![test_blog_details_img](/ResourcePackages/scbs/assets/dist/images/blog-details/smile-face.png)
เนื้อหาโดยรวม
เราคาดว่าธนาคารส่วนใหญ่จะรายงานกำไรสุทธิ 1Q67 เพิ่มขึ้นทั้ง YoY (NIM เพิ่มขึ้น) และ QoQ (opex และ credit cost ลดลงตามฤดูกาล) ทั้งนี้เมื่อเทียบ QoQ เราคาดว่า credit cost จะลดลง NIM จะลดลงเล็กน้อย สินเชื่อจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว non-NII จะลดลง และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลงตามฤดูกาล เรายังคงเลือก BBL และ KTB เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มธนาคาร โดยได้รับการสนับสนุนจาก valuation ที่น่าสนใจ และความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ พรีวิว 1Q67: คาดส่วนใหญ่กำไรเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ใน 1Q67 เราคาดกำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารจะเพิ่มขึ้น 5% YoY (NIM ดีขึ้น) และ 22% QoQ (credit cost และ opex ลดลงตามฤดูกาล) โดยธนาคารส่วนใหญ่จะรายงานกำไรเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ทั้งนี้เมื่อเทียบ QoQ เราคาดว่า KTB จะรายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่งที่สุดที่ 72% (จาก credit cost ที่ลดลง) ตามด้วย KKP ที่ 70% (จากรายได้เงินปันผลที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และขาดทุนรถยึดที่ลดลงซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากดัชนีราคารถมือสองที่ทำจุดต่ำสุดไปแล้ว) ขณะที่เมื่อเทียบ YoY เราคาดว่า TTB จะรายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่งที่สุดที่ 19% โดยได้รับการสนับสนุนจากผลประโยชน์ทางภาษี และ KKP จะเป็นธนาคารที่รายงานกำไรลดลงมากที่สุดที่ -45% โดยมีสาเหตุมาจาก credit cost ที่สูงขึ้น และกำไรจากเงินลงทุนที่ลดลง รายการที่สำคัญใน 1Q67: 1) credit cost: เราคาดว่า NPL จะเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย การปรับเพิ่มอัตราการชำระสินเชื่อที่ปรับโครงสร้างแล้ว และการสิ้นสุดระยะเวลาการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การจัดชั้นสินเชื่อและการกันเงินสำรองเมื่อสิ้นปี 2566 เราคาดว่าธนาคารส่วนใหญ่จะเร่งตั้งสำรองเพิ่มใน 1Q67 สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคที่อ่อนแอ ดังนั้นเราจึงคาดว่า credit cost ของกลุ่มธนาคารจะเพิ่มขึ้น YoY และลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ดัชนีราคารถยนต์มือสองเพิ่มขึ้น MoM (แต่ยังคงลดลงอย่างมาก YoY) ในเดือนม.ค. และ ก.พ. ซึ่งน่าจะช่วยให้ขาดทุนรถยึดปรับตัวลดลง 2) NIM: เราคาดว่า NIM จะลดลงเล็กน้อยที่ 3-4 bps QoQ ใน 1Q67 เนื่องจากจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้น 3) การเติบโตของสินเชื่อ: เราคาดว่าสินเชื่อจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัวใน 1Q67 โดยใน 2M67 สินเชื่อขยายตัวเพียง 0.1% YoY และลดลง 0.4% QTD 4) Non-NII: ใน 1Q67 เราคาดว่าธนาคารส่วนใหญ่จะรายงาน non-NII ลดลงทั้ง YoY และ QoQ โดยเกิดจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลงและกำไรจากเครื่องมือทางการเงินเพียงเล็กน้อย 5) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: เราคาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะลดลง QoQ ตามฤดูกาล และจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว YoY แนวโน้มกำไรปี 2567 แรงฉุดรั้งจาก NIM ที่แคบลงทำให้เราคาดว่ากำไรของกลุ่มธนาคารจะเติบโต 5% ในปี 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของสินเชื่อที่ 3% credit cost ที่ลดลง 8 bps non-NII ในระดับคงที่ และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ในระดับทรงตัว เราคาดว่ากำไรรายไตรมาสจะทำจุดสูงสุดใน 1Q67 ก่อนที่จะลดลงใน 2Q67-4Q67 โดยคาดว่ากำไร 2Q67 และ 3Q67 จะได้รับผลกระทบจาก NIM ที่แคบลงอันเป็นผลมาจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 50 bps ใน 1H67 ในขณะที่คาดว่ากำไร 4Q67 จะลดลง QoQ โดยมีสาเหตุมาจาก opex ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล | ||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก BANK240401_T
|