เนื้อหาโดยรวม
เงินเฟ้อไทยต่ำกว่าคาดต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง บ่งชี้ว่าภาวะเงินฝืดเริ่มฝังราก |
อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคของไทยเดือน พ.ย. 2566 ลดลง -0.44% (YoY) เป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 (เดือน ต.ค. 2566 ลดลง-0.31%) โดยมีปัจจัยหลักจากราคาพลังงาน (ค่ากระแสไฟฟ้าและน้้ามันเชื้อเพลิง) ที่ปรับลดลงตามนโยบายของภาครัฐ และราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับสินค้าสำคัญในกลุ่มอาหารสดราคายังคงลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเนื้อสุกร และไก่สด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 0.58% (YoY) ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 0.66% กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 อยู่ระหว่าง 1.0-1.7% (ค่ากลาง 1.35%) ส่วนในปี 2567 จะอยู่ระหว่างติดลบ (-0.3)-1.7% (โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 0.7%) เรามองว่า ความเสี่ยงเงินฝืดเริ่มมีมากขึ้นจากการที่ (1) เงินเฟ้อผู้ผลิตหดตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะสินค้ากึ่งสำเร็จรูป บ่งชี้ว่าผู้ผลิตไม่สามารถส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคได้ (2) องค์ประกอบเงินเฟ้อจากเงินเฟ้อพื้นฐานเริ่มหดตัวลดลง บ่งชี้ว่าความเสี่ยงเงินฝืดเริ่มกระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น และ (3) หากยึดประมาณการเงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์ที่ (-0.3)-1.7% (โดยมีค่ากลางอยู่ที่ 0.7%) ท่ามกลางฐานปีนี้ที่ต่ำ (และติดลบในบางเดือน) บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อไทยต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% อย่างมาก และเรื้อรัง สำหรับปี 2566 เราคาดการณ์เงินเฟ้อที่ 3.0% จากฐานที่ต่ำในปีนี้ และมาตรการภาครัฐที่จะหมดลงในต้นปี 2024 อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงมากขึ้นว่าเงินเฟ้อจะต่ำกว่าเราคาดการณ์จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและนโยบายการเงินตึงตัว โดยเบื้องต้นมองว่าเงินเฟ้ออาจอยู่ที่ระดับ 2-3% |
ท่าน สามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Macro making sense 231208_T |