![test_blog_details_img](/ResourcePackages/scbs/assets/dist/images/blog-details/smile-face.png)
เนื้อหาโดยรวม
สรุปประเด็นเศรษฐกิจจีนชะลอตัวยกเว้นภาคการผลิต ทางการจีนออกมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาฯ สรุปผลประชุม รมว.คลัง-ผู้ว่าธปท. |
เศรษฐกิจจีนชะลอตัวยกเว้นภาคการผลิต Bloomberg รายงานว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจีนไม่สมดุล โดยเน้นไปทางภาคการผลิตมากขึ้น ทำให้จีนเสี่ยงต่อการถูกกีดกันทางการค้ามากขึ้น ด้านความต้องการภายในประเทศยังคงอ่อนแอ โดยยอดค้าปลีกขยายตัวต่ำกว่าคาดเพียง 2.3% ต่อปี ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2022 ในขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วเป็น 6.7% เร็วกว่าคาดการณ์ ทางการจีนออกมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาฯ ในวันศุกร์ที่ 17 พ.ค. รัฐบาลจีนประกาศ (1) ยกเลิกอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยขั้นต่ำ (2) ลดเงินดาวน์สินเชื่อที่อยู่อาศัย และ (3) ธนาคารกลาง (PBOC) เตรียมตั้งกองทุนมูลค่า 3 แสนล้านหยวน หรือ 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อซื้อบ้านที่ขายไม่ออก และจะถูกแปลงเป็นที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง เราวิเคราะห์ว่า ภาคอสังหาฯ จีน กำลังอยู่ในช่วง Consolidate หรือเป็นการเคลียร์ สต๊อกเก่า และเร่งขายให้หมด รวมถึงชะลอการออกโครงการใหม่ โดยในปัจจุบัน บ้านสร้างเสร็จรอการขายในจีนสูงเป็นอันดับสองรองจากในช่วงปี 2015 ซึ่งจากการวิเคราะห์ของเรา พบว่าจีนน่าจะต้องใช้เวลา 2-3 ปี เป็นอย่างน้อย จึงจะพ้นจากวิกฤตอสังหาฯ ได้ ทั้งนี้ เรามองว่ามาตรการกองทุน 3 แสนล้านหยวนของ PBOC จะช่วยฟื้นภาคอสังหาฯ จีนอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้น นโยบายของรัฐบาลจีนจะยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง โดยผู้ประกอบการที่มีภาครัฐเป็นเจ้าของ มีแนวโน้มที่จะได้รับความช่วยเหลือมากกว่าภาคเอกชน สรุปผลประชุม รมว.คลัง-ผู้ว่าธปท. กระทรวงการคลังและ ธปท.เห็นตรงกันว่า ตอนนี้ปัญหารายย่อยขาดสภาพคล่อง เนื่องจากเข้าไม่ถึงสินเชื่อ ส่งผลกระทบทั้งภาคครัวเรือนและธุรกิจ เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข เพื่อลดจำนวนหนี้เสีย (NPLs) มากกว่าการลดอัตราดอกเบี้ย การกำกับดูแลสถาบันการเงินอย่างเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สถาบันการเงินประเทศไทยมีความแข็งแกร่ง วันนี้กระทรวงการคลังและธปท.จึงมานั่งคุยกันว่าจะมีแนวทางอย่างไร ให้สถาบันการเงินทั้งภาครัฐและเอกชน ดำเนินการปรับพอร์ตสินเชื่อลูกค้าเฉพาะกลุ่มให้เข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น และมีอะไรที่สามารถทำได้ โดยไม่กระทบวินัยการคลัง ซึ่งมองว่ายังมีช่องว่างให้ทำอีกมาก ในประเด็นการบริหารเงินเฟ้อไม่เข้าเป้าทาง คลังเห็นว่า ธปท.มีวิธีคิดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอยู่แล้ว โดยปกติกรอบเงินเฟ้อจะมีการทบทวนทุกปี ซึ่งจะต้องคำนึงถึงสถานการณ์ในระยะข้างหน้า ซึ่งต้องให้อิสระ ธปท. เรามองว่า สัญญาณการพูดคุยระหว่าง รมว. คลัง กับผู้ว่าการฯ ธปท. มีลักษณะแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง รวมถึงพยายามหาทางออกจากจุดยืนที่แตกต่างของทั้งสององค์กร บ่งชี้ถึงความพยายามที่ดีของหน่วยงานเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ |
ท่าน สามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Macro making sense 240520_T |