ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

OR – 1Q67: กำไรปรับตัวขึ้นแรง QoQ ตามคาด – OUTPERFORM (ราคาเป้าหมาย 27 บาท)

blog_list_heading
09 พ.ค. 2567;
66
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

กำไรสุทธิ 1Q67 ของ OR อยู่ที่ 3.7 พันลบ. (0.31 บาท/หุ้น) ปรับตัวขึ้นแรง QoQ จากเพียง 193 ลบ. ใน 4Q66 และ +25% YoY ตามคาด โดยได้แรงหนุนจากกำไรขั้นต้น/ลิตรที่สูงขึ้นของกลุ่มธุรกิจ Mobility และ EBITDA margin กับปริมาณการขายที่แข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจ Lifestyle (F&B) นอกจากนี้บริษัทยังบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 864 ลบ. ด้วย เทียบกับขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 450 ลบ. ใน 4Q66 ผลประกอบการของ OR น่าจะปรับตัวดีขึ้นได้อย่างต่อเนื่องใน 2Q67 ในมุมมองของเรา เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดในประเทศไทย แม้ว่าจะมีแรงกดดันบางส่วนต่อค่าการตลาดจากราคาน้ำมันระดับสูง เรายังคงประมาณการของเราไว้ว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 16% สู่ 1.33 หมื่นลบ. ในปี 2567 โดยอิงกับกำไรขั้นต้นตามหลักความระมัดระวังที่ 1 บาท/ลิตร เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 0.99 บาทในปี 2566 ราคาหุ้น OR (-3M) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% outperform SET (-2%) อยู่เล็กน้อย โดยซื้อขายที่ P/E (ปี 2567) ระดับ 16.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ 27 เท่า ค่อนข้างมาก เรายืนยันคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ OR โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 27 บาท อ้างอิง EV/EBITDA ที่ 14 เท่า


กลุ่มธุรกิจ Mobility: ปริมาณการขายลดลงตามฤดูกาล ปริมาณการขายของกลุ่มธุรกิจ Mobility ลดลง 7.5% YoY และ 7.2% QoQ สู่ 6.5 พันล้านลิตรใน 1Q67 เพราะถูกฉุดรั้งโดยปริมาณการขายน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินที่ลดลงจากช่วงไฮซีซั่นใน 4Q66 และผลกระทบจากประเด็นข่าวปลอมเกี่ยวกับความไม่มั่นใจในมาตรวัดปริมาตรน้ำมันเชื้อเพลิงที่่สถานีบริการน้ำมัน PTT บางแห่ง ซึ่งส่งผลทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทปรับลดลงจาก 42% (สิ้นปี 2566) สู่ 39.9% ใน 1Q67 ประเด็นดังกล่าวคลี่คลายลงแล้ว และผู้บริหารคาดว่าปริมาณการขายจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงที่เหลือของปีนี้ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากประเด็นดังกล่าวถูกชดเชยโดยกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นสู่ 1.12 บาท/ลิตร (+11% YoY และ +49% QoQ) รวมถึงกำไรสต็อกที่ ~330 ลบ. ค่าการตลาดจากการค้าปลีกน้ำมันยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน ในขณะที่ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลได้รับแรงกดดันจากการควบคุมราคาโดยรัฐบาล

กลุ่มธุรกิจ Lifestyle: EBITDA margin กว้างขึ้น QoQ EBITDA จากกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ปรับตัวดีขึ้น 24% YoY และ 6% QoQ ใน 1Q67 ซึ่งเป็นผลมาจาก EBITDA margin ที่ดีขึ้นที่ 26.9% เทียบกับ 25.6% ใน 4Q66 และปริมาณการขายที่สูงขึ้นที่ร้านคาเฟ่ อเมซอน (+9% QoQ) สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 99 ล้านแก้ว ซึ่งส่วนหนึ่งสะท้อนถึงแคมเปญโปรโมชั่นในเดือนก.พ. 2567 ในขณะที่ยังมีการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง จำนวนแก้วที่ขายได้ต่อสาขาของร้านคาเฟ่ อเมซอน เพิ่มขึ้น 7.6% QoQ ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น 1% QoQ

กลุ่มธุรกิจ Global: ปริมาณการขายในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น ธุรกิจในฟิลิปปินส์ของ OR ช่วยสนับสนุนกำไรของกลุ่มธุรกิจ Global ใน 1Q67 โดย EBITDA เพิ่มขึ้นจากเพียง 3 ลบ. ใน 4Q66 สู่ 325 ลบ. ใน 1Q67 นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจนี้ยังพลิกจากขาดทุนใน 4Q66 กลับมามีกำไรจากการดำเนินงานที่ 161 ลบ. ใน 1Q67 แม้ว่าคิดเป็นสัดส่วนเพียง 4% ของกำไรจากการดำเนินงานทั้งหมดใน 1Q67 อย่างไรก็ตาม บริษัทร่วมทุนแห่งหนึ่งในกลุ่มธุรกิจ Global ทำให้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าโดยรวมมีผลติดลบที่ 86 ลบ. ใน 1Q67 เนื่องจากมีรายการปรับปรุงการอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนในบริษัทร่วมทุนในประเทศเมียนมาจำนวน 255 ลบ.

กำไรจะรักษาโมเมนตัมขาขึ้นเอาไว้ได้ เราคาดว่ากำไรของ OR จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2567 โดยจะเติบโต 16% เทียบกับ +7% ในปี 2566 โดยได้แรงหนุนจากปริมาณการขายที่สูงขึ้นจากทั้งสามกลุ่มธุรกิจ – Mobility Lifestyle และ Global – ในขณะที่บริษัทยังคงเปิดสถานีบริการน้ำมันและขยายสาขาร้านค้าในธุรกิจ non-oil อย่างต่อเนื่อง โดยใช้สมมติฐานกำไรขั้นต้นของกลุ่มธุรกิจ Mobility ที่ 1 บาท/ลิตร และ EBITDA margin ของกลุ่มธุรกิจ Lifestyle ที่ 25% ซึ่งต่ำกว่า 25.4% ในปี 2566 เล็กน้อย เรายังคงราคาเป้าหมายของ OR ไว้ที่ 27 บาท โดยอิงกับ EV/EBITDA (ปี 2567) ที่ 14 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของธุรกิจค้าปลีกในตลาดไทย หรือเทียบเท่ากับ P/E (ปี 2567) ที่ 24 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปี 2564-2566 ที่ 27 เท่าอยู่เล็กน้อย และ PBV 2.8 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยปี 2564-2566 ที่ 2.9 เท่า

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมันของ OR ในขณะที่ความผันผวนของราคาน้ำมันอาจทำให้มีขาดทุนสต๊อกมากขึ้น ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คือ การแทรกแซงของรัฐบาลในการกำหนดเพดานราคาขายปลีกน้ำมัน (โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล) การแข่งขันที่สูงขึ้น และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นซึ่งไม่สามารถส่งผ่านได้

 
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก OR240509_T
 
 

1Q24 net profit was Bt3.7bn (Bt0.31/share), surging QoQ from Bt193mn in 4Q23 and up 25% YoY as expected, driven by higher gross profit/liter for the mobility segment and strong EBITDA margin and sales volume for the lifestyle segment (F&B). It also booked an FX gain of Bt864mn vs. FX loss of Bt450mn in 4Q23. We expect further earnings growth in 2Q24 on more holidays in Thailand, despite pressure on marketing margin from high oil price. We maintain our forecast 16% growth in net profit to Bt13.3bn in 2024F based on a conservative gross profit of Bt1/liter, up slightly from Bt0.99 in 2023. OR share price (-3M) has risen 2%, slightly outperforming the SET (-2%), to trade at 16.7x P/E (2024F), much below 3-year average of 27x. Rated Outperform with TP of Bt27, based on 14x EV/EBITDA.


Mobility segment: seasonally lower sales volume. Mobility segment sales volume fell 7.5% YoY and 7.2% QoQ in 1Q24 to 6.5bn liters on lower diesel and gasoline sales volume (high season is 4Q) and the hit from an accusation in social media that some PTT service stations in the provinces were cheating on the quantity of fuel. This dragged its market share down to 39.9% in 1Q24 from 42% (end-2023). The issue has been resolved, and management expects sales volume to recover gradually over the rest of the year. An offset was provided by a higher gross profit of Bt1.12/liter (+11% YoY and +49% QoQ), including ~Bt330mn stock gain. Retail marketing margin remained healthy, especially for gasoline, while diesel margin continued to be pressured by the government’s regulated price.

Lifestyle segment: EBITDA margin wider QoQ. EBITDA contribution from the lifestyle segment widened 24% YoY and 6% QoQ in 1Q24 on a better EBITDA margin of 26.9% vs. 25.6% in 4Q23 and higher sales at Café Amazon (+9% QoQ) to a record 99mn cups, partly from a promotional campaign in Feb; it continues to control expenses. Café Amazon’s cup sold per outlet grew 7.6% QoQ as outlet numbers grew 1% QoQ.

Global segment: more sales volume in the Philippines. The Philippines was important for the segment’s profit in 1Q24, with EBITDA rising to Bt325mn from only Bt3mn in 4Q23. This also turned operating profit around from a loss in 4Q23 to profit of Bt161mn in 1Q24, though this was only 4% of total operating profit for the quarter. An associate in the global segment turned from contribution of profit from investment in joint ventures to a loss of Bt86mn in 1Q24 due to the impact of FX adjustment for the business in Myanmar of Bt255mn.

Profit growth to continue up. We expect profit to maintain its upward momentum in 2024F with growth of 16% vs. +7% in 2023, fueled by higher sales volume for all three segments, mobility, lifestyle and global, in turned backed by expansion of service stations and non-oil outlets. This assumes gross profit for the mobility segment at Bt1/liter and EBITDA margin for the lifestyle segment at 25%, slightly below 25.4% in 2023. We maintain our TP of Bt27, based on EV/EBITDA (2024F) of 14x, the average retail business multiple in the Thai market. This implies P/E (2024F) of 24x, slightly lower than 3-year average of 27x for 2021-23 and PBV of 2.8x vs. 2021-23 average of 2.9x.

Risk factors: An economic slowdown would erode demand for OR’s oil and non-oil products while oil price volatility may cause more stock losses. Other risks are government intervention in capping retail oil price, particularly diesel, and higher competition and production cost that cannot be passed on.

 
Click here to read and/or download OR240509_E
 
 

กลับด้านบน