เนื้อหาโดยรวม
เราคาดว่ากำไร 4Q66 ของบริษัทที่ประกอบธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ภายใต้การวิเคราะห์ของเราจะลดลง QoQ (เพิ่มขึ้น YoY) โดย credit cost จะสูงขึ้น และ NIM จะลดลง แต่สินเชื่อจะเติบโตดีต่อเนื่อง สำหรับปี 2567 เราคาดว่า TIDLOR จะรายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่งที่สุดที่ 20% ตามด้วย MTC ที่ 15% โดยได้รับการสนับสนุนจากสินเชื่อที่เติบโตดีต่อเนื่องและ credit cost ที่ลดลงเล็กน้อยหลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดที่มี NPL ไหลเข้าในปี 2566 เราคาดว่า SAWAD จะเป็นบริษัทที่รายงานกำไรเติบโตต่ำสุดที่ 8% ในปี 2567 เนื่องจากเราคาดว่าบริษัทจะมี NPL ไหลเข้าและ credit cost เพิ่มขึ้นหลังจากขยายสินเชื่อเชิงรุกในปี 2565 และปี 2566 โดยมีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่มีความเสี่ยงสูงเพิ่มมากขึ้น เรายังคงเลือก TIDLOR เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม เนื่องจากคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวแข็งแกร่งที่สุดในปี 2567 MTC: คาดกำไรลดลง QoQ, เพิ่มขึ้น YoY เราคาดว่ากำไรจะลดลง 5% QoQ (ECL และ opex สูงขึ้น) แต่จะเพิ่มขึ้น 8% YoY (NII สูงขึ้น) สู่ 1.22 พันลบ. ใน 4Q66 และกำไรปี 2566 จะลดลง 6% เราคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 4.6% QoQ และ 20% YoY ขณะที่คาดว่า NIM จะแคบลง 18 bps QoQ เพราะต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น เราคาดว่า credit cost จะเพิ่มขึ้น 16 bps QoQ (-36 bps YoY) สู่ 4.04% ใน 4Q66 ซึ่งจะส่งผลทำให้ credit cost ปี 2566 อยู่ที่ 3.8% (+110 bps) NPL ไหลเข้าน่าจะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ ใน 4Q66 เนื่องจากจะมีการตัดหนี้สูญจำนวนมากและขาย NPL อย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะเพิ่มขึ้น QoQ (และ YoY) โดยเกิดจาก opex ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเร่งขยายสาขา (+172 สาขาใน 4Q66 เทียบกับ +105 สาขาใน 3Q66) และปัจจัยฤดูกาล TIDLOR: คาดกำไรลดลง QoQ แต่เติบโต YoY สูงที่สุด เราคาดการณ์กำไร 4Q66 ที่ 948 ลบ. ลดลง 6% QoQ (ECL และ opex สูงขึ้น) แต่จะเพิ่มขึ้น 16% YoY (NII และ non-NII เพิ่มขึ้น) เติบโตสูงที่สุดในกลุ่ม สำหรับปี 2566 เราคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น 5% ทั้งนี้เพื่อรองรับการตัดหนี้สูญมากขึ้น credit cost น่าจะเพิ่มขึ้น 42 bps QoQ (+17 bps YoY) สู่ 3.51% ใน 4Q66 ซึ่งจะส่งผลทำให้ credit cost ปี 2566 อยู่ที่ 3.2% (+94 bps) การเติบโตของสินเชื่อจะอยู่ที่ 5.2% QoQ (เทียบกับ 5.4% ใน 3Q66) และ 19% YoY หลักๆ เกิดจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ ตามมาด้วยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ ในขณะที่บริษัทใช้นโยบายปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกที่เข้มงวดมากขึ้น NIM น่าจะลดลง 17 bps QoQ โดยมีสาเหตุมาจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น การเติบโตของ non-NII น่าจะยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่ 16% QoQ และ 14% YoY โดยได้แรงหนุนจากรายได้จากธุรกิจนายหน้าประกันภัย อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้น่าจะเพิ่มขึ้น QoQ แต่ลดลง YoY สู่ ~57% SAWAD: คาดกำไรลดลง QoQ แต่เพิ่มขึ้น YoY เราคาดว่ากำไรจะลดลง 3% QoQ แต่จะเพิ่มขึ้น 11% YoY (จากการเข้าซื้อ FM เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2566) สู่ 1.38 พันลบ. ใน 4Q66 ซึ่งจะส่งผลทำให้กำไรปี 2566 เติบโต 14% เราคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ 6% QoQ และ 77% YoY ใน 4Q66 โดยได้แรงหนุนจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ขณะที่คาดว่า NIM จะลดลง 54 bps QoQ โดยมีสาเหตุมาจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นและผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อที่ลดลง (สินเชื่อรถจักรยานยนต์) และไม่มีรายได้พิเศษที่เกิดจากการเลื่อนชั้นสินเชื่อจาก stage 3 เป็น stage 2 เกิดขึ้นอีก เราคาดว่า credit cost จะเพิ่มขึ้น 40 bps QoQ (+65 bps YoY) สู่ 1.8% ใน 4Q66 ซึ่งจะส่งผลทำให้ credit cost ปี 2566 อยู่ที่ 2% (+182 bps) เราคาดว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้จะเพิ่มขึ้น QoQ จากการมีขาดทุนจากรถยึดมากขึ้น กำไรจะฟื้นตัวในปี 2567 เราคาดว่า TIDLOR จะรายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่งที่สุดที่ 20% ในปี 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากสินเชื่อที่เติบโต 18% credit cost ที่ลดลง 5 bps สู่ 3.15% (มีการเคลียร์งบดุลอย่างต่อเนื่อง แต่มี LLR coverage สูงที่สุดที่ 264% ณ 3Q66) NIM ที่หดตัวลง 15 bps และรายได้ค่านายหน้าประกันภัยที่เติบโต 20% เราคาดว่า MTC จะรายงานกำไรเติบโตในระดับปานกลางที่ 15% ในปี 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากสินเชื่อที่เติบโต 19% credit cost ที่ลดลง 10 bps สู่ 3.75% (เนื่องจาก NPL ไหลเข้าลดลง) และ NIM ที่หดตัวลง 36 bps เราคาดว่า SAWAD จะเป็นบริษัทที่รายงานกำไรเติบโตต่ำสุดที่ 8% ในปี 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากสินเชื่อที่เติบโต 20% credit cost ที่เพิ่มขึ้น 75 bps สู่ 2.75% (เนื่องจากสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นและราคารถมือสองลดลง) และ NIM ที่ลดลง 108 bps (หลักๆ เป็นเพราะไม่มีรายได้พิเศษ 250 ลบ. เกิดขึ้นอีก และผลตอบแทนจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ลดลงหลังจากมีการบังคับใช้เพดานอัตราดอกเบี้ย 23% สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ตั้งแต่เดือนม.ค. 2566) | ||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก FINANCE240209_T
|