ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

เทรด Futures ใช้เงินวางหลักประกันเพียงบางส่วน

blog_list_heading
04 ก.ย. 2565;
402
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

เทรด Futures ใช้เงินเพียงบางส่วน

          การเปิดฐานะใน Futures ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเต็มมูลค่าสัญญาในการซื้อขาย โดยสามารถวางเงินหลักประกันขั้นต้นประมาณ 10-15% ของมูลค่าสัญญาก่อนการซื้อขาย หรือที่เรียกกันว่าการ “Leverage” เช่น  หากนักลงทุนเปิดสัญญาของ S50H21 ที่ราคา 950 (มูลค่าสัญญา = 950*200 (Multiplier) = 190,000 บาท) โดยวางเงินสดเป็นหลักประกันเพียง 15,000 บาท ก็สามารถเปิดฐานะได้ ในทางปฏิบัติ ควรวางหลักประกันให้เหมาะสม ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ และภาวะตลาด

มูลค่าเงินหลักประกันในพอร์ต Futures คือ Equity Balance
          นักลงทุนวางเงินสดเป็นหลักประกันในพอร์ต Futures จะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Equity Balance โดยถ้าได้กำไร Equity Balance ก็จะเพิ่มขึ้น ถ้าผิดทางทางขาดทุน ระดับ Equity Balance ก็จะลดลง ซึ่งจะใช้วิธีการคิดแบบ Real Time           

เทรด Futures บริหาร Equity Balance กับระดับหลักประกันให้เหมาะสม
ระดับหลักประกันจะมี 3 ระดับ คือ

1.หลักประกันขั้นต้น (Initial Margin หรือ IM) – เป็นจำนวนเงินสดขั้นต่ำที่นักลงทุนวางไว้ในพอร์ตก่อนเปิดสัญญาซื้อหรือขาย Futures

2.หลักประกันรักษาสภาพ (Maintenance Margin หรือ MM) – มูลค่า Equity Balance ที่นักลงทุนต้องรักษาเอาไว้เหนือระดับนี้ตลอดเวลาที่ถือสัญญา Futures อยู่ หาก Equity Balance ต่ำกว่าระดับนี้ นักลงทุนจำเป็นต้องวางเงินสดเพิ่ม เพื่อให้ Equity Balance เท่ากับหรือมากกว่าระดับ IM

3.หลักประกันบังคับดำเนินการ (Force Close Margin หรือ FM) – มูลค่า Equity Balance ลดต่ำกว่าระดับนี้ นักลงทุนมีหน้าที่วางเงินสดเพิ่ม เพื่อให้ระดับ Equity Balance กลับมาเท่ากับหรือมากกว่าระดับ Maintenance Margin

ตัวอย่างหลักประกัน Futures โดยใช้เงินวางหลักประกันเพียงบางส่วน
ยกตัวอย่าง นักลงทุนเปิดฐานะ Long S50Z21 ที่ราคา 950 จำนวน 1 สัญญา โดยวางเงินสดเป็นหลักประกันที่ระดับ IM = 9,695 บาท**

Case1 ปรับตัวขึ้น -> ราคา S50Z21 ปรับตัวขึ้นถึง 955 : มูลค่า Equity Balance ปรับตัวขึ้นเป็น 9,695+(( 955-950)*200*1) = 10,695 บาท คิดเป็นได้กำไร 1,000 บาท หรือประมาณ 10% ในขณะที่ตลาดปรับตัวขึ้นประมาณ 5%

Case2 ปรับตัวลง -> S50Z21 ปรับตัวลงมาจนถึง 945 : มูลค่า Equity Balance จะปรับตัวลงเป็น 9,695+(( 945-950)*200*1) = 8,695 บาท คิดเป็นขาดทุน 1,000 บาท หรือประมาณ 10% ในขณะที่ตลาดปรับตัวลงประมาณ 5%

 

กลับด้านบน