กำไร 1QFY67 ของ AEONTS ออกมาต่ำกว่าคาดค่อนข้างมาก เพราะ ECL สูงกว่าคาด โดยผลประกอบการสะท้อนถึง credit cost และ NPL ที่สูงขึ้น สินเชื่อที่อยู่ในระดับทรงตัว NIM ที่ดีขึ้น non-NII ที่สูงขึ้น และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง เราปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 170 บาท สู่ 158 บาท เนื่องจากเราปรับ PBV เป้าหมายลดลงจาก 1.6 เท่า สู่ 1.5 เท่า เพื่อสะท้อนการปรับสมมติฐาน sustainable ROE ลดลงจาก 13% สู่ 12.5% หลังจากปรับประมาณการกำไรลดลง 4% เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ AEONTS เนื่องจากเราเชื่อว่าช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดได้สะท้อนในราคาหุ้นไปแล้ว และคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวตั้งแต่ 2QFY67 เป็นต้นไป 1QFY67: กำไรผิดคาดเพราะ ECL กำไรสุทธิ 1QFY67 (มี.ค.-พ.ค.) ลดลง 15% YoY และ 52% QoQ สู่ 524 ลบ. ต่ำกว่า INVX และ consensus คาด 30% หลักๆ เกิดจาก ECL โดยสรุปรายละเอียดได้ดังนี้ 1) คุณภาพสินทรัพย์: credit cost เพิ่มขึ้น 354 bps QoQ (+22 bps YoY) สู่ 9.14% ใน 1QFY67 แย่กว่าคาด ซึ่งเป็นผลมาจาก: 1) การกลับสู่ระดับปกติจากระดับต่ำผิดปกติใน 4QFY66 ที่ได้รับอานิสงส์จากการผ่อนปรนเกณฑ์การจัดชั้นลูกหนี้จากจำนวนวันค้างชำระ 28 วัน เป็น 30 วัน และ 2) อัตราส่วน NPL ที่เพิ่มขึ้น 43 bps QoQ หลังจากมีการปรับเพิ่มอัตราการชำระบัตรเครดิตขั้นต่ำจาก 5% ในปี 2566 เป็น 8% ในปี 2567 LLR coverage ลดลงเหลือ 168% จาก 182% ณ 4QFY66 เราปรับประมาณการ credit cost เพิ่มขึ้น 10 bps เป็น 8% (+18 bps) สำหรับปี FY2567 และ 8.1% สำหรับปี FY2568 2) การเติบโตของสินเชื่อ: สินเชื่ออยู่ในระดับทรงตัว QoQ (-3% YoY) ใน 1QFY67 สินเชื่อบัตรเครดิตลดลง 2% QoQ (จากการปรับเพิ่มอัตราการชำระบัตรเครดิตขั้นต่ำ) สินเชื่อส่วนบุคคลปรับขึ้น 0.5% QoQ และสินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มขึ้น 14% QoQ (หลักๆ เกิดจากสินเชื่อรถยนต์มือสอง) 3) NIM: +35 bps QoQ (+5 bps YoY) ใน 1QFY67 ดีกว่าที่เราคาดการณ์ อัตราผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 42 bps QoQ (+25 bps YoY) ใน 1QFY67 ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 9 bps QoQ (+31 bps YoY) ใน 1QFY67 4) Non-NII: + 6% QoQ (+16% YoY) จากรายได้หนี้สูญรับคืน (+8% QoQ, +19% YoY) 5) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: -56 bps QoQ (+299 bps YoY) สู่ 44.22% opex อยู่ในระดับทรงตัว QoQ (+8% YoY) ใน 1QFY67 ปรับประมาณการกำไรลดลง แต่คาดว่าจะฟื้นตัวตั้งแต่ 2QFY67 เป็นต้นไป เราปรับประมาณการกำไรปี FY2567 และปี FY2568 ลดลงปีละ 4% เนื่องจากเราปรับประมาณการ credit cost ปี FY2567 เพิ่มขึ้น 10 bps โดยปัจจุบันเราคาดว่ากำไรปี FY2567 จะลดลง 2% โดยเกิดจากสินเชื่อที่เติบโต 5%, NIM ที่แคบลง 18 bps อันเป็นผลมาจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นและอัตราผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อที่ลดลง, รายได้หนี้สูญรับคืนและกำไรจาก NPL ที่เพิ่มขึ้น 20% และ credit cost ที่เพิ่มขึ้น 18 bps กำไร 1QFY67 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 16% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา แต่เราเชื่อว่ากำไรของ AEONTS ทำจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1QFY67 และคาดว่าจะฟื้นตัวตั้งแต่ 2QFY67 เป็นต้นไป สำหรับ 2QFY67 เราคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น QoQ (จากกำไรจากการขาย NPL และ credit cost ที่ลดลง) แต่จะลดลง YoY (NII ลดลง และ opex เพิ่มขึ้น) คงคำแนะนำ OUTPERFORM แต่ปรับราคาเป้าหมายลดลง เราปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 170 บาท สู่ 158 บาท เนื่องจากเราปรับ PBV เป้าหมายลดลงจาก 1.6 เท่า สู่ 1.5 เท่า เพื่อสะท้อนการปรับสมมติฐาน sustainable ROE ลดลงจาก 13% สู่ 12.5% หลังจากปรับประมาณการกำไรลดลง เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ AEONTS เนื่องจากเราเชื่อว่าช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดได้สะท้อนในราคาหุ้นไปแล้ว และคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวตั้งแต่ 2QFY67 เป็นต้นไป ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึง 2) ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบจากมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนของธปท. และ 3) ความเสี่ยง ESG ด้านการให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct) | |||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก AEONTS240708_T
|