![test_blog_details_img](/ResourcePackages/scbs/assets/dist/images/blog-details/smile-face.png)
เนื้อหาโดยรวม
![nvda](/images/default-source/about-company/shutterstock_1567038724.jpg?sfvrsn=1f2969a3_1)
งบ F3Q24 ภาพรวมแกร่งและให้แนวโน้มที่ดีกว่าคาด...อย่างไรก็ดีตลาดตอบสนองเชิงลบต่อความกังวลยอดขายในจีน Nvidia (NVDA) เผยงบ F3Q24 ดีกว่าคาดทั้งรายได้และกำไร โดยรายได้เติบโต 206%YoY ขณะที่กำไรอยู่ที่ $4.02 ต่อหุ้น หนุนจากรายได้ทุกกลุ่มที่มีการเติบโต โดยเฉพาะ Data Center ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 279%YoY รวมถึงกลุ่มเกมที่มีการฟื้นตัวและมีรายได้เพิ่มขึ้น 15%YoY นอกจากนี้บริษัทให้คาดการณ์รายได้ในช่วง F4Q24 ดีกว่าคาดอยู่ที่ราว $20bn (บวกลบ 2% ) ด้านอัตรากำไรขั้นต้นมองอยู่ที่ 75.5% ซึ่งสูงกว่าการที่ 72.64% เช่นกัน มุมมองของ InnovestX ภาพรวมเรามองว่างบที่ออกมาค่อนข้างแกร่งและโตดีในทุกกลุ่ม แต่อย่างไรก็ดีตลาดตอบสนองเชิงลบต่อ 1) ความกังวลต่อแหล่งรายได้หลักจากจีนหลังบริษัทเผยว่ายอดขาย F4Q24 ในจีนจะลดลงอย่างมากผลกระทบจากกฎใหม่ของสหรัฐฯที่จำกัดการส่งออกชิป GPU โดยยอดขายชิปที่ได้รับผลกระทบคิดเป็นเกือบหนึ่งในสี่ของยอดขายศูนย์ข้อมูลในช่วงไม่กี่ไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งถึงแม้บริษัทจะมีการพัฒนาชิปใหม่สำหรับประเทศจีน แต่ชิปเหล่านั้นจะไม่มีส่วนสำคัญต่อรายรับใน F4Q24 นอกจากนี้อาจส่งผลต่อการรักษาอัตรากำไรด้วยซึ่งถึงแม้บริษัทจะมองว่ามีแรงชดเชยจากภูมิภาคอื่น แต่อย่างไรก็ดีด้วยภาพอัตรากำไรในปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูงจึงกังวลต่อการเติบโตในระยะถัดไป 2) บริษัทยังเผชิญกับความเสี่ยงจากสงครามในอิสราเอลที่ซึ่งธุรกิจเครือข่ายของ Nvidia มีสำนักงานใหญ่อยู่ โดยพนักงานส่วนสำคัญในอิสราเอลถูกเรียกให้เข้าปฏิบัติหน้าที่ทางทหาร และหากสงครามยังดำเนินต่อไป การที่พนักงานไม่อยู่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในอนาคตซึ่งธุรกิจเครือข่ายมีมูลค่าเกินกว่า $10bn ต่อปี ขณะที่ถึงแม้บริษัทจะมีแรงกดดันจากการควบคุมการส่งออกไปยังจีน แต่อย่างไรก็ดีเรายังคงเชื่อว่าบริษัทจะสามารถเติบโตได้ในช่วง FY24 หลัง 1) มี Inventories ที่ทรงตัวและน้อยกว่า Peers หลังบริษัทมีสัดส่วนชิป GPU และ APU 2) ส่วน Data Center คาดเติบโตต่อเนื่องสวนทาง AMD และ Intel โดยมีแรงหนุนจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงไปสู่การประมวลผลแบบเร่ง (GPU) มากกว่าการประมวลผลทั่วไป (CPU) หลังอุปสงค์การใช้งาน AI ที่เพิ่มขึ้นและปริมาณงานที่มีความซับซ้อนขึ้น 3) ส่วนแบ่งการตลาดในอุตฯ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหนุนจากนวัตกรรมชิปที่ล้ำสมัยนำอุตฯ เช่น MLPerf นอกจากนี้ล่าสุดบริษัทกำลังวางแผนที่จะเปิดตัวชิปใหม่ GPU architecture สำหรับศูนย์ข้อมูลใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่การผลิตในปริมาณมากในช่วงครึ่งหลังของ FY24 ซึ่งภาพนี้จะช่วยอุปสงค์ระยะถัดไปได้ 3) ธุรกิจเกม (สัดส่วนรายได้ใน FY23 อยู่ที่ 33.6% ) ที่การเปลี่ยนมาใช้ Ada Lovelace architecture และระดับสินค้าคงคลังที่เริ่มกลับสู่ระดับปกติ ซึ่งคาดปัจจัยเหล่านี้จะหนุนการเติบโตในระยะถัดไปได้ 4) การเติบโตของ Capex คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นในปี 24 โดยได้แรงหนุนจากแผนพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับ AI และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคโดยไฮเปอร์สเกลเลอร์รายใหญ่ในสหรัฐฯ รวมถึงการมีส่วนร่วมของ AI ต่อการเติบโตของธุรกิจ โดยเฉพาะบริการคลาวด์ ในระยะยาวเรามองว่า NVDA มีจุดแข็งที่คู่แข่งยากที่จะเลียนแบบจาก 1) ความได้เปรียบการเข้าตลาดก่อนคู่แข่ง 2) มีสิทธิบัตรด้านการออกแบบ 3) มีการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทมีความเสี่ยงด้านการเงินต่ำและมีสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับการเติบโตในระยะยาวทั้งการพัฒนานวัตกรรมหรือการควบรวมกิจการใหม่ นอกจากนี้เรามองว่าตำแหน่งธุรกิจแกร่ง กระจายตัวดี รวมถึงมีแนวโน้มที่เติบโตในอนาคต เช่นชิปที่ใช้ใน AI Cloud Automotive สำหรับมุมมองการลงทุน เรามองว่า NVDA เป็นหนึ่งในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแกร่ง รวมถึงยังคงมีแนวโน้มเติบโตจากตำแหน่งที่ดีที่ได้รับประโยชน์จาก AI แต่อย่างไรก็ดีเรามองว่าปัจจุบัน Valuation เริ่มอยู่ในระดับสูง โดย PE ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 46.1 ซึ่งถือว่ามากกว่า PE เฉลี่ย 5 ปีเล็กน้อยที่ 38.6 ทำให้เรามองว่าสำหรับคนที่มีหุ้นอยู่แล้ว เราแนะ Let’s Profit Run ขณะที่สำหรับคนที่ไม่มีหุ้น เรามองว่าอาจรอราคาย่อตัวลงจากในช่วงผลประกอบการ ซึ่งถือเป็นโอกาสในการลงทุนที่น่าสนใจ ด้าน Bloomberg ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยไว้ที่ 504.1 USD ซึ่งมี Upside 28% จากราคาปัจจุบัน |
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก https://res.innovestxonline.com/tbf3eb45ce5423c26dca5778be5f9aec0/THA/document/offshorestockupdate |