เนื้อหาโดยรวม
กำไร 4QFY66 ของ AEONTS สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมาก เพราะ ECL ต่ำกว่าคาด โดยผลประกอบการสะท้อนถึง credit cost และ NPL ที่ลดลง สินเชื่อที่หดตัวลง NIM ที่ลดลง non-NII ที่ดีขึ้น และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่สูงขึ้น แรงกดดันจากกฎระเบียบที่มีต่อ NIM และคุณภาพสินทรัพย์ ทำให้เราคาดว่ากำไร ของ AEONTS จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัวในปี FY2567 ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ AEONTS แต่ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 163 บาท สู่ 170 บาท เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรปี 2567 เพิ่มขึ้น หลักๆ เกิดจากการปรับประมาณการ credit cost ลดลง 4QFY66: กำไรสูงกว่าที่คาดไว้มากเพราะ ECL ต่ำกว่าคาด กำไรสุทธิ 4QFY66 (ธ.ค.-ก.พ.) ของ AEONTS เพิ่มขึ้น 58% YoY และ 55% QoQ สู่ 1.1 พันลบ. สูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ 56% หลักๆ เกิดจาก ECL ที่ต่ำกว่าคาด กำไรสุทธิปี FY2566 ลดลง 15% รายการที่สำคัญ: 1) คุณภาพสินทรัพย์: credit cost ลดลง 248 bps QoQ (-270 bps YoY) สู่ 5.61% ใน 4QFY66 ต่ำกว่าคาดค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นผลมาจาก NPL ที่ไหลเข้าลดลง อัตราส่วน NPL ลดลง 158 bps QoQ สู่ 4.97% ใน 4QFY66 LLR coverage เพิ่มขึ้นสู่ 183% จาก 162% ณ 3QFY66 2) การเติบโตของสินเชื่อ: สินเชื่อลดลง 3% QoQ และ YoY ใน 4QFY66 3) NIM: NIM ลดลง 3 bps QoQ (-45 bps YoY) ใน 4QFY66 ผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อเพิ่มขึ้น 16 bps QoQ (-29 bps YoY) ใน 4QFY66 ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 30 bps QoQ (+33 bps YoY) ใน 4QFY66 4) Non-NII: Non-NII เพิ่มขึ้น 6% QoQ (+5% YoY) 5) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้: เพิ่มขึ้น 159 bps QoQ (+192 bps YoY) สู่ 44.78% opex เพิ่มขึ้น 3% QoQ และ 1% YoY มีแรงกดดันจากกฎระเบียบรออยู่ข้างหน้า สำหรับปี FY2567 และปี FY2568 เราคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะได้รับแรงกดดันจากการทยอยปรับเพิ่มอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิตจาก 5% ในปี 2566 สู่ 8% ในปี 2567 และ 10% ในปี 2568 สำหรับปี FY2567 เราคาดว่า NIM จะได้รับแรงกดดันจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นและมาตรการแก้หนี้เรื้อรังของธปท. (PD, หนี้ที่มีการจ่ายดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้นนาน 5 ปี) สำหรับลูกหนี้ที่มีรายได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือนสำหรับนอนแบงก์ โดยตั้งแต่เดือนเม.ย. 2567 เป็นต้นไป ลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการ PD จะได้รับทางเลือกในการเปลี่ยนสินเชื่อหมุนเวียนมาเป็นแบบมีระยะเวลา (term loan) และคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี (เทียบกับอัตราเพดาน 25%) โดยกำหนดให้การผ่อนชำระปิดจบภายใน 5 ปี AEONTS มีสินเชื่อที่ปล่อยให้กับลูกหนี้ที่มีรายได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือนในสัดส่วน ~5% เราคำนวณได้ว่ามาตรการนี้จะส่งผลกระทบต่อ NIM ราว 25 bps โดยใช้สมมติฐานว่ามีการนำมาตรการ PD มาใช้กับสินเชื่อ 2.5% ของ AEONTS ปรับประมาณการกำไรปี FY2567 เพิ่มขึ้น เราปรับประมาณการกำไรปี FY2567 เพิ่มขึ้น 11% เนื่องจากเราปรับประมาณการ credit cost ลดลงจาก 8.35% สู่ 7.85% (เทียบกับ 7.82% ในปี FY2566) เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 4QFY66 เราคาดว่ากำไรปี FY2567 จะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัว โดยเกิดจากสินเชื่อที่เติบโต 3%, NIM ที่แคบลง 26 bps อันเป็นผลมาจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นและผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อที่ลดลง, รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่เติบโต 12% และ credit cost ที่เพิ่มขึ้น 3 bps คงคำแนะนำ NEUTRAL แต่ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น เรายังคงคำแนะนำ NEUTRAL สำหรับ AEONTS และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 163 บาท สู่ 170 บาท (PBV 1.6 เท่า โดยอิงกับ ROE ระยะยาวที่ 13% cost of equity ที่ 8.8% และการเติบโตระยะยาวที่ 2%) ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่ทั่วถึง 2) ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบจากมาตรการลดหนี้ครัวเรือนของธปท. และ 3) ความเสี่ยงด้าน ESG จาก market conduct | |||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก AEONTS240410_T
|