ทิศทางงบ 4Q22 ยังคงอ่อนแอ /คาดงบ FY23 ฟื้นตัวดีหนุนจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวและ Pentup Demand
Anta Sports เผยพรีวิวงบใน 4Q22 แบรนด์ Anta core, Fila และแบรนด์อื่นๆ มียอดขายเติบโตในระดับ –High Single Digit, -low-teens และ +low-teens yoy ซึ่งภาพรวมเป็นไปตามตลาดคาด อย่างไรก็ดียอดขายในช่วงวันหยุดปีใหม่กลับมาเติบโตในระดับเลขสองหลัก (YoY) ขณะที่เตรียมเผยงบ FY22 และ 2H22 ในวันที่ 21 มี.ค. 2023
มุมมองของ InnovestX
เรามองว่างบ 2H22 ของ Anta Sports ยังคงมีแนวโน้มชะลอตัวถึงแม้จะมีแรงหนุนจากยอดขายในช่วงวันหยุดสิ้นปีและการเปิดเมืองจีนที่เร็วกว่าคาด แต่อย่างไรก็ดีมองว่าไม่สามารถช่วยเยียวยาแรงกดดันจากการล็อคดาวน์ของจีนในช่วง 2H22 ประกอบกับการเติบโตของยอดขายใน 4Q22 ที่ยังคงหดตัว YoY หลังระดับสินค้าคงคลังยังคงอยู่สูงและทรงตัว QoQ ด้าน Bloomberg คาดใน FY22 รายได้จะโตชะลอตัวที่ 8.1% และคาดกำไรจะลดลง 3.6%YoY
อย่างไรก็ดี เราคาดว่า Anta Sports จะสามารถฟื้นตัวได้เต็มที่ตั้งแต่ในช่วง 2Q23-4Q23 โดยมีแรงหนุนหลักจาก 1) อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีหลังประเทศจีนมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ 2) การสนับสนุนการขายที่เพิ่มขึ้นทั้งการลดราคาและการจัดโปรโมชั่นช่วยหนุนยอดขายให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับช่วยลดสินค้าคงคลังได้ 3) ราคาขายที่สูงขึ้นในบางรุ่นสินค้าที่ติดตลาด 4) ได้รับประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯจีนมีแผนจะมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนภาคบริโภคภายในประเทศ ด้าน Bloomberg คาดในปี FY23 รายได้และกำไรฟื้นตัวเพิ่มขึ้น 17.3%YoY และ 28.8%YoY ตามลำดับ
ในระยะยาว เรายังมองบวกต่อ Anta Sports หลัง 1) เป็นหนึ่งในแบรนด์ชุดกีฬาชั้นนำของประเทศจีน ที่มีแบรนด์หลากหลาย รวมถึงมีส่วนแบ่งการตลาดที่ดี โดยในปี 21 Anta core brand และ Fila มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 10% และ 6.7% ตามลำดับ 2) มีหน้าร้านและสาขาที่เยอะ รวมถึงกระจายทั่วทุกภูมิภาค โดยในช่วง 1H22 มีสาขารวมจากแบรนด์ทั้งหมดราว 11,579 สาขา 3) มีกลยุทธ์การบริหารงานแยกตามภาพลักษณ์แบรนด์ที่มีประสิทธิภาพ 4) สถานะทางการเงินดี โดยมี D/E ต่ำที่ 0.6
ถึงแม้ปัจจุบันราคาหุ้น Anta Sports จะกลับสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว แต่อย่างไรก็ดีหากดูที่ Valuation ถือว่าน่าสนใจ โดย PE ในปัจจุบันอยู่ในระดับ 27.4 ซึ่งถือว่าต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 41.9 ประกอบมองว่ายังคงมี Upside จากผลประกอบการที่ฟื้นตัวใน FY23 ทำให้เราแนะสะสมในช่วงที่ราคาย่อตัวลง โดยมองจังหวะซื้ออยู่ที่ 100 HKD ด้าน Bloomberg ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 128.8HKD ซึ่งมี Upside 19.3% จากราคาปัจจุบัน
<br/><div style='font-size: smaller;' >