ผลประกอบการ 4Q65 ของ KBANK ออกมาแย่กว่าคาดค่อนข้างมาก เพราะตั้งสำรองสูงกว่าคาดอย่างมาก แม้ว่าจะมีกำไรจาก FVTPL จำนวนมาก เราปรับลดคำแนะนำสำหรับ KBANK ลงสู่ NEUTRAL โดยจะทบทวนราคาเป้าหมายและประมาณการกำไรอีกครั้งหลังการประชุมนักวิเคราะห์
ผลประกอบการ 4Q65 ของ KBANK ออกมาแย่กว่าคาดค่อนข้างมาก เพราะตั้งสำรองสูงกว่าคาดอย่างมาก แม้ว่าจะมีกำไรจาก FVTPL จำนวนมาก เราปรับลดคำแนะนำสำหรับ KBANK ลงสู่ NEUTRAL โดยจะทบทวนราคาเป้าหมายและประมาณการกำไรอีกครั้งหลังการประชุมนักวิเคราะห์
4Q65: แย่กว่าคาดค่อนข้างมากเพราะตั้งสำรองสูง KBANK รายงานกำไรสุทธิ 4Q65 จำนวน 3.19 หมื่นลบ. (-70% QoQ, -68% YoY) ต่ำกว่าประมาณการของเราที่ 8.2 พันลบ. และประมาณการของ consensus ที่ 9.7 พันลบ. อย่างมาก โดยมีสาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองมากกว่าคาด แม้ว่าจะมีกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจำนวนมาก ถ้าตัดกำไรจาก FVTPL ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวออกไป KBANK จะรายงานขาดทุนจำนวน 549 ลบ. ตามการคำนวณของเรา
รายการสำคัญ:
1) คุณภาพสินทรัพย์: NPL เพิ่มขึ้น 6% QoQ (+17% ถ้าบวกยอดตัดหนี้สูญกลับเข้ามา) credit cost เพิ่มขึ้น 207 bps QoQ สู่ 3.68% ใน 4Q65 และ credit cost ปี 2565 อยู่ที่ 2.11% แย่กว่าคาดค่อนข้างมาก LLR coverage เพิ่มขึ้นจาก 138% ณ 3Q65 สู่ 144%
2) การเติบโตของสินเชื่อ: +1% QoQ, +3% YoY ต่ำกว่าคาด
3) NIM: +29 bps QoQ เนื่องจากผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น 36 bps QoQ มากกว่าต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น 10 bps QoQ
4) Non-NII: +52% QoQ (+10% YoY) โดยเกิดจากกำไรจาก FVTPL จำนวนมากถึง 4.7 พันลบ. รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิลดลง 11% YoY และ 4% QoQ
5) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: -100 bps QoQ, -522 bps YoY โดยเกิดจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น
ปรับลดคำแนะนำลงสู่ NEUTRAL และกำลังทบทวนราคาเป้าหมาย เราปรับลดคำแนะนำสำหรับ KBANK ลงสู่ NEUTRAL เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาแล้วราว 10% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และคุณภาพสินทรัพย์แย่กว่าคาด เราจะทบทวนราคาเป้าหมายและประมาณการกำไรอีกครั้งหลังการประชุมนักวิเคราะห์
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเงินเฟ้อสูงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และ 2) ผลกระทบจาก Fintech
