ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

มูลค่าหลักประกัน Futures ใช้การคำนวณแบบไหน?

blog_list_heading
04 ก.ย. 2565;
1050
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

มูลค่าหลักประกัน Futures ใช้ราคาตลาดในการคำนวณ

          มูลค่าหลักประกันของ Futures ใช้วิธีการคำนวณกำไรขาดทุนเทียบกับราคาตลาดแบบ Real Time ในช่วงเวลาที่ตลาด Futures โดยถ้านักลงทุนถูกทาง “ส่วนที่ได้กำไร” จะได้รับเงินเข้าไปรวมกับ Equity Balance  แต่ถ้าผิดทาง “ส่วนขาดทุน” จะถูกหักเงินออกจาก Equity Balance แบบ Real Time ถึงแม้ว่านักลงทุนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงฐานะในพอร์ทเพิ่มเติมก็ตาม

มูลค่าหลักประกัน Futures ตอนสิ้นวัน ใช้ราคาจากตลาด TFEX ในการคำนวณ

          ราคาที่ใช้ชำระราคาสิ้นวัน หรือ Daily Settlement Price (ทาง TFEX ประกาศราคาหลังตลาดปิดทุกสิ้นวัน) มาคำนวณกำไร/ขาดทุน จาก Equity Balance ของวันก่อนหน้า (T-1)

เพื่อให้บัญชีของนักลงทุนมีการปรับตามสภาพตามตลาดปัจจุบัน

มูลค่าหลักประกัน Futures ณ วันหมดอายุ ใช้ราคาจากตลาด TFEX ในการคำนวณ

          ราคาที่ใช้ชำระราคาในวันซื้อขายวันสุดท้าย หรือ Final Settlement Price (ทาง TFEX ประกาศราคาหลังตลาดปิด ณ วันซื้อขายวันสุดท้าย) มาคำนวณหากำไร/ขาดทุน โดยจากคิดจากค่าเฉลี่ยของดัชนี SET50 ในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของวันซื้อขายวันสุดท้าย และค่าราคาปิดของวันนั้น โดยตัดค่ามากที่สุด 3 ค่า และ ค่าน้อยที่สุด 3 ค่าออก และใช้ทศนิยม 2 ตำแหน่ง ซึ่งจะคิดส่วนต่างเป็นเงินสด โดยถ้าได้กำไร เงินหลักประกันจะเพิ่มขึ้น แต่ถ้าขาดทุน เงินหลักประกันจะลดลง

ตัวอย่างหลักประกัน Futures โดยใช้เงินวางหลักประกันเพียงบางส่วน
มีเงินต้น 20,000 บาท นำไปเปิดสัญญา Long Open S50Z21 ที่ราคา 910 (Equity Balance = 20,000 บาท)

สิ้นวันที่ 1: ราคา ณ สิ้นวันอยู่ที่ 915 ซึ่งได้กำไรตามวิธี Mark to Market  เท่ากับ 1,000 บาท ยอด Equity Balance จะถูกปรับสิ้นวันเป็น 21,000 บาท

สิ้นวันที่ 2: ราคา S50Z21 ณ สิ้นวันอยู่ที่ 900 เพราะฉะนั้นจะขาดทุนจากการ Mark to Market จากสิ้นวันที่ 1 อยู่ -3,000 บาท ทำให้ Equity Balance ถูกปรับ ณ สิ้นวันเป็น 18,000 บาท

ณ วันที่ 3: ปิดสัญญา (Short Close) S50Z21 ที่ราคา 905 จะได้กำไรจากการ Mark to Market 1,000 บาท ยอด Equity Balance สุทธิหลังปิดสัญญา S50Z21 คือ 19,000 บาท

สรุปคือ นักลงทุนมีเงินสดเป็นมูลค่าหลักประกันอยู่ที่ 20,000 บาท จนถึงสิ้นวันที่ 3 หลังปิดสัญญา S50H21 Equity Balance ลดลงเหลือ 19,000 บาท นักลงทุนขาดทุนสุทธิทั้งหมด 1,000 บาท

 

กลับด้านบน