![test_blog_details_img](/ResourcePackages/scbs/assets/dist/images/blog-details/smile-face.png)
เนื้อหาโดยรวม
หากต่ำ 1370 จุด มีโอกาสทำ Low ใหม่ | ||||||||||||||||
แนวโน้มตลาดวันนี้ | ||||||||||||||||
SET ฟื้นตัวจากแนวรับ 1370 จุด แต่สัญญาณโดยรวมยังดูอ่อนแรง ดังนั้น ยังมีความเสี่ยงต่อการปรับลงได้ต่อ โดยหากต่ำกว่า 1370 จุด คาดว่าดัชนีมีโอกาสหลุด 1366 จุด หรือทำจุดต่ำใหม่อีกครั้ง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1360 จุด ด้านกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1392 จุด หากขึ้นทะลุผ่านได้ จะเป็นสัญญาณที่ดี | ||||||||||||||||
ประเด็นสำคัญ | ||||||||||||||||
• ดัชนี PCE ทั่วไป ต.ค. ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.0%YoY ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ต.ค. เพิ่มขึ้น 3.5%YoY ชะลอตัวลงจาก ก.ย. ซึ่งทำให้ตลาดคาด Fed จะยุติวงจรการปรับขึ้น ดบ. | ||||||||||||||||
กลยุทธ์การลงทุน | ||||||||||||||||
เรามองช่วงสั้น SET จะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ โดยล่าสุดการประชุมนโยบายการเงินของ กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.50% ตามคาด ขณะที่คาดจะเริ่มมีเม็ดเงินลงทุนในกองทุน TESG ทยอยเข้ามาหลัง บลจ. เริ่มขายตั้งแต่ 1 ธ.ค. นี้ ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดหุ้นไทย กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” | ||||||||||||||||
ล็อคเป้าลงทุน | ||||||||||||||||
Weekly Portfolio : ช่วงสั้นมอง SET เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ หลังไร้ปัจจัยหนุนใหม่เข้ามาช่วยกระตุ้นบรรยากาศลงทุน ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัว ดังนี้ 1) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG เพื่อกระตุ้นการลงทุนใน ตลท. ระยะยาว ซึ่งเราได้คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่มีคุณสมบัติน่าสนใจ ดังนี้ (I) ได้ ESG Rating “AAA” หรือ “AA” และ (II) ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า SET YTD เลือก SCGP OR CPALL BEM GULF CRC HMPRO 2) หุ้น Big Cap. (SET50) ที่คาดเป็นเป้าหมายการลงทุนจากแผนจัดตั้งกองทุน TESG เพื่อกระตุ้นการลงทุนใน ตลท. ระยะยาว ซึ่งคัดเลือกหุ้นที่อยู่ในดัชนี SETESG ที่ได้ ESG Rating “AAA” และราคาหุ้นปรับขึ้นดีกว่า SET YTD อีกทั้งผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง และคาดให้ Div. Yield มากกว่า 5% ต่อปี เลือก PTT KTB ช่วงสั้นแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบอย่างมีนัยจากแผนปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลซึ่งจะมีการประชุม ครม. 12 ธ.ค. นี้ ได้แก่ กลุ่มขนส่งพัสดุ (KEX) กลุ่มอาหาร (CPF ZEN GFPT TU AU) กลุ่มอสังหาฯ (LPN PSH SPALI SIRI QH AP) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE) ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG) | ||||||||||||||||
Daily Top picks | ||||||||||||||||
HMPRO มองเป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AA” ขณะที่ 4Q66 คาดเป็นไตรมาสดีสุดของปี และปี 2567 คาดได้ประโยชน์หลักจากโครงการ E-refund เพราะมียอดใช้จ่ายต่อบิลที่สูงกว่า บ. อื่นในกลุ่มพาณิชย์ คาดราคาหุ้นปัจจุบันยังไม่สะท้อนประโยชน์จากโครงการ E-refund | ||||||||||||||||
บทวิเคราะห์วันนี้ | ||||||||||||||||
HMPRO (High Conviction) – หนึ่งในผู้ได้รับประโยชน์รายหลักจากโครงการ E-refund | ||||||||||||||||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Daily231201_T
|