เนื้อหาโดยรวม
SSS ของกลุ่มพาณิชย์น่าจะเติบโต 0.8% YoY ใน 1Q67 สิ้นสุดการหดตัวใน 2 ไตรมาสที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการ Easy E-receipt และนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดย SSS น่าจะเติบโต YoY อย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 2567 ด้วยแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น (ได้แรงกระตุ้นจากการเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าตั้งแต่เดือนมี.ค.) อากาศที่ร้อนกว่าปกติใน 2Q67 การกลับมาเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนภาครัฐ และราคาอาหารที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นใน 2H67 อีกทั้งยังมี upside จากโครงการ digital wallet ใน 4Q67 หุ้นเด่นของเรา คือ CPALL GLOBAL และ CRC SSS 1Q67 ปรับตัวดีขึ้นจาก 4Q66 SSS น่าจะเติบโตเฉลี่ย 0.8% YoY ใน 1Q67 เทียบกับ -1.9% YoY ใน 4Q66 และ +5.1% YoY ใน 1Q66 โดยการเพิ่มขึ้น QoQ ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ Easy E-receipt ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 15 ก.พ. และนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ดังเห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เติบโต 8% YoY ในเดือนม.ค.-ก.พ. และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เติบโต 44% YoY ใน 1Q67 ในขณะที่การเติบโตชะลอตัว YoY จาก: 1) กำลังซื้อที่เปราะบางสำหรับผู้มีรายได้น้อย และ sentiment ที่อ่อนแอสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูง; 2) รายได้ภาคเกษตรที่ลดลง โดยรายได้เกษตรกรลดลง 2% YoY ในเดือนก.พ. 2567 เนื่องจากผลผลิตลดลง (-8% YoY) ในอัตราที่สูงกว่าราคาที่สูงขึ้น (+6% YoY); 3) ภาวะที่ราคาอาหารปรับตัวลดลง ดังเห็นได้จากราคาสุกรที่ลดลง 25% YoY; 4) ยอดขายวัสดุก่อสร้างที่ชะลอตัวลงจากกิจกรรมการก่อสร้างที่ลดลงสืบเนื่องมาจากการเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนภาครัฐที่ลดลง (-57% YoY ในเดือนม.ค.-ก.พ.) จากความล่าช้าในการอนุมัติงบประมาณปี 2567 (ต.ค. 2566-ก.ย. 2567) และราคาเหล็กที่ลดลง (ราคาเหล็กเส้นและเหล็กโครงสร้างในประเทศลดลง 10-12% YoY แต่ทรงตัว QoQ ใน 1Q67) SSS จากกลุ่มสินค้าจำเป็นใน 1Q67 เติบโตโดดเด่น ปัจจัยตามที่กล่าวมาข้างต้นคาดว่าจะช่วยหนุนให้ SSS สำหรับกลุ่มสินค้าจำเป็นเติบโต 3.5% YoY ในขณะที่ SSS สำหรับกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยจะหดตัวลง 2.1% YoY ทั้งนี้ในบรรดาผู้ประกอบการทั้งหมดในกลุ่มพาณิชย์ เราคาดว่าจะเห็นการเติบโตของ SSS ได้จาก CPALL (+4% YoY), CPAXT (+2% YoY ในธุรกิจ B2B และ +6% YoY ในธุรกิจ B2C), BJC (+0.5% YoY) และ CRC (+1.7% YoY ค่าเฉลี่ยอย่างง่ายแยกตามธุรกิจ, +1% YoY สำหรับประเทศไทย, +3% YoY สำหรับประเทศเวียดนาม (+7.5% YoY สำหรับกลุ่มฟู้ด และ -20% YoY สำหรับกลุ่มฮาร์ดไลน์) และ +7.5% YoY สำหรับประเทศอิตาลี) ในขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ จะรายงาน SSS หดตัวลง YoY: -2% YoY สำหรับ HMPRO และ -6% YoY สำหรับ GLOBAL โมเมนตัมกำไร ด้วย SSS ที่เติบโตเพิ่มขึ้น รวมถึงการขยายสาขาและมาร์จิ้นที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เราจึงคาดว่ากำไรปกติ 1Q67 ของกลุ่มพาณิชย์จะเติบโต YoY แต่จะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เมื่อพิจารณาจากยอดขายและมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้นประกอบกับค่าใช้จ่ายที่ยังควบคุมได้ (ปัจจุบันต้นทุนค่าไฟฟ้าและน้ำมันดีเซลลดลง YoY และต้นทุนดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะลดลงจากการลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ 2Q67) เราจึงคาดว่ากำไรของกลุ่มพาณิชย์จะเติบโต YoY ใน 2Q67-3Q67 โครงการ digital wallet จะเพิ่ม upside ให้กับกำไร 4Q67 หุ้นเด่น หุ้นเด่นของเรา คือ CPALL เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะรายงานกำไร 1Q67 เติบโตดีที่สุดในกลุ่มพาณิชย์ โดยได้รับการสนับสนุนจากผลการดำเนินงานของธุรกิจ CVS และ CPAXT ที่แข็งแกร่ง และ GLOBAL เนื่องจากเป็น proxy ของกลุ่มพาณิชย์ที่จะได้รับประโยชน์จากการกลับมาเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนภาครัฐใน 2H67 นอกจากนี้ทั้งสองบริษัทนี้ยังจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์รายหลักของกลุ่มพาณิชย์จากโครงการ digital wallet ซึ่งจะมีความคืบหน้าให้เห็นภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ในวันที่ 10 เม.ย. สำหรับหุ้น laggard ในกลุ่มพาณิชย์ CRC เป็นหุ้นเด่นของเรา เนื่องจากกำไรปี 2567 จะมี upside 3% จากการซื้อที่ดิน (จะเสนอให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในวันที่ 25 เม.ย.) และโอกาสทำ M&A ในธุรกิจหลักของบริษัทในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนแปลงในกำลังซื้อและนโยบายรัฐบาล ความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ การบริหารจัดการพลังงาน ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน (E) และแนวปฏิบัติด้านการจ้างงาน (S) | ||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก COMMERCE240405_T
|