ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

KKP – ปรับลดเป้าหมายปี 2566 อีกครั้ง – NEUTRAL (ราคาเป้าหมาย 55 บาท)

blog_list_heading
26 ต.ค. 2566;
768
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

KKP

KKP เปิดเผยในที่ประชุมนักวิเคราะห์ว่าธนาคารได้ปรับเป้า credit cost เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อสะท้อนแรงกดดันจากราคารถมือสองที่ปรับตัวลดลง และปรับลดเป้าการเติบโตของสินเชื่อสำหรับปี 2566 โดยจะชะลอการปล่อยสินเชื่อเพื่อมุ่งเน้นที่คุณภาพสินทรัพย์มากขึ้น เราคาดว่ากำไร 4Q66 จะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ แต่ลดลง YoY เราคาดว่ากำไรจะลดลง 20% ในปี 2566 (credit cost สูงขึ้น) และจะฟื้นตัวกลับมาเติบโต 8% ในปี 2567 (credit cost ลดลง) เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ KKP และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 55 บาท

ปรับเพิ่มเป้า credit cost ปี 2566 KKP ปรับเป้า credit cost ปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 2.6-2.8% สู่ >2.8% (เทียบกับ 2.8% ใน 9M66) หากไม่รวมขาดทุนจากการขายรถยึด ECL น่าจะลดลง QoQ ใน 4Q66 จาก NPL ที่ไหลเข้าลดลง โดยส่วนใหญ่เกิดจากสินเชื่อเช่าซื้อรถมือสองที่ปล่อยในปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคารถมือสองสูงกว่าปกติอันเป็นผลจากภาวะชะงักงันของอุปทานในตลาดรถยนต์ใหม่ อย่างไรก็ตาม ขาดทุนจากการขายรถยนต์ยึดยังคงได้รับแรงกดดันจากราคารถมือสองที่ปรับตัวลดลง เราปรับประมาณการ credit cost ปี 2566 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยอีก 5 bps สู่ 2.9% KKP ใช้นโยบายปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อที่เข้มงวดมากขึ้นในปี 2566 ซึ่งน่าจะส่งผลทำให้ NPL ไหลเข้าลดลงอีกในปี 2567 โดยในปี 2567 เราคาดว่า credit cost จะลดลง 40 bps สู่ 2.5% ซึ่งเป็นผลมาจาก NPL ที่ไหลเข้าลดลงและจำนวนรถยึดที่ลดลง

ปรับลดเป้าการเติบโตของสินเชื่อเพื่อยึดหลักความระมัดระวังมากขึ้น KKP ปรับเป้าการเติบโตของสินเชื่อปี 2566 ลดลงจาก 10% สู่ 6-7% (เทียบกับ 7.2% YTD) เพื่อสะท้อนนโยบายปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเน้นที่สินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลัก สำหรับปี 2567 ธนาคารจะมุ่งเน้นที่คุณภาพสินทรัพย์มากกว่าการเติบโตของสินเชื่อ โดยจะชะลอการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หลังจากปล่อยสินเชื่อได้ในระดับที่มากพอแล้ว การเติบโตของสินเชื่อในปี 2567 จะถูกขับเคลื่อนโดยสินเชื่อบรรษัทเป็นหลัก ดังนั้นเราจึงปรับประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2566 ลดลงจาก 10% สู่ 7% และปี 2567 ลดลงจาก 7% สู่ 6%

คาด NIM ลดลง KKP ยังคงเป้าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (loan spread) ปี 2566 ไว้ที่ 5% (เทียบกับ 5.2% ใน 9M66) เราคาดว่า NIM จะหดตัวลง 50 bps ใน 4Q66 และ 7 bps ในปี 2567 อันเป็นผลมาจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นและรายได้จากการลงทุนในเงินให้สินเชื่อ (สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ) ที่ลดลง หลังจากบันทึกรายได้จำนวนมากใน 3Q66

แนวโน้มกำไร เราคาดว่ากำไร 4Q66 จะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ (NII ที่ลดลงและ ECL ที่สูงขึ้นจะถูกชดเชยโดย non-NII ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล) แต่จะลดลง YoY (ECL สูงขึ้น) เราคาดว่ากำไรจะลดลง 20% ในปี 2566 (credit cost สูงขึ้น) และจะฟื้นตัวกลับมาเติบโต 8% ในปี 2567 (ได้รับการสนับสนุนจาก credit cost ที่ลดลง 40 bps, การเติบโตของสินเชื่อที่ 6%, NIM ที่หดตัวลง 7 bps และ non-NII ที่ฟื้นตัวกลับมาเติบโต 5%)

คงเรทติ้ง NEUTRAL และคงราคาเป้าหมายหมายไว้เท่าเดิม เรายังคงเรทติ้ง NEUTRAL สำหรับ KKP และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 55 บาท (PBV ปี 2567 ที่ 0.7 เท่า)

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ทั่วถึงและภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว 2) การขยายสินเชื่อได้ช้ากว่าคาดเนื่องจากความต้องการสินเชื่อชะลอตัวและการแข่งขันสูง และ 3) non-NII ได้รับแรงกดดันจากตลาดทุนที่ผันผวน

t the analyst meeting, KKP guided to a hike in credit cost partly to reflect pressure from fall used car prices and partly from a cut in 2023 loan growth target as it intends to slow expansion to focus more on asset quality. We expect 4Q23F earnings to be stable QoQ but fall YoY. In 2023, we expect a 20% fall in earnings (higher credit cost), then recovering 8% in 2024 (easing credit cost). We maintain our Neutral rating with an unchanged TP of Bt55.

Raised 2023F credit cost guidance. KKP raised its 2023F credit cost guidance to >2.8% from 2.6-2.8% (vs. 2.8% in 9M23). Excluding loss on sale of repossessed cars, ECL is expected to ease QoQ in 4Q23 due to lower NPL inflow from used car HP loans extended in 2022 when used car prices were higher than usual as a result of supply disruption in the new car market. However, with used car prices falling, sale of repossessed cars is still under pressure. We raise our 2023F credit cost by 5 bps to 2.9%. KKP has tightened its credit policy on HP loans in 2023, which should lead to a further easing in NPL inflow in 2024. In 2024, we expect credit cost to fall 40 bps to 2.5% as a result of lower NPL inflow and fewer repossessed cars.

Cut loan growth to be more prudent. KKP cut its 2023F loan growth target from 10% to 6-7% (vs. 7.2% YTD) to reflect a tighter credit policy, particularly for HP loans. In 2024, it will focus on asset quality rather than loan growth, putting the brakes on building HP and mortgage loans after achieving what it sees as a good balance. Its 2024 loan growth will be mainly driven by corporate loans. We thus cut loan growth from 10% to 7% in 2023F and 7% to 6% in 2024F.

Expect lower NIM ahead. KKP maintains its 2023F loan spread target at 5% (vs. 5.2% in 9M23). We estimate a 50 bps narrowing in NIM in 4Q23, then a drop of 7 bps in 2024F as a result of rising cost of funds and lower income from loan investment (distressed assets) after booking a lump sum in 3Q23.

Earnings outlook. We expect 4Q23F earnings to be stable QoQ (lower NII and higher ECLs to be offset by a seasonal rise in non-NII) but fall YoY (higher ECL). We expect earnings to fall 20% in 2023 (higher credit cost) and recover 8% in 2024 (underpinned by a 40 bps reduction in credit cost, 6% loan growth, a 7 bps narrowing in NIM and a 5% recovery in non-NII).

Maintain Neutral with an unchanged TP. We maintain our Neutral rating with an unchanged TP of Bt55 (0.7x 2024F BVPS).

Key risks: 1) Asset quality risk from uneven economic recovery and global economic slowdown, 2) slower-than-expected loan growth from sluggish loan demand and high competition and 3) non-NII under pressure by a volatile capital market.

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  KKP231026_T 
PDF Click  KKP231026_E

กลับด้านบน