เนื้อหาโดยรวม
พรีวิว 1Q67: คาดกำไรอ่อนตัวลง QoQ
เราคาดว่ากำไรสุทธิ 1Q67 ของ PTT (ประกาศ 14 พ.ค.) จะลดลง 5.9% YoY และ 20% QoQ แม้ว่าส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจ P&R* จะเพิ่มขึ้น และกำไรของธุรกิจ E&P จะแข็งแกร่ง โดยมีสาเหตุมาจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน >2 หมื่นลบ. และการจัดสรรเงินสนับสนุนมาตรการลดค่าไฟฟ้าตามที่รัฐบาลร้องขอ เราคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้น 19.5% YoY และ 0.7% QoQ สู่ 3.34 หมื่นลบ. โดยได้แรงหนุนจากกำไรที่แข็งแกร่งมากขึ้นของธุรกิจ P&R ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งสะท้อนถึงมาร์จิ้นและอุปสงค์ที่สูงขึ้น ผลประกอบการจะอ่อนตัวลง QoQ ใน 2Q67 เนื่องจากกำไรของธุรกิจ P&R จะได้รับผลกระทบจาก GRM ที่อ่อนแอลงอย่างมาก ในขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมียังอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น PTT ในปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำที่ PBV 0.8 เท่า (ปี 2567) และ P/E 8.8 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 1.3 เท่า และ 14.6 เท่า ตามลำดับ ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ PTT โดยให้ราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี sum-of-the-parts ที่ 45 บาท นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 5.9% ก็ดูน่าสนใจด้วยเช่นกัน
กำไรจากธุรกิจก๊าซจะอ่อนตัวลง QoQ ปริมาณการขายก๊าซของ PTT คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10.2% YoY และ 5.7% QoQ สู่ 4,494 mmcfd โดยเกิดจากปริมาณการใช้ก๊าซที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้า (+16.8% YoY, +9.5% QoQ) ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนก๊าซที่ลดลง ในขณะที่อุปทานไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำลดลง QoQ จากผลกระทบทางฤดูกาล ปริมาณการขายก๊าซให้กับโรงแยกก๊าซ (GSP) คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 12.8% YoY (แม้ว่าจะทรงตัว QoQ) ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิตก๊าซจากอ่าวไทยเพิ่มขึ้นหลังจากโครงการ G1/61 เพิ่มการผลิตใน 1Q67 นอกจากนี้เรายังคาดว่าปริมาณการขายของ GSP จะเพิ่มขึ้น 4.1% YoY และ 1.6% QoQ สู่ 1.62 ล้านตันใน 1Q67 เนื่องจากอุปสงค์จากลูกค้ากลับสู่ภาวะปกติหลังจากมีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนใน 4Q66 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า EBITDA จากธุรกิจก๊าซจะลดลง 9% QoQ โดยมีสาเหตุมาจากการจัดสรรเงินสนับสนุนมาตรการลดค่าไฟฟ้าในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. 2567 ตามที่รัฐบาลร้องขอ โดยใช้เงิน 4.3 พันลบ. ที่ได้มาจากการที่ผู้ดำเนินการแหล่งเอราวัณรายเดิมไม่สามารถส่งก๊าซได้ตามสัญญาสัมปทานเดิมมาช่วยลดค่าไฟส่วนนี้ กำไรจากธุรกิจน้ำมันจะได้รับการสนับสนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ปริมาณการขายของธุรกิจการตลาดน้ำมันที่ดำเนินการผ่าน OR คาดว่าจะลดลง 7.2% YoY และ 6.9% QoQ สู่ 6.5 พันล้านลิตรใน 1Q67 โดยเกิดจากความต้องการเดินทางที่ลดลงตามฤดูกาลในประเทศไทยและปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลที่ลดลงในกลุ่มโรงไฟฟ้า เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติกลับสู่ระดับปกติ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น/ลิตรจะเพิ่มขึ้น 18.8% YoY และ 60% QoQ สู่ 1.2 บาท โดยได้รับการสนับสนุนจากกำไรจากสินค้าคงเหลือ กำไรจากการดำเนินงานใน 2Q67 จะอ่อนตัวลง QoQ เนื่องจากกำไรจากธุรกิจ P&R จะลดลง แม้เราคาดว่ากำไรของธุรกิจ E&P จะยังคงแข็งแกร่งใน 2Q67 แต่ market GRM จากธุรกิจ P&R ปรับตัวลดลงมาแล้ว 46% QoQ และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งกำไร 2Q67 ของ PTT นอกเหนือจากการจัดสรรเงินสนับสนุนมาตรการลดค่าไฟฟ้าจำนวน 4.3 พันลบ. ใน 1Q67 แล้ว กำไรของ PTT ยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากการจัดสรรเงินสนับสนุนเพิ่มเติมและผลกระทบของนโยบาย single pool gas price ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้ลดลง 6-7 พันลบ. ใน 2Q67 หากมีการประกาศใช้นโยบายดังกล่าว ซึ่งจะถูกบันทึกเป็นต้นทุนที่สูงขึ้นที่ PTT รายการนี้จะสร้างความเสี่ยงขาลงต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ของเรา (4-5% ของประมาณการกำไรสุทธิในปัจจุบัน) ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์พลังงานและปิโตรเคมีของ PTT ในขณะที่ความผันผวนของราคาน้ำมันอาจทำให้มีขาดทุนสต๊อกมากขึ้น ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คือ การด้อยค่าของสินทรัพย์ ขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และรัฐบาลแทรกแซงธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญ คือ ผลกระทบของธุรกิจต่อสิ่งแวดล้อม และการปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด |
---|
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก PTT240507_T
Click here to read and/or download file PTT240507_E