PDF Available  
Stock Note

Stock Note - NER บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์

By ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล|11 Nov 25 7:39 AM
สรุปสาระสำคัญ

กลยุทธ์ลงทุนช่วงสั้นยังคงแนะนำ Neutral เพราะมีจุดเด่นที่ปันผลสูง โดยคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไร 2H68 หุ้นละ 0.33 บาท คิดเป็น Div. Yield สูงราว 8% ขณะที่แม้ราคาหุ้นปัจจุบันจะมี Upside 20% จากราคาเป้าหมายปี 2569 ที่หุ้นละ 5.00 บาท (EPS อิงจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นจากใช้สิทธิแปลงสภาพ NER-W2  ซึ่งมี 308 ล้านหน่วย และกำหนดให้ใช้สิทธิเท่ากัน 2 ครั้งในเวลาที่เหลืออีก 7 เดือน พร้อมอิงค่าเฉลี่ย PER 3 ปีย้อนหลังล่าสุดที่ 5.5 เท่า) แต่ยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตามอยู่ที่มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐซึ่งยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับรายการสินค้าที่ถูกจัดเก็บและสัดส่วน Local Content ที่จะถูกนำมาพิจารณาในเกณฑ์ภาษี ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและคำสั่งซื้อในระยะถัดไป ทำให้ Risk/Reward ยังไม่คุ้มค่าสำหรับซื้อลงทุนใหม่ในช่วงสั้น

ก่อนไปคิดอะไร

  • บริษัทมองทิศทางผลการดำเนินงาน 4Q68 อย่างไร หลังมีกำไรสุทธิ 3Q68 อยู่ที่ 327 ลบ. หดตัว 9.5%YoY และ 41%QoQ แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ (กำไรจาก Fx 38 ลบ., ขาดทุนจากวัดมูลค่ายุติธรรมของตราสารอนุพันธ์ 17.7 ลบ. และขาดทุนจากอัคคีภัย 32.7 ลบ.) จะมีกำไรปกติ 339 ลบ. (ต่ำกว่าตลาดคาด 5%) เติบโต 53%YoY จากฐานปีก่อนต่ำ ทั้งนี้แม้ราคาขายยางเฉลี่ยอยู่ที่ 59.83 บาทต่อกก. หดตัว 4.9%YoY แต่ชดเชยจากมีปริมาณขายยาง 1.12 แสนตัน เพิ่มขึ้น 14.7%YoY จึงทำให้ยอดขายยังเพิ่มขึ้น 9%YoY อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเป็น 8.9% จาก 8.3% ใน 3Q67 หลังมีต้นทุนยางเฉลี่ยต่ำลง และมี SG&A/Sales ลดลงเป็น 2.1% จาก 2.9% ใน 3Q67 หลังมีค่ากองทุนสงเคราะห์สวนยางและค่าขนส่งสินค้าไปต่างประเทศลดลง อย่างไรก็ตาม กำไรปกติ 3Q68 หดตัว 31%QoQ จากมียอดขายลดลง 11%QoQ หลังราคาขายลดลง 11.7%QoQ และมีปริมาณขายยางเพิ่มเพียง 0.5%QoQ อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้นหดตัว QoQ จากราคาขายยางลดลงแรง

หลังไปได้อะไร

  • ผู้บริหาร NER คงเป้าปริมาณขายยางปีนี้ที่ 4.7 แสนตัน (+7%YoY) โดย 4Q68 คาดยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นจะดีกว่า 3Q68 เพราะราคาขายยางเริ่มดีขึ้น หลังรัฐบาลเข้ามาดูแลราคายางและพ้นช่วงที่ผู้ประกอบการแย่งกันขายจากกังวลภาษีนำเข้าสหรัฐซึ่งกดดันให้มีการแข่งขันด้านราคาสูง อีกทั้งคาดจะมีการรับรู้ยอดผลิตยางให้แก่ กยท. ราว 3 หมื่นตันในช่วง พ.ย.-ธ.ค. นี้ ส่วนเหตุไฟไหม้ที่โรงเก็บสินค้าคาดจะมีการบันทึกค่าสินไหมชดเชยเพิ่มอีกราว 200 ลบ. ในช่วง 4Q68-1Q69 ซึ่งบริษัทจะนำเงินค่าชดเชยที่ได้ไปสร้างโรงเก็บสินค้าใหม่ ขณะที่แผนขยายโรงงานแห่งที่ 3 คาดจะเริ่มสร้างต้นปีหน้าและดำเนินการผลิตได้ใน 3Q69 ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับคำสั่งผลิตยางให้แก่ กยท. ปีละ 2.0 แสนตัน เป็นเวลา 5 ปี หลังมีการเซ็น MOU กันไปในช่วง ต.ค. ที่ผ่านมา
  • 4Q68 คาดกำไรปกติลดลง YoY เพราะปริมาณขายยางชะลอตัวตามภาวะ ศก. ซบเซาและราคาขายยางจะต่ำกว่าปีก่อนซึ่งทรงตัวอยู่ในระดับสูง อีกทั้งต้องรับรู้ดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้นหลังบริษัทออกหุ้นกู้เพิ่มใน ธ.ค. 67 อย่างไรก็ดี คาดกำไรปกติ 4Q68 ยังเติบโต QoQ ตามผลฤดูกาล ซึ่งส่วนใหญ่จะมีคำสั่งซื้อเร่งตัวขึ้นของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งคาดราคาขายยางจะดีขึ้นหลังพ้นภาวะแย่งกันขายใน 3Q68 อีกทั้งกำไรปกติ 9M68 คิดเป็น 83% ของประมาณการเดิมทั้งปีซึ่งสูงเกินไปจากยอดขายที่ดีกว่าคาดและ SG&A ที่ต่ำกว่าคาด หลังเรายึดหลักระมัดระวังมากเกินไป เพื่อสะท้อนปัจจัยดังกล่าวเราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรตั้งแต่ปีนี้เฉลี่ยราว 8% โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาดปี 2568 และปี 2569 NER จะมีกำไรปกติเติบโตเฉลี่ยปีละ 8% ตามปริมาณขายที่สูงขึ้น
  • ความเสี่ยงสำคัญ คือ ความผันผวนของราคายางพารา, มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ, การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก,  ภาวะภัยแล้งจากเอลนีโญ, การแข็งค่าของเงินบาท ส่วนความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ การแปรรูปยางอาจก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศและเกิดน้ำเสียได้ (E) อย่างไรก็ดี บริษัทบริหารจัดการกระบวนการผลิตอย่างเป็นระบบและมีการติดตามผลต่อเนื่อง
Stocks Mentioned
NER.BK
Author
Slide2
ณัฏฐ์วริน ไตรภพสกุล

นักวิเคราะห์อาวุโสกลุ่มหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5