กำไรสุทธิ 4Q66 ของ KKP ต่ำกว่าที่ INVX และ consensus คาดการณ์ไว้อย่างมาก โดยมีสาเหตุมาจาก non-NII ที่ต่ำกว่าคาด แต่คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 15% เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 4Q66 โดยปัจจุบันเราคาดว่ากำไรปี 2567 จะลดลง 2% เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ KKP โดยปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 55 บาท สู่ 46 บาท
คุณภาพสินทรัพย์: NPL ลดลง 11% QoQ หลักๆ เกิดจากสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อ SME ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ credit cost (รวมขาดทุนจากการขายรถยึด) ดีกว่าคาด โดยลดลง 19 bps QoQ สู่ 2.84% ขณะที่ผลขาดทุนจากการขายรถยึดอยู่ในระดับทรงตัว QoQ LLR coverage เพิ่มขึ้นจาก 145% ณ 3Q66 สู่ 165% การเติบโตของสินเชื่อ: -0.7% QoQ, +5.3% YoY อ่อนแอกว่าคาด การเติบโตของสินเชื่อแยกตามกลุ่ม: สินเชื่อบรรษัท +1% QoQ, +11.4% YoY; สินเชื่อ SME -4.7% QoQ, -1.4% YoY; สินเชื่อรายย่อย -0.5% QoQ (เนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อ -2.3% QoQ), +5.8% YoY (หลักๆ เกิดจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ +13.1%) NIM: ตามคาด โดย -44 bps QoQ เนื่องจากผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ลดลง 25 bps QoQ ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 21 bps QoQ ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ที่ลดลงอย่างมากเป็นเพราะไม่มีรายได้จากเงินลงทุนในสินเชื่อ (สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ) จำนวนมากเกิดขึ้นอีก Non-NII: ต่ำกว่าคาด โดย -4% QoQ (-47% YoY) เพราะขาดทุนจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยวิธี FVTPL ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมอยู่ในระดับทรงตัว QoQ non-NII ที่ต่ำกว่าคาดเกิดจากรายได้อื่น (+103% QoQ, -90% YoY) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: +462 bps QoQ (+2 bps YoY) สู่ 46% opex เพิ่มขึ้น 8% QoQ, (-13% YoY) แนวโน้มปี 2567 เราปรับประมาณการกำไรปี 2567 ลดลง 15% เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 4Q66 โดยปัจจุบันเราคาดคาดว่ากำไรปี 2567 จะลดลง 2% โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ Credit cost ลดลง: เราคาดว่า credit cost จะลดลง 31 bps จาก 81% ในปี 2566 สู่ 2.5% ในปี 2567 โดยเกิดจาก NPL ไหลเข้าที่ชะลอตัวลงและขาดทุนจากการขายรถยึดที่น้อยลง การเติบโตของสินเชื่ออยู่ในระดับปานกลาง: เราคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะทรงตัวอยู่ที่ 5% ในปี 2567 NIM ลดลง: เราคาดว่า NIM จะลดลง 26 bps ในปี 2567 (เทียบกับ +16 bps ในปี 2566) โดยเกิดจากรายได้จากสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (สูงกว่าปกติในปี 2566) ที่ลดลง Non-NII ฟื้นตัว: เราคาดว่า non-NII จะเติบโต 5% โดยเกิดจากกำไรจากเครื่องมือทางการเงินและรายได้อื่น อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้สูงขึ้น: เราคาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะเพิ่มขึ้นจาก 41% ในปี 2566 สู่ 42% ในปี 2567 เนื่องจากเราคาดว่า opex จะเติบโตสูงกว่ารายได้ คงเรทติ้ง NEUTRAL โดยปรับราคาเป้าหมายลดลง เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ KKP โดยปรับราคาเป้าหมายลดลงจาก 55 บาท สู่ 46 บาท (PBV ปี 2567 ที่ 0.6 เท่า) ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่ทั่วถึงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว 2) ราคารถมือสองลดลง และ 3) ตลาดทุนผันผวน |
||||
---|---|---|---|---|
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก KKP240123_T
|