ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

INVX Biweekly Portfolio Strategy - ช่วงสั้นมอง SET เคลื่อนไหวในกรอบ หลังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ เน้นลงทุนหุ้นมี ESG เรทติ้งดี

blog_list_heading
27 พ.ย. 2566;
239
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

ช่วงสั้นมอง SET เคลื่อนไหวในกรอบ หลังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ เน้นลงทุนหุ้นมี ESG เรทติ้งดี

สองสัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับขึ้นเพียง 0.6% โดยแม้สัปดาห์แรกตลาดหุ้นไทยจะฟื้นตัวได้ดี เนื่องจากมีปัจจัยบวกทั้งจากเงินเฟ้อสหรัฐ ต.ค. ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด, มีความคาดหวังการจัดตั้งกองทุน TESG จะกระตุ้นการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ระยะยาว, Fitch ประกาศคงอันดับและมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย และนายกฯ ประกาศความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับ Google และ Microsoft พร้อมลงทุนในไทยกว่า 2 แสนลบ. แต่อย่างไรก็ดี สัปดาห์ก่อน SET พลิกปรับตัวลง หลัง GDP ไทย 3Q66 ออกมาต่ำกว่าคาด, กังวลรายงานการประชุมเฟดรอบที่ผ่านมาไม่ได้ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งสายการบินจีนยกเลิกการจองสลอตการบินและ Ground Service หลังตัวเลขนักท่องเที่ยวไม่เข้าเป้า โดยมีความต้องการเพียง 40-50% ของศักยภาพ จึงทำให้มีแรงขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง นำโดย AOT BBL CPALL BDMS PTTEP ADVANC JMT COM7 HANA BH KTB โดยที่ Fund Flow ยังไหลออกจาก SET ต่อเนื่อง ทั้งนี้สองสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิใน SET ราว 4.3 พัน ลบ.

เรามองช่วงสั้น SET จะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ โดยการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. ในวันที่ 29 พ.ย. นี้ ตลาดและเราคาดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.50% ขณะที่คาดจะเริ่มมีเม็ดเงินลงทุนในกองทุน TESG ทยอยเข้ามาหลัง บลจ. เริ่มขายตั้งแต่ 1 ธ.ค. นี้ ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดหุ้นไทย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG เพื่อกระตุ้นการลงทุนใน ตลท. ระยะยาว ซึ่งเราได้คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ดังนี้ 1) ได้ ESG Rating “AAA” หรือ “AA” และ 2) ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า SET YTD เลือก SCGP OR CPALL BEM GULF CRC HMPRO
2) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG เพื่อกระตุ้นการลงทุนใน ตลท. ระยะยาว ซึ่งคัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่ได้ ESG Rating “AAA” และราคาหุ้นปรับขึ้นดีกว่า SET YTD อีกทั้งผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง และคาดให้ Div. Yield มากกว่า 5% ต่อปี เลือก PTT KTB

ช่วงสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบอย่างมีนัยจากแผนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลซึ่งจะมีการประชุม ครม. 12 ธ.ค. นี้ ได้แก่ กลุ่มขนส่งพัสดุ (KEX) กลุ่มอาหาร (CPF ZEN GFPT TU AU) กลุ่มอสังหาฯ (LPN PSH SPALI SIRI QH AP) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE) ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)

                                               
                                              ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก  Biweekly Portfolio Strategy 231127_T

                                              กลับด้านบน