Keyword
PDF Available  
Offshore Stock Update

JD.com Inc (9618.HK, JD.US)

15 Aug 25 12:42 PM
สรุปสาระสำคัญ

JD.com เผยงบ 2Q25 โดยรายได้รวม +22% YoY สูงกว่าคาด ~6% จากแรงหนุนมาตรการรัฐและโปรโมชันลดราคา ส่วนกำไรสุทธิ ลดลงเกือบครึ่ง YoY หลักๆเพราะขาดทุนธุรกิจใหม่

ธุรกิจหลักอย่าง JD Retail เติบโตแข็งแกร่ง 21% YoY นำโดย โดยอิเล็กทรอนิกส์/เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภค

ด้านธุรกิจใหม่ (Food Delivery + Jingxi) ขาดทุน 15,000 ล้านหยวน สูงกว่าคาดจากการลงทุนสร้าง Ecosystem โดยมีค่าใช้จ่ายการตลาดเพิ่มเท่าตัว กดดันให้กำไรจากการดำเนินงานรวมลดลง 92% YoY และ OPM เหลือ 0.3%

เราคาดว่ากำไรยังถูกกดดันตลอดปี 2025 จากการลงทุนในธุรกิจใหม่และการขยายต่างประเทศ

มุมมองการลงทุน ในระยะกลาง-ยาว JD.com ยังคงมีความสามารถในการรักษาการเติบโตของธุรกิจหลักอย่างอีคอมเมิร์ซได้ดี หากสามารถปรับ Unit Economics ของ Food Delivery ให้ดีขึ้นและสร้าง Synergy กับธุรกิจหลัก 

แต่ในระยะสั้น มาร์จิ้นรวมจะถูกกดดันจากการลงทุน ประกอบกับความไม่แน่นอนของการต่ออายุโครงการ Trade-in ทำให้เราแนะชะลอการลงทุนในช่วงสั้น และรอติดตามดูความชัดเจนของการแข่งขันใน Food Delivery ให้น้อยลงก่อน ถึงเป็นจังหวะที่เข้าลงทุน

JD.com รายได้ 2Q25 ดีกว่าคาดหนุนจากการเติบโตแข็งแกร่งของ JD Retail แต่ขาดทุนจาก New Business

JD.com รายงานรายได้ 2Q25 ที่ 356.7 พันล้านหยวน (+22% YoY) สูงกว่าคาดราว 6% จากแรงหนุนของ มาตรการอุดหนุนการบริโภคของภาครัฐ และการจัดโปรโมชั่นลดราคา อย่างไรก็ดี ธุรกิจใหม่ (Food delivery + Jingxi) ขาดทุน 15,000 ล้านหยวน สูงกว่าที่คาด เนื่องจากบริษัทยังลงทุนต่อเนื่องเพื่อสร้าง Ecosystem ด้านบริการส่งอาหารและช้อปปิ้งแบบทันที ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 7.4 พันล้านหยวน ลดลงเกือบครึ่ง YoY

โดยธุรกิจ JD Retail เป็นตัวหลักในการหนุนการเติบโตของรายได้รวม โดยมีรายได้เติบโต 21% จากทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า (+23% YoY) ที่ได้แรงหนุนจากโครงการ Trade-in ของรัฐ สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป (+16% YoY) และ 3P Marketplace (+22% YoY) โดย EBIT margin ของ JD Retail อยู่ที่ 4.5% (ดีกว่าคาดที่ 3.9%) และกำไร JD Retail เติบโต 38% YoY นอกจากนี้บริษัทยังคาดว่า 3Q25 และ FY25 รายได้ค้าปลีกจะยังเติบโตได้ แม้ฐานสูงขึ้นจากปีก่อน

การรุกธุรกิจใหม่ Food Delivery กดดันมาร์จิ้นแต่ช่วยเพิ่มฐานผู้ใช้

แม้ธุรกิจหลักจะทำกำไรดี แต่การรุกตลาด Food Delivery และ Fast-Commerce ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น โดยค่าใช้จ่ายการตลาดเพิ่มเท่าตัวเป็น 27 พันล้านหยวน ทำให้กำไรจากการดำเนินงานรวมของกลุ่มลดลงถึง 92% และอัตรากำไรจากการดำเนินงานเหลือเพียง 0.3% จาก 4% ใน 2Q24 จากการแข่งขันด้านราคากับ Meituan และ Alibaba ยังคงรุนแรง แต่อย่างไรก็ดีการเข้าสู่ตลาด Food Delivery และ Fast-Commerce นี้ ช่วยเพิ่มฐานผู้ใช้และการ cross-sell สินค้าใน ecosystem โดยมียอดสั่งสูงสุดเกิน 25 ล้านออเดอร์/วัน และร้านค้ามากกว่า 1.5 ล้านราย

มุมมองของ InnovestX

ด้านแนวโน้มเราคาดว่ากำไรจะยังถูกกดดันต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2025 จากการลงทุนในธุรกิจส่งอาหารและออนดีมานด์ รวมถึงการขยายไปต่างประเทศ อย่างไรก็ดี JD.com ยังมีจุดแข็งคือ 1) การสนับสนุนของภาครัฐผ่านเงินอุดหนุนยังช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย 2) การครองตลาด Electronics, Appliances และ FMCG รวมถึง 3) ความได้เปรียบด้าน ซัพพลายเชนและคลังสินค้าในประเทศ ที่แข่งขันได้ยากในอุตสาหกรรม

มุมมองการลงทุน JD.com มีความสามารถในการรักษาการเติบโตของธุรกิจหลักอย่างอีคอมเมิร์ซได้ดี ในระยะกลาง-ยาว หากสามารถปรับ Unit Economics ของ Food Delivery ให้ดีขึ้นและสร้าง Synergy กับธุรกิจหลัก อาจเป็นปัจจัยในการกระตุ้นราคาหุ้นได้อีกครั้ง

แต่ในระยะสั้น มาร์จิ้นรวมจะถูกกดดันจากการลงทุนในธุรกิจใหม่ ที่จะยังคงเป็น Overhang ตลอดทั้งปี ประกอบกับความไม่แน่นอนของการต่ออายุโครงการ Trade-in หลังปี 2026 ทำให้เราแนะชะลอการลงทุนในช่วงสั้น และรอติดตามดูความชัดเจนของการแข่งขันใน Food Delivery ให้น้อยลงก่อน ถึงมองเป็นจังหวะที่สนใจเข้าลงทุน

Stocks Mentioned
9618.HK
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5