได้ใน 4Q68 ขณะที่เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชายังไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออุปทานยางของบริษัท เนื่องจากอุปทานยางในแถบอีสานตอนใต้ที่ลดลงจากต้องชะลอเข้าไปกรีดยาง ถูกชดเชยได้จากอุปทานยางในแถบอีสานตอนเหนือ ภาคใต้ ภาคเหนือและภาคตะวันออก เพียงแต่จะมีต้นทุนขนส่งเพิ่มขึ้น ส่วนแผนขยายโรงงานแห่งที่ 3 อยู่ระหว่างพิจารณา โดยจะมีการประชุมบอร์ดในเดือน พ.ย. นี้ ซึ่งหากอนุมัติคาดจะเริ่มสร้างต้นปีหน้าและจะสามารถดำเนินการผลิตได้ใน 3Q69

  • แม้กำไรปกติ 1H68 คิดเป็น 63% ของประมาณการทั้งปี แต่เราคาด 2H68 กำไรจะอ่อนตัวลง HoH และ YoY เนื่องจากคาดอุปสงค์ยางจะชะลอตัวตามยอดขายรถยนต์ทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจาก ศก. ซบเซา และมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐที่อาจทำให้ผู้บริโภคชะลอซื้อไปก่อนหลังราคาสินค้าแพงขึ้น อีกทั้งมองศักยภาพทำกำไรจะลดลง เพราะเกิดผลประหยัดต่อขนาดลดลงหากยอดขายชะลอตัวและมีต้นทุนยางเฉลี่ยที่ยังสูง รวมทั้งมีดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้นหลังบริษัทออกหุ้นกู้เพิ่มใน ธ.ค. 67 ดังนั้นเราจึงคงประมาณการเดิม โดยปี 2568 คาด NER มีกำไรปกติ 1,724 ลบ. เติบโต 3%YoY จากปริมาณขายและราคาขายยางที่สูงขึ้น แต่มาร์จิ้นจะลดลงตามต้นทุนยางและดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

  • ความเสี่ยงสำคัญ คือ ความผันผวนของราคายางพารา, มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ, การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก, ภาวะภัยแล้งจากเอลนีโญ, การแข็งค่าของเงินบาท ส่วนความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ การแปรรูปยางอาจก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศและเกิดน้ำเสียได้ (E) อย่างไรก็ดี บริษัทบริหารจัดการกระบวนการผลิตอย่างเป็นระบบ และมีการติดตามผลต่อเนื่อง
Stocks Mentioned
NER.BK
Author
Slide2
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล

นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5