ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
  10. กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

TIDLOR – กำไรเติบโตดีและมีโอกาสเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล – OUTPERFORM (ราคาเป้าหมาย 27 บาท)

blog_list_heading
InnovestX Research
17 พ.ค. 2567;
218
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

หลังการประชุมนักวิเคราะห์ เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ TIDLOR และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 27 บาท เรายังคงมุมมองว่ากำไรมีแนวโน้มเติบโตดีในปี 2567 โดยได้รับการสนับสนุนจากสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตดี และ credit cost ที่ลดลง การปรับโครงสร้างองค์กรเป็นโฮลดิ้งส์ทำให้มีโอกาสที่บริษัทจะเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล

Credit cost จะลดลง TIDLOR ยังคงเป้าที่จะลด credit cost ลงสู่ 3-3.35% ในปี 2567 (เทียบกับ 3.32% ใน 1Q67) จาก 3.39% ในปี 2566 ซึ่งเป็นผลมาจาก NPL ที่ไหลเข้าน้อยลงและการตัดหนี้สูญน้อยลงหลังจากเร่งตัดหนี้สูญในปี 2566 บริษัทคาดว่า credit cost ปี 2567 น่าจะอยู่ที่กรอบบนของเป้าหมายที่ 3.35% โดยมีสาเหตุมาจากความไม่แน่นอนของราคารถมือสอง ซึ่งคาดว่าจะลดลงใน 2Q67 หลังหมดมาตรการช่วยเหลือในเดือนเม.ย. เราปรับประมาณการ credit cost ปี 2567 เพิ่มขึ้น 5 bps สู่ 3.35% (-4 bps)

สินเชื่อจะเติบโตดีต่อเนื่อง TIDLOR ยังคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อไว้ที่ 10-20% ในปี 2567 การเติบโตของสินเชื่อที่ 2.8% QoQ (+21% YoY) ใน 1Q67 (แข็งแกร่งกว่า 2.3% ใน 1Q66) แข็งแกร่งกว่าเป้าของบริษัทและประมาณการของเรา ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของสินเชื่อที่เร่งตัวขึ้นตามฤดูกาลใน 2Q67 เรายังคงประมาณการการเติบโตของสินเชื่อปี 2567 ไว้ที่ 18% เทียบกับ 20% ในปี 2566

NIM จะได้รับแรงกดดันจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น TIDLOR คาดว่าต้นทุนทางการเงินของบริษัทจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 40 bps ในช่วงที่เหลือของปี 2567 ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น TIDLOR จึงปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้น 35 bps ในเดือนธ.ค. ปีที่ผ่านมา โดยใช้กับการปล่อยสินเชื่อใหม่ เราคาดว่า NIM จะลดลง 11 bps ในปี 2567

ปรับประมาณการการเติบโตของรายได้นายหน้าเพิ่มขึ้น เบี้ยประกันวินาศภัยของ TIDLOR เติบโต 23% YoY ใน 1Q67 ดีกว่าเป้าที่บริษัทวางไว้ในปี 2567 ที่ 10-20% บริษัทเพิ่งปรับเปลี่ยนแบรนด์ธุรกิจนายหน้าประกันภัยเป็น “ประกันติดโล่” เราคาดว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าจดจำ แบรนด์ได้ดีขึ้นและยอดขายเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น ดังนั้นเราจึงปรับประมาณการการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการในปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 19%

ปรับโครงสร้างองค์กรเป็นโฮลดิ้งส์= มีโอกาสเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล TIDLOR อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กรเป็นโฮลดิ้งส์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 4Q67 บริษัทวางแผนจัดตั้งบริษัทใหม่ (NewCo) ภายใต้ ติดล้อ โฮลดิ้งส์ เพื่อดำเนินการแพลตฟอร์ม InsurTech การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้จะเป็นการปูทางไปสู่การจ่ายปันผลเป็นเงินสดแทนการจ่ายหุ้นปันผล และทำให้มีโอกาสที่บริษัทจะจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ในปี 2567 ที่ 20%

กำไรมีแนวโน้มฟื้นตัวดี เราคาดว่ากำไรจะเติบโตในอัตราเร่งตัวขึ้นจาก 4% ในปี 2566 สู่ 22% (+18% สำหรับ EPS) ในปี 2567 โดยได้รับการสนับสนุนจาก credit cost ที่ลดลง สินเชื่อที่เติบโตดี และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตดี แม้ว่า NIM จะลดลง

คงคำแนะนำ OUTPERFORM และราคาเป้าหมายไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เรายังคงคำแนะนำ OUTPERFORM สำหรับ TIDLOR และคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 27 บาท (ที่ PBV 2.4 เท่า อ้างอิง ROE ระยะยาวที่ 17% cost of equity ที่ 9.4% และการเติบโตระยะยาวที่ 4%) หรือ PE ปี 2567 ที่ 17 เท่า เนื่องจากเราคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวดีในปี 2567 และปี 2568 โดยได้รับการสนับสนุนจาก credit cost ที่ลดลง

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ: 1) ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ทั่วถึง 2) ความเสี่ยงด้าน credit cost จากราคารถมือสองที่ลดลง 3) การแข่งขันที่สูงขึ้นจากธนาคารต่างๆ 4) ความเสี่ยงด้านกฎหมาย และ 5) ความเสี่ยง ESG จาก market conduct

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก  TIDLOR240517_T

Post analyst meeting, we maintain our Outperform rating with an unchanged TP of Bt27. We maintain our view of good earnings growth in 2024, underpinned by decent growth in loan and fee income and lower credit cost. The restructure into a holding company will give upside to dividend payout.

Easing credit cost. TIDLOR still plans to ease credit cost to 3-3.35% in 2024 (vs. 3.32% in 1Q24) from 3.39% in 2023 on lower NPL inflow and smaller write-offs after making early write-offs in 2023. It expects its 2024 credit cost to approach the 3.35% upper-end guidance, as it is uncertain about used car prices, which it expects to fall in 2Q24 following the end of the relief program in April. We inched up 2024F credit cost by 5 bps to 3.35% (-4 bps).

Continued decent growth. TIDLOR is keeping its loan growth target at 10-20% in 2024. QoQ loan growth was 2.8% (+21% YoY) in 1Q24, stronger than 2.3% in 1Q23 and greater than its own and our expectations, reflecting rising loan demand. It is seeing a seasonal acceleration in loan growth in 2Q24 and we maintain our 2024F loan growth at 18% vs. 20% in 2023.

NIM pressured by rising cost of funds. TIDLOR expects cost of funds to rise no more than 40 bps over the rest of the year. To mitigate impact from the rise in cost of funds, it raised lending interest rates by 35 bps in December last year, applied to new lending. We expect NIM to narrow 11 bps in 2024F.

Raised brokerage fee income growth. TIDLOR’s non-life insurance premiums grew 23% YoY in 1Q24, beating its 2024 target of 10-20%. The company just rebranded its insurance brokerage business to “Shield Insurance”. We expect this to help boost brand awareness and premium sales and on this basis we raise our 2024F fee & service income growth to 19% from 18%.

Restructuring to holding company = upside to dividend payout. It is in the process of restructuring to a holding company, which it expects to complete in 4Q24. TIDLOR plans to set up a new company (NewCo) under Tidlor Holdings to operate InsurTech Platform. This will pave the way for a cash dividend instead of a stock dividend, offering upside to our 2024F dividend payout estimate of 20%.

Good earnings recovery. We expect earnings growth to accelerate to 22% (+18% for EPS) in 2024F from 4% in 2023, underpinned by lower credit cost, decent loan growth and good fee income growth that will offset lower NIM.

Maintain Outperform with an unchanged TP. We maintain our Outperform rating with an unchanged TP of Bt27 (at 2.4x PBV based on 17% L-T ROE, 9.4% cost of equity and 4% L-T growth) or 17x 2024F PE as we expect a good earnings recovery in 2024 and 2025, backed by lower credit cost.

Key risks: 1) Asset quality risk from an uneven economic recovery, 2) credit cost risk from falling used vehicle prices, 3) rising competition from banks, 4) regulatory risk and 5) ESG risk from market conduct.

 
Click here to read and/or download file TIDLOR240517_E

หัวข้ออื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
กลับด้านบน