
เนื้อหาโดยรวม

งบ 1Q24 แกร่งหลัง Azure ฟื้นตัวและเติบโต…นอกนั้น MSFT เผยเริ่มเห็นรายได้จาก AI ชัดขึ้นใน F2Q24 Microsoft เผยงบ 1Q24 ดีกว่าคาด โดยรายได้เพิ่มขึ้น 13%YoY และกำไรเพิ่มขึ้น 27%YoY หนุนจากรายได้กลุ่ม Azure โต 29%YoY ด้านกลุ่ม More Personal Computing พลิกกลับมาเติบโต 3%YoY และดีกว่าคาดที่มองว่ากลุ่มนี้จะยังหดตัวอยู่ นอกจากนี้บริษัทคาดการเติบโตของ Azure จะค่อนข้างคงที่และจะแสดงผลกระทบที่เพิ่มขึ้นจาก AI ในช่วงงบ F2Q24 มุมมองของ InnovestX เรามองว่างบในภาพรวมออกมาแกร่ง ซึ่งเป็นผลหลักๆมาจากการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจที่ในช่วงก่อนมีภาพการชะลอตัวแต่ใน F1Q24 พลิกกลับมาเติบโตซึ่งมีแรงหนุนหลักจากความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้นโดย 1) กลุ่ม Azure ที่สะท้อนภาพการฟื้นตัวของคลาวด์หลังมีแรงหนุนจากบริการคลาวด์ที่ช่วยให้ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์ OpenAI ซึ่งขณะนี้มีลูกค้า 18,000 ราย เพิ่มขึ้นจาก 11,000 รายในไตรมาสก่อนหน้า 2) กลุ่ม More Personal Computing ที่พลิกกลับมาเติบโตเป็นบวกได้จากก่อนหน้านี้การเติบโตติดลบโดยมีแรงหนุนจากได้รับแรงหนุนจากรายได้ OEM ที่ดีกว่าที่คาดไว้ สะท้อนภาพการฟื้นตัวในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ PC 3) Commercial Bookings พลิกกลับมาเติบโต 17%YoY หลังจากในไตรมาสก่อนโตติดลบ โดยมีแรงหนุนจากข้อตกลงขนาดใหญ่ปริมาณมากในช่วง 4Q23 ต่อเนื่องมา 4) Search Engine มีรายได้ดีกว่าคาดเช่นกัน หนุนจากการใช้งานที่เพิ่มขึ้นหลังมีบริการ AI เพิ่มเข้ามา เช่น Bing Chat ใน FY24 เรายังคงมองบวกต่อ MFST หลัง 1) เราเริ่มเห็นการฟื้นตัวของรายได้กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ PC อย่างเช่น ชุดซอฟต์แวร์ Office ที่ในระยะถัดไปคาดว่าจะโตเป็นบวกต่อเนื่องและช่วยหนุนมาร์จิ้นได้หลังกลุ่มธุรกิจนี้ที่มีอัตราการทำกำไรสูง ประกอบกับด้วยภาพบริการสมัครสมาชิก Copilot แบบใหม่ที่พัฒนา AI ร่วมกับ MSFT Office โดยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม $30 ต่อเดือน ซึ่งสามารถเพิ่มราคารายเดือนสำหรับลูกค้าองค์กรได้มากถึง 83% ทำให้เรามองรายได้เพิ่มเติมผ่านการสมัครสมาชิกแบบประจำ รวมถึงการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจนี้จะสามารถหนุนงบ FY24 ได้ 2) ภาพการเติบโตของคลาวด์ Azure ที่ชะลอการลดลงหลังมีแรงหนุนจากความต้องการทาง AI ที่เพิ่มขึ้นซึ่งช่วยหนุนการจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน 3) การรับรู้รายได้และบริการของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI ที่เราคาดว่าจะเริ่มเห็นชัดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของงบประมาณปี 24 นี้ โดยล่าสุดมีการเก็บค่าบริการ Bing Chat Enterprise เพิ่มเติมเช่นกัน 4) บริษัทสามารถเข้าซื้อกิจการ Activision Blizzard (ATVI) ได้สำเร็จและปิดดีลไปในช่วง 13 ต.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ในระยะถัดไปจะสามารถมีแหล่งรายได้จากเกมดังของ ATVI เพิ่ม เช่น Call of Duty, Overwatch ด้วยภาพนี้ทำให้เรามองว่าทั้งความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้น การรับรู้รายได้จากบริการ Copilot office ใหม่และกิจการเกม ATVI จะช่วยหนุนให้รายได้ของ MSFT เพิ่มขึ้นราว 10%-15% ใน FY24 ในระยะยาวเรามองว่า Microsoft น่าสนใจหลัง 1) โมเดลธุรกิจแกร่ง 2) เป็นผู้นำตลาด Software และมีมาร์จิ้นสูงที่ 68-69% รวมถึงยังมีตำแหน่งธุรกิจที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากธุรกิจและบริการ AI ในอนาคต 3) สถานะทางการเงินแกร่งโดยมีเงินสดมากกว่าหนี้สิน 4) มีความได้เปรียบด้านต้นทุน หลังมีระบบนิเวศน์ที่มีการเชื่อมโยงระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ในระยะสั้น ถึงแม้ปัจจุบัน Valuation ของ Microsoft ที่ระดับ PE ที่ 33.6 จะสูงกว่าระดับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 28.9 แต่อย่างไรก็ดีหากพิจารณา 1) การปรับประมาณการณ์ EPS ขึ้นนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ค. 23 สะท้อนได้ว่ายังคงมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง 2) หากนำ PE เทียบกับระดับการเติบโตที่ราว 15% ต่อปีจะทำให้ PEG อยู่ที่ระดับ 2.2 ซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PEG ในช่วง 5 ปีที่ 2.5 อยู่ ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจใหม่ เช่น เกม ATVI และตำแหน่งธุรกิจที่ยังคงได้รับประโยชน์จาก AI ทำให้เรามองว่ายังคงสามารถลงทุนใน MSFT ได้และแนะทยอยสะสมในช่วงที่ราคาย่อตัวลง ด้าน Bloomberg ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 397.6 USD ซึ่งมี Upside 20.7% จากราคาปัจจุบัน |
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม MSFT_Offshore Stock 231025_T