เนื้อหาโดยรวม
ใช้ Futures สร้างผลตอบแทนตามตลาด
ในตลาดหุ้นนักลงทุนมักจะนิยมดูทิศทางตลาดจากดัชนี SET หุ้นที่มี
Market Cap.ขนาดใหญ่จะมีผลต่อดัชนี ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในดัชนี SET50 ทำให้ดัชนี SET และ SET50 มีการวิ่งทิศทางเดียวกัน นักลงทุนสามารถใช้ SET50 สร้างผลตอบแทนตามตลาดได้
ใช้ Futures เทรดได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง
เนื่องจากตลาดหุ้นมีความผันผวน นักลงทุนสามารถใช้ SET50 Index Futures สร้างผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาดได้ไม่ว่าจะตลาดขาขึ้น หรือตลาดขาลงด้วยวิธีการเปิดฐานะบน SET50 Index Futures
เช่น เมื่อมองตลาดขึ้นเปิดฐานะ Long SET50 Index Futures และ เมื่อมองตลาดลงเปิดฐานะ Short SET50 Index Futures และเมื่อถึงจุดที่คาดการณ์ไว้จึงปิดฐานะทำกำไร
ตัวอย่างการใช้ SET50 Index Futures ช่วงตลาดขาขึ้น
ช่วงปลายปี 2019 สถานการณ์ COVD-19 ยังไม่แพร่ระบาด นักลงทุนคาดว่าตลาดจะขึ้น จึงเปิดฐานะ Long SET50 Index Futures ที่ 1070 จากนั้นสถานการณ์
COVID-19 เริ่มแพร่ระบาดหนักขึ้น นักลงทุนจึงมองว่าตลาดไม่น่าจะขึ้นต่อ จึงทำการปิดฐานะที่ 1105 ได้กำไร 35 จุด คิดเป็นการเปลี่ยนแปลงของดัชนี SET50 ประมาณ 3% โดยผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี SET ที่ปรับตัวขึ้นประมาณ 2%
ตัวอย่างการใช้ SET50 Index Futures ช่วงตลาดขาลง
กรณีนักลงทุนคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวลงจากสถานการณ์ COVID ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2020 นักลงทุนได้ทำการเปิดฐานะ Short SET50 Index
Futures ที่ 1030 และเมื่อสถานการณ์เริ่มทรงตัว จึงปิดฐานะทำกำไรที่ 940 ได้กำไร 90 จุด คิดเป็นการเปลี่ยนแปลงดัชนี SET50 ประมาณ 9% ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวดัชนี SET ได้ปรับตัวลงมาให้ผลตอบแทนประมาณ -9% หากนักลงทุนได้ทำการเปิดฐานะ Short SET50 Index Futures
ไว้จะสามารถสร้างผลตอบแทนในตลาดขาลงได้มากถึง 9%