Keyword
Company Update

บทวิเคราะห์รายบริษัท : ESSO

28 Feb 23 9:00 AM
esso-20240911163040

ขาดทุนสุทธิ 4Q65 ของ ESSO ที่ 1.6 พันลบ. ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากจากขาดทุนสุทธิ 3.1 พันลบ. ใน 3Q65 ซึ่งเป็นผลมาจากขาดทุนสินค้าคงเหลือที่ลดลงและค่าการกลั่นพื้นฐานที่ดีขึ้น (เพิ่มขึ้น 53% QoQ สู่ US$6.9/bbl) ทั้งนี้แม้ว่าจะมีขาดทุนสุทธิ 4.7 พันลบ. ใน 2H65 แต่ผลการดำเนินงานเต็มปีของ ESSO ยังคงเป็นบวก โดยกำไรสุทธิทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 9.5 พันลบ. จากแรงหนุน GRM ที่สูงผิดปกติและอุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น เราคาดว่ากำไรปี 2566 ของ ESSO จะลดลง เพราะ GRM จะกลับสู่ระดับปดติ แม้คาดว่าปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น YoY เพื่อรองรับอุปสงค์ในประเทศที่สูงขึ้น แม้ว่ากำไรปี 2565 ทำสถิติสูงสุด แต่เราเชื่อว่าความสนใจที่นักลงทุนมีต่อ ESSO น่าจะมีจำกัดเมื่อพิจารณาจากราคาเข้าซื้อกิจการที่เห็นชอบโดย ExxonMobil Asia Holdings และ BCP เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ ESSO และปรับราคาเป้าหมาย (สิ้นปี 2566) ลดลงสู่ 10.30 บาท อ้างอิง PBV 1.1 เท่า (ปี 2566)

ปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นลดลง QoQ จากการหยุดซ่อมบำรุง ปริมาณน้ำมันดิบที่นำเข้ากลั่นของ ESSO ลดลง 3% QoQ สู่ 130kbd (อัตราการใช้กำลังการผลิต 75%) แต่ไม่ได้มีผลกระทบต่อปริมาณการขายใน 4Q65 ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% YoY และ 4% QoQ เนื่องจากอุปสงค์ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปโดยรวมปรับตัวดีขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินและ LPG ปริมาณการขายน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 9% QoQ ในขณะที่ปริมาณการขายน้ำมันดีเซลลดลง 0.2% QoQ เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ +5% QoQ สัดส่วนยอดขายในธุรกิจพาณิชยกรรมลดลงจาก 53% ใน 3Q65 สู่ 51% ใน 4Q65 เนื่องจากปริมาณการขายในธุรกิจค้าปลีกเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ธุรกิจค้าปลีกของ ESSO รายงานปริมาณการขายทำสถิติสูงสุดในเดือนธ.ค. ที่ 61.8kbd อันเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการตลาดและการขยายสถานีบริการอย่างต่อเนื่อง (+73 แห่งจากสิ้นปี 2564 สู่ 802 แห่ง)

Accounting GRM ยังติดลบ เพราะขาดทุนสต๊อก ค่าการกลั่นพื้นฐานของ ESSO เพิ่มขึ้น 28% YoY และ 53% QoQ สู่ US$6.9/bbl สูงกว่า Singapore GRM ที่ US$6.3/bbl เล็กน้อย โดยมีสาเหตุมาจาก crude premium ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม accounting GRM ยังติดลบที่ US$1.5/bbl โดยเกิดจากขาดทุนสต๊อกจำนวน US$8.4/bbl แม้ต่ำกว่าขาดทุน US$11.9/bbl ใน 3Q65 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันรายอื่นๆ เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องใน 4Q65 โดยมีสาเหตุมาจากความกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอย

คงเรทติ้ง NEUTRAL และปรับราคาเป้าหมายลดลงสู่ 10.30 บาท เราคาดว่ากำไรจะอ่อนตัวลงจากระดับที่ทำสถิติสูงสุดในปี 2565 เพราะ GRM ของน้ำมันดีเซลและน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานจะกลับสู่ระดับปกติ เราคาดว่ากำไรสุทธิจะลดลง 22% YoY ในปี 2566 โดยค่าการกลั่นพื้นฐานจะลดลงจาก US$9/bbl ในปี 2565 สู่ US$7.8/bbl ในปี 2566 แม้ valuation ปัจจุบันดูไม่แพง แต่การกำหนดราคาที่ BCP จะเข้าซื้อหุ้นของ ESSO จะทำให้ความสนใจที่นักลงทุนมีต่อ ESSO ปรับตัวลดลง เราปรับราคาเป้าหมาย (สิ้นปี 2566) ของ ESSO ลดลงจาก 15.20 บาท สู่ 10.30 บาท อ้างอิง PBV 1.1 เท่า (-1SD)

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปและ GRM ในขณะที่ความผันผวนของราคาน้ำมันอาจส่งผลทำให้มีขาดทุนสต๊อกเพิ่มขึ้น ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คือ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการแทรกแซงของรัฐบาลเพื่อตรึงราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5