![test_blog_details_img](/ResourcePackages/scbs/assets/dist/images/blog-details/smile-face.png)
เนื้อหาโดยรวม
ราคาหุ้น GULF ปรับตัวลดลง 10% YTD เพราะมี sentiment เชิงลบจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระดับสูง และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากการอ่อนค่าของเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐใน 1Q67 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวดีขึ้นเมื่ออิงกับปัจจยดังต่อไปนี้: 1) กําไรปกติที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใน 2Q67 และจะเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจาก กําลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 2) การประมูลโรงไฟฟ้าที่กําลังจะมีขึ้นในประเทศไทย และ 3) valuation น่าสนใจที่ - 1.5 SD ของ PE mean เรายังคงคําแนะนํา OUTPERFORM สําหรับ GULF โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 63 บาท/หน (WACC 4.2%, terminal growth 2.5%)
ปัจจัยกระตุ้น #1: โมเมนตัมกําไรปกติแข็งแกร่งในช่วงที่เหลือของปีนี้ เราคาดว่ากําไรปกติจะเพิ่มขึ้นสู่ ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใน 2Q67 และจะเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากกําลัง การผลิตที่เพิ่มขึ้นอีก 2,700อMW สู่ 15,120อMW ในปี 2567 ผ่านโครงการหลายโครงการ: 1) โรงไฟฟ้า IPP ใหม่ GPD หน่วยที่ 3 (กําลังการผลิต 662.5MW เปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมี.ค. 2567) และ GPD หน่วยที่ 4 (กําลังการผลิต 662.5อMW เปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนต.ค. 2567) 2) โรงไฟฟ้า IPP ใหม่ที่โครงการโรงไฟฟ้าหินกอง (HKP) หน่วยที่ 1 (กําลังการผลิต 770อMW เปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือน มี.ค. 2567) และ 3) การเปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ตามแผนของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ แบบติดตั้งบนพื้นดิน โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บ พลังงาน และโครงการโซลาร์รูฟท็อป กําลังการผลิตรวม 605อMW ในปี 2567 นอกจากนี้ เรายังคาดการณ์ถึงส่วนแบ่งกําไรที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทร่วมและการร่วมค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ งจากโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซ ธรรมชาติ Jackson (มาร์จิ้นสูงขึ้นจากราคาก๊าซที่สูงขึ้น) หลังจากผลการดําเนินงานฟื้นตัว รวมถึง INTUCH THCOM และ Gulf-Binance
ปัจจัยกระตุ้น #2: มุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการประมูลโรงไฟฟาที่กําลังจะมีขึ้นอีก 2 ครั้งในประเทศไทย เรามีมุมมเชิงบวกเกี่ยวกับการประมูลโรงไฟฟาพลังงานหมุนเวียนที่กําลังจะมีขึ้นอีก 2 ครั้งในประเทศไทย: 1) เฟสที่ 2 ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน กําลังการผลิต 3.6อGW และ 2) แผน PDP2024 ฉบับใหม่ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มกําลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอีก 30-40 GW เพื่อเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทยเป็น 50% ภายในปี 2580 ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าวว่าร่างแผน PDP2024 จะเปิดประชาพิจารณ์ในเดือนมิ.ย. 2567 จากนั้นจะนําเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงาน แห่งชาติ (กพช.) และครม. เพื่อขอความเห็นชอบใน 4Q67 ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้จะเป็นปัจจัย สนับสนุนราคาหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคไทย โดยในอดีตที่ผ่านมา ราคาหุ้นสาธารณูปโภคไทยส่วนใหญ่ปรับตัว เพิ่มขึ้นตามความคืบหน้าของแผน PDP2018 ( (ราคาหุ้น GULF ปรับตัวเพิ่มขึ้น 113% ใน 12 เดือนหลังจากทําประชาพิจารณ์ในเดือนธ.ค. 2561) และการประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เฟสแรก กําลังการ ผลิต 5 GW (+10% ภายใน 5 เดือนหลังจากทําประชาพิจารณ์ในเดือนเม.ย. 2565)
ปัจจัยกระตุ้น #3: Valuation น่าสนใจ ราคาหุ้น GULF ปรับตัวลดลง 10% YTD เทียบกับ SET ที่ -4.3% YTD จากความกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระดับสูง เนื่องจากโดยปกติแล้วราคาหุ้น สาธารณูปโภคไทยจะมี correlation เชิงลบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจาก การอ่อนค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐใน 1Q67 อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ลดลงสะท้อน ประเด็นดังกล่าวไปแล้ว และเราคาดว่ากําไรปกติจะยังคงแข็งแกร่ง โดยได้รับการสนับสนุนจากกําลังการ ผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญใน 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสในการเข้าซื้อสะสมหุ้น GULF เนื่องจาก คาดว่ากําไรปกติจะเติบโต 28% ในปี 2567 และ 25% ในปี 2568
ปัจจัยเสี่ยงที่สําคัญ: 1) ผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการใหม่ตํ่ากว่าคาด แต่ประวัติผลงานที่ดีเยี่ยม ของ GULF ในการพัฒนาโครงการให้แล้วเสร็จตามกําหนดและเป็นไปตามงบประมาณที่วางไว้จะช่วยลดความเสี่ยงนี้ 2) ยอดขายไฟฟ้าและไอนํ้าของโครงการโรงไฟฟ้า SPP ให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมอาจได้รับ ผลกระทบจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอและต้นทุนเชื้อเพลิงสูง และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศที่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สําคัญ คือ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก GULF_HighConviction240606_T
GULF share price has declined by 10% YTD on negative sentiment from high bond yield and the FX losses caused by the baht's depreciation against the US$ in 1Q24. However, we expect several factors to lead share price back up: 1) an expected high for core earnings in 2Q24 with growth continuing in tandem with capacity, 2) upcoming power bidding in Thailand, and 3) an attractive valuation at -1.5 SD of its PE mean. We maintain our Outperform rating with an end-2024 DCF-based target price of Bt63/share (WACC 4.2%, terminal growth 2.5%).
|
---|
Click here to read and/or download GULF_HighConviction240606_E |