ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

INVX Macro Making Sense – 22 เม.ย. 2567 สรุปประเด็นการปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกและไทยจากประเด็นภูมิรัฐศาสตร์และ Digital Wallet

blog_list_heading
InnovestX Research
22 เม.ย. 2567;
323
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

สรุปประเด็นการปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกและไทยจากประเด็นภูมิรัฐศาสตร์และ Digital Wallet

ณ เม.ย. 2024 มี 3 เหตุการณ์ที่ทำภาพเศรษฐกิจและนโยบายการเงินโลกเปลี่ยนไป อันได้แก่ (1) ภูมิรัฐศาสตร์ที่รุนแรงขึ้น (2) เศรษฐกิจโลกปรับตัวดีเกินคาด และ (3) สัญญาณจาก Fed ที่จะลดดอกเบี้ยช้าลง

สถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาสรุนแรงมากขึ้น โดยล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อิสราเอลได้ทำการโจมตีดินแดนอิหร่านในวันที่ 19 เม.ย.ด้วยโดรน สำนักข่าวฟาร์นิวส์ของอิหร่านรายงานก่อนหน้านี้ว่า มีเสียงระเบิดเกิดขึ้น 3 ครั้งใกล้กับฐานทัพทหารซึ่งตั้งอยู่ในเมืองอิสฟาฮาน การโจมตีครั้งนี้ยืนยันมุมมองของเราที่ว่า ขณะนี้ ความรุนแรงได้เคลื่อนเข้าสู่สถานการณ์ Shadow war หรือสงครามเงา ตามที่เราได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าแล้ว ทั้งนี้ เรายังคงยืนยันมุมมองเดิมว่า ในช่วงนับจาก 1 เดือน จนกระทั่งก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ความรุนแรงด้านภูมิรัฐศาสตร์จะเพิ่มขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น อาจเข้าสู่สถานการณ์สงครามตัวแทน (Proxy war) เต็มรุปแบบ

เราปรับความน่าจะเป็นของสถานการณ์ต่าง ๆ หลังความชัดเจนมีมากขึ้น โดยเรามองว่า Shadow war จะเป็นสถานการณ์หลัก โดยในสถานการณ์ดังกล่าว ราคาน้ำมันเฉลี่ยจะอยู่ในระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลทำให้ Fed ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง ขณะที่ธปท. ไม่ลดดอกเบี้ยทั้งปีนี้ ขณะที่สถานการณ์ที่เป็นไปได้อันดับที่ 2 ได้แก่ สถานการณ์สงครามตัวแทน (Proxy war) รวมถึงปรับประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐตามทิศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นเกินคาดในปัจจุบัน

สถานการณ์เศรษฐกิจโลกดูดีขึ้น แต่ความเสี่ยงวิกฤตการเงินและ/หรือเศรษฐกิจมีมากขึ้น โดยแม้ว่าสัญญาณเศรษฐกิจโลกจะดูดีขึ้นในปีนี้ จาก เงินเฟ้อที่ลดลง ทำให้รายได้ที่แท้จริงเพิ่มขึ้น และจากอีกส่วนจากสินค้าคงคลังที่หมดลง ทำให้วัฐจักรการผลิตเริ่มกลับมา แต่เรากังวลวิกฤตการเงิน/เศรษฐกิจ (จากดอกเบี้ยสูง) มีมากขึ้น การผิดนัดชำระนี้มีมากขึ้น โดยเฉพาะบัตรเครดิตที่สูงเป็นประวัติการณ์ ภาพเหล่านี้ทำให้เรามองว่ายังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดวิกฤตการเงินและ/หรือเศรษฐกิจ

ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นจะส่งผลต่อดอกเบี้ยสหรัฐมากกว่าประเทศอื่น ๆ ทำให้เกิดความเสี่ยงเงินทุนเคลื่อนย้าย โดยแรงผลักดันเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐ เป็นผลจากราคาน้ำมันเป็นหลัก ซึ่งด้วยประมาณการเงินเฟ้อใหม่ ทำให้ Fed จะลดดอกเบี้ยได้ช่วงปลายปี ขณะที่เศรษฐกิจขนาดใหญ่อื่น ๆ เงินเฟ้อต่ำกว่าสหรัฐ จึงลดดอกเบี้ยได้เร็วกว่า นโยบายการเงินที่แตกต่างระหว่างสหรัฐและประเทศอื่นทั่วโลกทำให้เงินสกุลอื่นทั่วโลกอ่อนค่าลงแรง และเป็นความเสี่ยงต่อสถานการณ์เงินทุนเคลื่อนย้าย

สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่แรงขึ้น และภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในปัจจุบัน ทำให้เราปรับการคาดการณ์การดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลัก โดยเราเชื่อว่า Fed จะลดดอกเบี้ยได้เพียง 2 ครั้ง ในการประชุมเดือน พ.ย. และ ธ.ค. ขณะที่ ECB จะลดดอกเบี้ยได้ 3 ครั้ง ณ สิ้นไตรมาส 2-4 ส่วน BoJ และ BoT จะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน

เราปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยอยู่กรอบล่างที่ 2.5% ของประมาณการ มี.ค. โดยเรามองว่า (1) ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ทำให้ภาระของกองทุนน้ำมันมีมากขึ้น ราคาน้ำมันในประเทศจึงอาจปรับเพิ่มขึ้นบ้าง (สมมุติฐานราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 1 บาท) (2) นโยบายการเงินที่ยังคงตึงตัว และไม่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ (3) การเบิกจ่ายนโยบายการคลังที่ต่ำกว่าคาด เพราะภาครัฐจะนำเงินไปใช้ในโครงการ Digital Wallet (DW) โดยเราให้ DW เป็น Upside risk ของเศรษฐกิจไทย

เราจับตา 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ ที่มาของแหล่งเงินทุน DW และการเบิกจ่ายภาครัฐ โดยแหล่งที่มาของเงินทุน DW นั้น มาจาก 3 แหล่ง ได้แก่ (1) การขยายกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วงเงิน 152,700 ล้านบาท ซึ่งเรามองว่า อาจไม่สอดคล้องกับม. 6, 7, 9 และ 49 พรบ.วินัยการเงินการคลัง (2) ดำเนินการผ่าน ธ.ก.ส. วงเงิน 172,300 ล้านบาท ซึ่งเรามองว่า อาจติดในประเด็นมาตรา 9 ของ พรบ. ธ.ก.ส. และ (3) บริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วงเงิน 175,000 ล้านบาท ซึ่งหากภาครัฐต้องการ 1.75 แสนล้านบาท แปลว่าการเบิกจ่าย 3Q23 จะล่าช้า เพื่อกันเงินทำ DW ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 แย่ลงกว่าคาด

ท่าน สามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก  Macro making sense 240422_T

กลับด้านบน