กลยุทธ์ลงทุนช่วงสั้นยังคงแนะนำ Neutral เพราะมีจุดเด่นที่ปันผลสูง โดยคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไร 2H68 หุ้นละ 0.33 บาท คิดเป็น Div. Yield สูงราว 8% ขณะที่แม้ราคาหุ้นปัจจุบันจะมี Upside 20% จากราคาเป้าหมายปี 2569 ที่หุ้นละ 5.00 บาท (EPS อิงจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากใช้สิทธิแปลงสภาพ NER-W2 ซึ่งมี 308 ล้านหน่วย และกำหนดให้ใช้สิทธิเท่ากัน 2 ครั้งในเวลาที่เหลืออีก 7 เดือน พร้อมอิงค่าเฉลี่ย PER 3 ปีย้อนหลังล่าสุดที่ 5.5 เท่า) แต่ยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตามอยู่ที่มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐซึ่งยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับรายการสินค้าที่ถูกจัดเก็บและสัดส่วน Local Content ที่จะถูกนำมาพิจารณาในเกณฑ์ภาษี ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและคำสั่งซื้อในระยะถัดไป ทำให้ Risk/Reward ยังไม่คุ้มค่าสำหรับซื้อลงทุนใหม่ในช่วงสั้น
ก่อนไปคิดอะไร
หลังไปได้อะไร