ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

ลงทุนหุ้นโลกดีอย่างไร กับ กองทุน KKP GNP ที่เน้นลงทุนระยะยาว

blog_list_heading
Wealth Products & Strategy
09 เม.ย. 2567;
4347
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

    การลงทุนในหุ้นโลก หนึ่งตัวเลือกสำคัญของการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ และมักถูกนำมาใช้จัดสรรเป็นส่วนการลงทุนแกนพอร์ต (Core Portfolio) ซึ่งลงทุนเป็นระยะเวลายาว ช่วยลดความผันผวนให้แก่พอร์ตภาพรวม ขณะที่สร้างโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอจากหุ้นทั่วโลก ขณะที่การลงทุนในกองทุนหุ้นโลกมีตัวเลือกมากมาย แต่ควรเลือกองทุนหุ้นโลกที่ดี มีการคัดหุ้นคุณภาพ เพราะจะช่วยทำให้นักลงทุนสามารถถือครองได้อย่างสบายใจในระยะยาว
in-Blog-KKP GNP

ลงทุนหุ้นโลก ดีอย่างไร?

การลงทุนในหุ้นโลก เป็นหนึ่งตัวเลือกสำคัญของการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ที่ไม่ต้องการลงทุนในรายประเทศเอง นิยมใช้กองทุนหุ้นโลกเป็นเครื่องมือในการลงทุน เพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนในระยะยาว ในบทความนี้เราจะชี้ให้เห็นถึงข้อดีของการลงทุนในหุ้นโลก และกองทุนหุ้นโลกที่น่าสนใจอย่างกองทุน KKP GNP

ประโยชน์ของการลงทุนในหุ้นทั่วโลก

1. ช่วยกระจายความเสี่ยง

การกระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนด้วยการลงทุนในหลายๆ ประเทศ นอกเหนือไปจากการลงทุนในตราสารทุนในประเทศตนเอง ช่วยทำให้ความผันผวนของพอร์ตลดลง และลดความเสี่ยงของการลงทุนกระจุกตัว แม้ว่าการลงทุนในประเทศจะทำให้เรารู้สึกสบายใจ เพราะคุ้นเคยดีกับหุ้นในประเทศของเรา แต่หุ้นทั่วโลกนั้นมีตัวเลือกการลงทุนที่กว้างขวางกว่า โดยการกระจายความเสี่ยงมีความสำคัญ คือ

ช่วยลดความผันผวน: ความผันผวนของพอร์ตการลงทุนจะลดลงหากมีการจัดสรรเงินลงทุนไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น อาจมีกระจายลงทุนหุ้นต่างประเทศระหว่าง 35% ถึง 55% โดยการกระจายไปยังประเทศ อุตสาหกรรม หรือภาคส่วนต่างๆ ที่สามารถลดผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจหรือตลาดในท้องถิ่นได้

ค่าสหสัมพันธ์ไม่ไปทางเดียวกันอย่างสมบูรณ์: อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ หากเรามีการลงทุนในหุ้นประเทศเดียวกัน ย่อมมีความเสี่ยงเชิงเศรษฐกิจมหภาค หรือความเสี่ยงจากตลาดแบบเดียวกัน แต่การขยายขอบเขตการลงทุนไปในต่างประเทศ จะช่วยลดค่าสหสัมพันธ์ หรือความเสี่ยงร่วมกันลดลงให้แก่พอร์ตการลงทุนได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญปัญหา

2. โอกาสการลงทุนในต่างประเทศที่มีมากกว่า

 

เหตุผลสำคัญที่ทำไมนักลงทุนจึงไม่ควรยึดติดกับตลาดในประเทศเพียงอย่างเดียว ก็เพราะการลงทุนในต่างประเทศนั้นมีสินทรัพย์ให้เลือกลงทุนมากมาย และมีหลากหลายธุรกิจ ดังนั้น การลงทุนในประเทศเพียงอย่างเดียว อาจปิดกั้นโอกาสในการเข้าลงทุนในบางธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงไป

จากสถิติในอดีตบ่งชี้ว่าการลงทุนในหุ้นทั่วโลกมีโอกาสรับผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งในบางช่วงเวลาที่ตลาดภายในประเทศซบเซา การลงทุนในตลาดต่างประเทศก็มีโอกาสที่จะนำการเติบโตมาสู่พอร์ตการลงทุนของคุณได้มากกว่า เช่น ธุรกิจ AI, ธุรกิจ Software ในต่างประเทศ เป็นต้น

ลงทุนหุ้นโลก ด้วยกองทุน KKP GNP

กองทุน KKP GNP และกองทุน KKP GNP-H ลงทุนในกองทุนหลักที่มีชื่อว่า Capital Group New Perspective Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่ตอบโจทย์สำหรับการลงทุนในระยะยาวเพื่อการสร้างผลตอบแทนที่เอาชนะดัชนีหุ้นโลกอย่างสม่ำเสมอ มีวิธีการคัดเลือกหุ้นรายตัวคุณภาพสูงอย่างเข้มข้นโดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 11 คน และเป็นอิสระต่อกัน จึงทำให้พอร์ตการลงทุนมีการกระจายตัวได้เป็นอย่างดี และภายในพอร์ตนั้นเต็มไปด้วยหุ้นคุณภาพสูงกว่า 250 ตัว ระยะเวลาการถือครองหุ้นส่วนใหญ่ในพอร์ตยังมากกว่า 3 ปีขึ้นไป

โครงสร้างการบริหารพอร์ตการลงทุนกองทุนหลัก KKP GNP

  1. 80% ทีมผู้จัดการกองทุน โดยทีมบริหารกองทุนมีจำนวนทั้งหมด 11 คน ทำหน้าที่ในการดูแลพอร์ตการลงทุนย่อยของตนเอง ซึ่งมีสไตล์การลงทุนและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน โดยให้อิสระแก่ผู้จัดการกองทุนแต่ละคนในการคัดเลือกหุ้นที่ลงทุนเป็นพอร์ตการลงทุนของตนเอง มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี ไม่กระจุกตัวในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไป มองหาบริษัทที่มีโอกาสในการสร้างการเปลี่ยนแปลง และมองหาโอกาสในการลงทุนระยะยาว ซึ่งในส่วนนี้จะมีผู้จัดการกองทุนหลัก 2 ท่านที่คอยดูแลภาพรวมทั้งหมดของพอร์ตการลงทุนหลักอีกขั้นตอนหนึ่งเพื่อควบคุมเรื่องความเสี่ยงและให้เป็นไปตามกรอบของการบริหารพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
  2. 20% ทีมนักวิเคราะห์ โดยทีมนักวิเคราะห์จะทำหน้าที่ในการคัดเลือกหุ้นที่อยู่ในพอร์ตการลงทุน แบ่งส่วนตามความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน และมี Highest Conviction Idea บนแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมที่แต่ละคนวิเคราะห์อยู่ พร้อมทั้งนักวิเคราะห์พอร์ตการลงทุนนี้จะมีการพัฒนาประวัติและผลการดำเนินงานของพอร์ตการลงทุนในระยะยาว และเรียนรู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อที่จะเป็นผู้จัดการกองทุนรุ่นใหม่ในอนาคต

 KKP GNP - Experience and multiple perspectives

ลักษณะพอร์ตการลงทุนของกองทุนหลัก มีการกระจายตัวที่ดี ยืดหยุ่น และสมดุล โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม

  1. กลุ่ม Secular Growth: กลุ่มที่แฟรนไชน์มีคุณภาพและมีความทนทนทานและเติบโตสูง มีกำไรและกระแสเงินสดรวมถึงงบการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมทั้งมีความสามารถในการขยายตลาด และมีระดับ Valuation ที่เหมาะสมในระยะกลางถึงยาว

  2. กลุ่ม Inflation Mitigation: กลุ่มที่มีกำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งและสม่ำเสมอ แบรนด์มีมูลค่าสูง มีความชัดเจนในด้านจุดเด่นของบริษัท และมีอำนาจในการเพิ่มราคาขึ้นสินค้าในช่วงที่เงินเฟ้อสูง

  3. กลุ่ม
    Stable Foundations: กลุ่มที่มีโมเดลธุรกิจแบบ Subscription มีเพื่อสร้างกระแสเงินสดแบบ Networks เป็นที่รู้จักแบบประจักษ์และมีการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง

  4. กลุ่ม
    Economically Sensitive Growth: กลุ่มที่โฟกัสในบริษัทที่มีคุณภาพสูง และได้รับประโยชน์เชิงโครงสร้างรวมถึงวัฏจักรเศรษฐกิจ
  5.  
  6. หุ้น 5 ตัวแรกที่พอร์ตการลงทุนถืออยู่ (ข้อมูล ณ 29 ก.พ. 2024)
  1. Microsoft (3.9%) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และบริการเทคโนโลยีต่างๆ

  2. Meta Platforms (3.5%) บริษัทด้านเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย เน้นการพัฒนาและให้บริการโซเชียลมีเดียชั้นนำทั่วโลก และยังทำธุรกิจที่เกี่ยวกับความเป็นจริงเสมือน (Virtual Reality) อีกด้วย

  3. Novo Nordisk (2.9%) บริษัทยาที่มีชื่อเสียงระดับโลก เชี่ยวชาญในการพัฒนาและผลิตยาเพื่อรักษาโรคเบาหวานและภาวะเกี่ยวกับฮอร์โมน

  4. Broadcom (2.5%) บริษัทผู้ผลิตชิปและโซลูชันทางเทคโนโลยี มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ให้บริการทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจโดยมีผลิตที่หลากหลาย

  5. TSMC (2.3%) บริษัทผู้ผลิตชิประดับโลก มีความโดดเด่นด้านชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่มีความล้ำสมัยและในนวัตกรรมการผลิตขั้นสูง และมีความยืดหยุ่นโดยสามารถปรับขนาดชิปได้ตามความต้องการของลูกค้า

 

สรุปจุดเด่นของกองทุนและกองทุนหลัก Capital Group New Perspective Fund

• Capital Group มีประวัติการจัดตั้งมาอย่างยาวนานกว่า 93 ปี
• ทีมผู้จัดการกองทุนขนาดใหญ่จำนวน 11 คน ประสบการณ์เฉลี่ย 31 ปี
• คัดเลือกหุ้นแบบ Bottom-up ในบริษัทระดับโลกที่มั่นคง มีแนวโน้มเติบโตสูง และอยู่ในเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลก
• พอร์ตการลงมีการกระจายตัวที่ดี มีความยืดหยุ่น และมีความสมดุล  ปัจจุบันมีการกระจายตัวอย่างดีของหุ้นคุณภาพสูงทั่วโลกกว่า 250 ตัว
• กองทุนหลักมี Track Record ของกลยุทธ์มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1973 สร้างผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 12.1% เทียบกับดัชนี MSCI ACWI ที่สร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 8.5%
• เหมาะกับการผู้ที่มองหากองทุนหุ้นโลกสำหรับการลงทุนระยะยาว ยิ่งระยะเวลาการลงทุนยาว โอกาสสร้างผลตอบแทนจะเป็นบวกมากขึ้น
• มีให้เลือกทั้ง Class ที่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (KKP GNP-H) และ Class ที่ไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน FX Unhedged (KKP GNP)

 

 

 

ที่มา : Capital Group as of Dec 2023, KKPAM as of Jan 2024, Top Holdings as of 29 Feb 2024

เขียนโดย : INVX Wealth Products & Strategy

หัวข้ออื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
กลับด้านบน