สวัสดีตอนเช้า - 19 มี.ค. 2567 เคลื่อนไหวในกรอบ 1380-1400 จุด

19 มี.ค. 2567;

แชร์บทความนี้

เนื้อหาโดยรวม

เคลื่อนไหวในกรอบ 1380-1400 จุด

คาด SET เคลื่อนไหวภายในกรอบ โดยราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นช่วยหนุนดัชนีผ่านกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม คาดนักลงทุนในตลาดยังมีความระมัดระวังก่อนการประชุมเฟด ทำให้คาดกรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1395-1400 จุด ขณะที่กรอบล่างอยู่ที่บริเวณแนวรับ 1380 จุด หากต่ำกว่า เริ่มเป็นสัญญาณลบ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1370 จุด

ประเด็นสำคัญ

• จีนรายงานตัวเลขการผลิตอุตสาหกรรม-ยอดค้าปลีก-ยอดการลงทุนสินทรัพย์ถาวร เดือน ม.ค.-ก.พ. เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด สะท้อน ศก. จีนฟื้นตัวหลังจากรัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการกระตุ้น ศก. ปลายปีที่แล้ว
• ราคาน้ำมัน WTI และ Brent ปรับขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ ต.ค. 66 หลังอิรักเตรียมลดการส่งออกน้ำมันดิบลงสู่ 3.3 ล้านบาร์เรล/วันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เพื่อชดเชยการผลิตเกินโควตาของ OPEC+
• หุ้นอัลฟาเบท +4.4%DoD หลังแอปเปิ้ลกำลังเจรจากับกูเกิลเพื่อนำชุดโมเดล AI Gemini มาใช้ใน iPhone ทำให้ความเป็นพันธมิตรด้านระบบ Search ของทั้งสองฝ่ายแข็งแกร่งขึ้น
• สนพ. คาดความต้องการใช้พลังงานประเทศปีนี้โต 3.1% อานิสงส์ส่งออก-ท่องเที่ยวฟื้นตัว-ฤดูร้อนอุณหภูมิสูงขึ้น ส่วนปีที่แล้วโต 0.8% ภาคอุตสาหกรรมใช้ไฟลดลง 2.6% นอกจากนี้คาดแผนพลังงานชาติประกาศใช้ ก.ย.นี้ โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ 5 แผนในต้นเดือน เม.ย. ซึ่งแผน PDP จะต้องมีพลังงานหมุนเวียน 50% ในปี 2080
• ผู้บริหารทีวีดิจิทัลเข้าพบ กสทช. เสนอ 2 ข้อเรียกร้องทีวีดิจิทัล แก้กฎหมายยกเลิกประมูลช่อง หลังใบอนุญาตหมดปี 2572 พร้อมทั้งคัดค้านประมูลคลื่น 3500 MHz คาดกระทบธุรกิจ-ยอดคนดูลดลง
• ตลท. ระบุปี 2566 บจ. ในตลาดหุ้นไทย (SET และ mai) จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นรวมกว่า 5.93 แสนลบ. โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมามูลค่าการจ่ายเงินปันผลเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.49% ทั้งนี้ 3 หมวดธุรกิจที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงสุดปี 2566 ได้แก่ พลังงาน-ธนาคาร-ICT

กลยุทธ์การลงทุน

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องและลุ้นกลับมายืนเหนือ 1400 จุด โดยในประเทศจะมีความคาดหวังต่อการเบิกจ่ายงบประมาณ ขณะที่ต่างประเทศคาดว่าการประชุมนโยบายการเงินของ FED จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและมีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์

ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องและลุ้นกลับมายืนเหนือ 1400 จากความคาดหวังเฟดจะส่งสัญญาณหรือท่าทีปรับลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. นี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมหลัก ดังนี้
1) หุ้นเก็งกำไรจากราคาหุ้น Laggard, มีแนวโน้มจ่ายปันผลดีและให้ Div. payout ratio เพิ่มขึ้น และมีโอกาสซื้อขายด้วย PER Multiple สูงขึ้น เลือก กลุ่มแบงก์ (BBL KBANK) กลุ่มอสังหา (AP) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC)
2) หุ้นเก็งกำไรเชิงเทคนิคหลังราคหุ้น Breakout Downtrend และเริ่มเห็น NVDR พลิกกลับมา Net Buy ในเดือน มี.ค. เลือก IVL GULF BDMS
3) หุ้นเก็งกำไรจากคาดได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการผลิต (โดยเฉพาะจีน) และผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับ Top Pick 2Q67 เลือก AOT GFPT GULF KCE SCGP
4) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนสะสมแบบ DCA หลังราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง เลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC

Daily Top picks

BEM มองกำไรมีโมเมนตัมฟื้นตัวดีสุดในกลุ่มขนส่งทางบก อีกทั้งยังเห็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นหลายอย่างที่จะทยอยเข้ามา เช่น การปรับขึ้นค่าโดยสาร MRT ซึ่งคาดจะประกาศในช่วงต้นเดือน มิ.ย. 67, ข้อสรุปโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และโครงการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 (double deck) ใน 2H67
PTT กำไร 1Q67 คาดดีขึ้น QoQ จาก GRM ที่สูงขึ้นและผลกระทบขาดทุนสินค้าคงเหลือที่ลดลง อีกทั้งมองธุรกิจที่หลากหลายจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับความสามารถทำกำไรในระยะยาว ขณะที่ Valuation ไม่แพง โดยเทรดที่ PBV 0.8 เท่า และ PER 9.1 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 1.3 เท่า และ 14.6 เท่า ตามลำดับ

บทวิเคราะห์วันนี้

กลุ่มขนส่งทางบก – ฟื้นตัวแตกต่างกันในปีนี้

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Daily240319_T

To move between 1380-1400

Market today

The SET is expected to be range-bound. Although rising oil price will support the index through the Energy sector, investors are cautious ahead of the FOMC meeting, limiting the upper bound to 1395-1400; the lower bound is at 1380. A fall below this would be negative, with the next support at 1370.

Today’s highlights

• China reported higher-than-expected industrial production, retail sales and fixed-asset investment figures for January-February, reflecting recovery after the government engaged in stimulus measures at the end of last year.
• WTI and Brent crude oil prices reached their highest levels since October 2023 following Iraq's preparation to reduce crude exports to 3.3mn bbl/day to compensate for overproduction by OPEC+.
• Alphabet's stock rose by 4.4%DoD from negotiations between Apple and Google to use the AI model Gemini in iPhones, strengthening the partnership in the search system.
• EPPO forecasts a 3.1% growth in energy demand for Thailand this year due to recovering exports, tourism and higher temperatures in the hot season. Last year, energy demand grew 0.8%, with a 2.6% fall in industrial electricity consumption. The National Energy Policy Committee plans to announce an energy plan in September and will open for public hearings on five plans in early April. The Power Development Plan (PDP) aims at 50% renewable energy by 2080.
• Digital TV executives met with the NBTC to submit two requests: cancellation of the auction of channels after licenses expire in 2029 and opposition to the auction of the 3500 MHz band, which could impact business and viewership.
• The SEC said companies listed on the Thai stock market (SET and mai) paid dividends of over Bt593bn in 2023. Over the past 10 years, the dividend payout has grown by an average of 4.49% per year. The top three sectors with the highest dividend payouts in 2023 were Energy, Banks and ICT.

Strategy today

In the short term, the Thai capital market is expected to continue recovering and stand above 1400, supported by hopes for disbursement of the government budget and by hopes the FOMC meeting keeps interest rate unchanged and signals a cut in the second half of the year. The strategy is “Selective Buy”.

Trading today

In the short term the SET is expected to continue recovering and stand above 1400 on hopes the Fed will signal an interest rate cut in June. We recommend “Selective Buy” in four main themes:
1) Speculative stocks: stocks whose price is lagging and likely to have good dividends, a higher dividend payout ratio and trading at a higher PER – Banking (BBL and KBANK), Property Development (AP) and Telecommunication (ADVANC).
2) Speculative stocks on a technical basis after prices have broken a downtrend and NVDR has turned to a net buy in March – IVL, GULF and BDMS.
3) Speculative stocks expected to gain from manufacturing recovery (especially China), and whose operating results have passed the bottom. These are also our 2Q24 Top Picks – AOT, GFPT, GULF, KCE and SCGP.
4) Long-term investors are recommended to invest via DCA accumulation as the stock prices are undervalued, and operating results are strong – BBL, BDMS, BEM, CPALL, PTT and SCC.

Daily top picks

BEM: Profit is expected to exhibit the most outstanding recovery among land transport peers and there are many catalysts: a raise in MRT fares, expected to be announced at the beginning of June, a decision on the West Orange Line project and the double-deck expressway construction project in 2H24.
PTT: 1Q24 profit is expected to improve QoQ from higher GRM on lower inventory loss, while its diverse businesses will stabilize long-term profit. Valuation is not expensive, trading at PBV of 0.8x and PER of 9.1x, compared to 10-year historical average of 1.3x and 14.6x, respectively.

Today’s reports

Land Transportation – Recovery mixed this year

Click here to read and/or download file Daily240319_E

หัวข้ออื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

Stock Company Update

what not to miss

Biweekly Portfolio Strategy

บทวิเคราะห์หุ้นไทย

passive income

กลับด้านบน