
ก่อนไปคิดอะไร
- ผลการดำเนินงานปี 2566 จะเป็นอย่างไร หลังยอดส่งออกรถยนต์ของไทย 4M66 อยู่ที่ 353,632 คัน เพิ่ม 12.3%YoY ขณะที่ 1Q66 NYT มีกำไรสุทธิ 105 ลบ. โตเด่น 96.3%YoY จากรายได้ให้บริการท่าเทียบเรือเพิ่มขึ้น 26.5%YoY หลังตลาดส่งออกรถยนต์ฟื้นทำให้มีปริมาณรถยนต์ผ่านท่าเพิ่ม 4%YoY และมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 41.1% จาก 36.2% ใน 1Q65 หลังเกิดผลประหยัดต่อขนาดตามการเพิ่มขึ้นของปริมาณรถยนต์ผ่านท่า
หลังไปได้อะไร
- NYT คาดมีรายได้ปี 2566 เติบโต 8-9%YoY จากการฟื้นตัวของรายได้บริการท่าเทียบเรือ หลังปัญหาขาดแคลนชิปคลี่คลาย ทำให้ผู้ประกอบการกลับมาผลิตและส่งออกรถยนต์ได้ ส่วนรายได้คลังสินค้าคาดเติบโต 2-3%YoY จากจุดแข็งของทำเลที่อยู่รอบท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จึงทำให้มีอัตราใช้พื้นที่คลังสินค้าเกือบเต็ม 100% และค่าเช่ายังปรับขึ้น 10% ทุก 3 ปีสำหรับลูกค้าที่เช่าระยะยาว อีกทั้ง 2H66 บริษัทมีแผนขยายคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าที่บ่อวินอีก 3.4 หมื่นตร.ม. (ปัจจุบันมีพื้นที่เช่า 2.7 แสนตรม.) เพื่อรองรับการเติบโตแถบ EEC
- ขณะที่ธุรกิจใหม่เรือซีฮอร์สเฟอร์รี่คาดจะทยอยรับรู้ผลขาดทุนที่ลดลง (ปี 2565 ขาดทุน 87 ลบ.และ 1Q66 ขาดทุน 20 ลบ.) เนื่องจากได้ปรับวัตถุประสงค์จากเรือขนส่งสินค้ามาเป็นเรือสำราญขนส่งผู้โดยสาร (จุได้ 598 คน/เที่ยว) เส้นทางสัตหีบ-สมุย (ราคาเริ่มต้น 5 พันบาท/ที่นั่ง เดินเรือ 2 รอบ/วัน) ซึ่งเพิ่งดำเนินการเต็มรูปแบบตั้งแต่ มี.ค. 66 และเริ่มมีกระแสตอบรับดีขึ้น (ปัจจุบันมีผู้โดยสาร 100 คน/เที่ยว ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุนที่ 300 คน/เที่ยว)
ความเห็นและกลยุทธ์การลงทุน
- 2Q66 คาด NYT มีกำไรอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ยังโตเด่น YoY ตามตลาดส่งออกรถยนต์ที่ฟื้นตัว สะท้อนจากปริมาณรถยนต์ผ่านท่าของบริษัท เม.ย. และ พ.ค. ที่โต 31%YoY และ 22%YoY ตามลำดับ (ยอดส่งออกรถยนต์ของไทย เม.ย. +43.5%YoY) ขณะที่ปี 2566 คาดมีกำไรสุทธิ 318 ลบ. เติบโต 27%YoY จากการเพิ่มขึ้นทั้งรายได้ให้บริการเทียบท่าและคลังสินค้าที่คาดเติบโต 13%YoY และ 2%YoY ตามลำดับ อีกทั้งคาดรับรู้ผลขาดทุนที่ลดลงในบ.ร่วม (ท่าเรือ C0 ถือ 49%) หลังลูกค้าเริ่มกลับมาส่งสินค้าโครงสร้างขนาดใหญ่ รวมทั้งศักยภาพทำกำไรคาดดีขึ้นหลังเกิดผลประหยัดต่อขนาดตามจำนวนรถยนต์ส่งออกที่เพิ่มขึ้น
- ช่วงสั้นมองราคาหุ้น NYT มีปัจจัยกระตุ้นจากเป็นหุ้นที่ได้อานิสงส์บวกโดยตรง จากการเติบโตที่ดีของตลาดส่งออกรถยนต์ของไทยและตลาดนำเข้ารถยนต์ EV ซึ่งส่งผลดีต่อการดำเนินงานของ NYT ที่เป็นผู้นำการให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อส่งออกและนำเข้ารถยนต์ของไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 80% จากการให้บริการท่าเทียบเรือ A5 และ C0 ขณะที่ประเมินกรอบราคาเป้าหมายปี 2566 ที่หุ้นละ 4.60-4.90 บาท (อิงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี PER 18-19x) และคาดมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2566 หุ้นละ 0.26 บาท คิดเป็น Yield สูงปีละ 6% กลยุทธ์ลงทุนช่วงสั้นจึงแนะนำ “หาจังหวะซื้อ” โดยเทคนิคมีแนวรับ 4.06/3.94 บาท
- ความเสี่ยงสำคัญ : ปัญหาขาดแคลนชิปส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานยานยนต์, ศก. คู่ค้าชะลอ, กระแสตอบรับในธุรกิจใหม่ของบ. ย่อย ซีฮอร์สเฟอร์ ขณะที่ผลกระทบจากปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคาดจำกัด เนื่องจากพนักงานส่วนใหญ่เป็นแรงงานมีทักษะที่ได้ค่าแรงสูงกว่าขั้นต่ำอยู่แล้ว
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม NYT_Stock Note 230612_T