ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

พลังงาน – ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน: คาดกลับมามีกำไรใน 1Q67

blog_list_heading
02 พ.ค. 2567;
73
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

บริษัทที่ประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันของไทยน่าจะรายงานกำไรที่ดีขึ้น QoQ ใน 1Q67 หลังจากผลประกอบการ 4Q66 อ่อนแอ โดยได้แรงหนุนจากค่าการกลั่นที่ดี เนื่องจากส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินที่สูงขึ้นจะช่วยชดเชยส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ middle distillate ที่ลดลง อีกทั้งจะมีกำไร/ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันผสมปนเปกันไป ขึ้นอยู่กับระดับสินค้าคงเหลือต้นทุนสูงของแต่ละบริษัทที่ยกมาจากปลาย 3Q66 จากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผน ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปรับตัวแย่ลงใน 2Q67TD โดยลดลง 46% QoQ เพราะส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลและน้ำมันเครื่องบินอ่อนแอจากผลกระทบตามฤดูกาลเช่นเดียวกับใน 2Q66 เราเชื่อว่าประเด็นนี้ถูกรับรู้ไปแล้ว เนื่องจากราคาหุ้นโรงกลั่นน้ำมันไทยปรับตัวลดลง 7% QTD underperform SET ที่ -1% เราคาดว่าค่าการกลั่นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งหลังของเดือนพ.ค. สู่ระดับค่าเฉลี่ย 5 ปี เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลที่สูงขึ้นตามฤดูกาลจะช่วยดูดซับอุปทานที่กลับมาจากการหยุดซ่อมบำรุง BCP (ราคาเป้าหมาย 51 บาท) เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มโรงกลั่น เนื่องจากกำไรมีแนวโน้มสดใสจากการรับรู้ผลการดำเนินงาน BSRC (เดิมชื่อ ESSO) เต็มปี และมีธุรกิจที่หลากหลาย ร่วมกับ TOP (ราคาเป้าหมาย 77 บาท) เพราะค่าการกลั่นมีแนวโน้มเป็นบวกในระยะกลาง

ค่าการกลั่นที่แข็งแกร่งจะช่วยสนับสนุนกำไร 1Q67 ของผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมัน อุปสงค์ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากระดับต่ำในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยอุปสงค์น้ำมันเครื่องบินยังคงต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโควิด แนวโน้มเช่นนี้ช่วยหนุนให้ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 33% QoQ ใน 1Q67 สู่ US$7.3/บาร์เรล นำโดย crack spread น้ำมันเบนซินที่สูงขึ้นสู่ US$17.9/บาร์เรล (+43% QoQ) ซึ่งถูกลดทอนลงบางส่วนโดย crack spread น้ำมันเครื่องบิน (-11% QoQ) และน้ำมันเตากำมะถันสูง (-13% QoQ) ที่ลดลง โดยมีสาเหตุมาจากความต้องการใช้น้ำมันเพื่อทำความร้อนที่ลดลงและปริมาณการจราจรทางอากาศที่ชะลอตัวลงจากช่วงไฮซีซั่นใน 4Q66 crack spread ของ gasoil (ดีเซล) เพิ่มขึ้นเพียง 3% QoQ สู่ US$21.7/บาร์เรล ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนม.ค. 2567 ถึงกลางเดือนก.พ. 2567 ก่อนที่จะกลับมาปรับตัวลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีในเดือนมี.ค. 2567 หลังจากที่โรงกลั่นในภูมิภาคกลับมาจากการหยุดซ่อมบำรุงและราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น

ค่าการกลั่นที่อ่อนตัวลงใน 2Q67TD คาดว่าจะฟื้นตัวในเดือนพ.ค. ค่าการกลั่นตลาดปรับตัวลดลง 46% QoQ สู่ระดับเฉลี่ย US$3.9/บาร์เรล ใกล้เคียงกับรูปแบบที่เห็นใน 2Q66 (-49% QoQ) ซึ่งสะท้อนถึง crack spread น้ำมันดีเซลและน้ำมันเครื่องบินที่ลดลง 32-34% QoQ ใน 2Q67TD อุปสงค์น้ำมันเบนซินที่สูงขึ้นตามฤดูกาลใน 2Q67 จะช่วยสนับสนุนค่าการกลั่น crack spread ลดลง 3% QoQ แต่ยังสูงกว่า US$17/บาร์เรล นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนธุรกิจโรงกลั่นจากค่าพรีเมียมน้ำมันดิบที่ลดลงจาก US$1.71/บาร์เรล ใน 1Q67 สู่ US$1.57/บาร์เรล ใน 2Q67 ด้วย ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้หุ้นโรงกลั่นน้ำมันมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะมีกำไร/ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันในระยะสั้น เนื่องจากค่าการกลั่นที่ลดลงทำให้นักลงทุนมีความสนใจลงทุนในหุ้นโรงกลั่นลดลงในระยะสั้น เราจึงมองว่าตอนนี้เป็นโอกาสในการกลับมาสร้างสถานะเนื่องจากคาดว่าค่าการกลั่นจะปรับตัวดีขึ้นใน 3Q67

BCP และ TOP เป็นหุ้นเด่น ราคาหุ้น BCP ปรับตัวเพิ่มขึ้น 39% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ตามด้วย TOP ที่ +17% outperform หุ้นอื่นๆ ในกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันไทย (-11% โดยเฉลี่ย) และ SET (-11%) valuation ของ BCP ไม่แพงที่ P/E (ปี 2567) ระดับ 4.1 เท่า และ PBV ระดับ 0.7 เท่า (-1.3SD) นอกจากนี้เรายังคาดการณ์ถึงอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจในระดับ 6% (ปี 2567) นอกเหนือจากค่าการกลั่นที่แข็งแกร่งในปี 2567 แล้ว เรายังชอบ BCP เพราะบริษัทมีธุรกิจ E&P ในประเทศนอร์เวย์ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับประโยชน์จากตลาดน้ำมันและก๊าซที่แข็งแกร่งในยุโรป นอกจากนี้เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรของ TOP จากการเริ่มเดินเครื่องโรงกลั่นแห่งใหม่ภายใต้โครงการพลังงานสะอาด (CFP) บวกกับ valuation ที่น่าสนใจที่ P/E ระดับ 6 เท่า และ PBV ระดับ 0.7 เท่า และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 6%

ปัจจัยเสี่ยง การชะลอตัวของเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ในขณะที่ความผันผวนของราคาน้ำมันอาจทำให้เกิดขาดทุนสต๊อก ความเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ การด้อยค่าของสินทรัพย์และการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการแทรกแซงของรัฐบาลในธุรกิจพลังงาน ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ ผลกระทบของธุรกิจต่อสิ่งแวดล้อม และการปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

 
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Energy_OilRefinery240502_T
 
 
 
 

หัวข้ออื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
กลับด้านบน