ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

ตลาดหลักทรัพย์ และดัชนีหุ้นต่างประเทศ

blog_list_heading
23 ส.ค. 2565;
3127
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

 

🌍ตลาดหลักทรัพย์ และดัชนีหุ้นต่างประเทศ 

📌ถ้าพูดถึงหุ้นต่างประเทศยอดนิยมของนักลงทุนไทย ก็คงหนีไม่พ้นหุ้นสหรัฐอเมริกาและหุ้นฮ่องกง ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อขายได้ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX แล้ว วันนี้ เราจะมาเล่าให้ฟังถึง เรื่องราวน่ารู้ของตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกาและตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง รวมถึงดัชนีหุ้นที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองตลาดนี้

US สหรัฐอเมริกามีตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญอยู่ 2 แห่ง คือ

1. ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 1792 เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดในโลก
2. แนสแด็ก (NASDAQ, National Association of Securities Dealers Automated Quotations) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1971 เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดเป็นอันดับสองของโลก

📉 ดัชนีหุ้นสหรัฐอเมริกาที่นักลงทุนนิยมใช้และติดตามมีอยู่ 3 ดัชนี คือ

1 ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average, DJIA) เริ่มใช้เมื่อปี ค.ศ. 1896 เป็นดัชนีหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ 30 บริษัทที่ซื้อขายผ่าน NYSE และ NASDAQ โดยคำนวณจากผลรวมของราคาหุ้นทั้ง 30 ตัวหารด้วยค่าคงที่ค่าหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันใช้ค่า 0.152
2 ดัชนี S&P 500 เริ่มใช้เมื่อปี ค.ศ. 1957 เป็นดัชนีของหุ้นใหญ่ 500 ตัวแรกที่ซื้อขายผ่าน NYSE และ NASDAQ คำนวณแบบถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดของบริษัท โดยหุ้นที่คัดเลือกจะต้องมีมูลค่าตลาดสูงตามเกณฑ์ที่กำหนด และมีสภาพคล่องที่ดี โดยมูลค่าของบริษัทใน S&P 500 คิดเป็น 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด
3 ดัชนี NASDAQ Composite เริ่มใช้เมื่อปี ค.ศ. 1971 เป็นดัชนีของหุ้นทุกตัวที่ซื้อขายในตลาด NASDAQ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 3,300 ตัว คำนวณแบบถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดของบริษัท โดยบริษัทส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาด NASDAQ มักเป็นบริษัทเทคโนโลยี

❗ดัชนีหุ้นทั้งสามจะแตกต่างกันที่หุ้นและวิธีที่ใช้คำนวณ โดยหากเราต้องการดูความเคลื่อนไหวของหุ้นขนาดใหญ่ก็อาจใช้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ซึ่งติดตามหุ้นใหญ่เพียง 30 ตัว แต่หากต้องการดูความเคลื่อนไหวของตลาดสหรัฐอเมริกาทั่วไปก็ควรใช้ดัชนี S&P 500 หรือถ้าหากต้องการดูความเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก็เป็นดัชนี NASDAQ Composite

HK ส่วนฮ่องกงมีตลาดหุ้นที่สำคัญอยู่เพียงแห่งเดียว คือ ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ก่อตั้งขั้นเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 1891 มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย รองจากตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่น

📉 ดัชนีที่นักลงทุนนิยมใช้ติดตามตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง คือ ดัชนีฮั่งเส็ง (Hang Seng Index) เริ่มใช้เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 1969 เป็นดัชนีของหุ้นขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง คำนวณแบบถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตามราคาตลาด และปรับค่าการกระจายหุ้นรายย่อย (free float) ปัจจุบัน ดัชนีฮั่งเส็งประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 50 ตัว คิดเป็นมูลค่า 58% ของมูลค่าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง

💜สามารถเทรดหุ้นต่างประเทศและ ETF อื่น ๆ ได้แล้ววันนี้ บน Innovestx Application

กลับด้านบน