เนื้อหาโดยรวม
สังเกตไหมว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สิ่งของรอบตัวเรามีราคาสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นค่ารถเมล์ ค่าอาหารตามสั่ง หรือแม้กระทั่งค่านมเปรี้ยวที่กินตั้งแต่เด็ก ก็ต่างขึ้นราคากันไม่หยุด นี่คือผลกระทบที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งไม่ใช่แค่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ยังกระทบต่อการลงทุนอีกด้วย แล้วเราจะมีวิธีรับมือกับภาวะเงินเฟ้ออย่างไรในฐานะนักลงทุน มาดูกันเลย
ภาวะเงินเฟ้อ คือปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อเราทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากถามว่า ภาวะเงินเฟ้อกระทบกับการใช้ชีวิตของเราแค่ไหน อยากให้ทุกคนลองนึกย้อนไปถึงเมื่อหลายสิบปีก่อน ที่ค่ารถเมล์มีราคาเพียง 2 บาท แต่ปัจจุบันนี้กลับพุ่งทะยานมาถึง 20 บาท หรือแม้แต่ของใกล้ตัวที่เรากินกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ อย่างยาคูลท์ ที่สมัยก่อนราคาเพียงขวดละ 3.50 บาท แต่ล่าสุดก็ได้มีประกาศขึ้นราคามาเป็นขวดละ 8-9 บาทไปเรียบร้อย แน่นอนว่าสำหรับนักลงทุนแล้ว ภาวะเงินเฟ้อก็ถือเป็นหนึ่งในปัญหาที่ไม่อาจมองข้ามได้ เพราะจะทำให้ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนลดน้อยลง จนถึงขั้นติดลบ
บทความนี้ชวนมาทำความเข้าใจกันว่า ภาวะเงินเฟ้อมีสาเหตุมาจากอะไร และในฐานะนักลงทุน เราจะรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อได้อย่างไรบ้าง
ภาวะเงินเฟ้อมีสาเหตุมาจากอะไร?
ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
โดยส่วนใหญ่แล้ว ภาวะเงินเฟ้อมักมีสาเหตุมาจากการที่ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น ทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตมีน้อยลง ทำให้ผู้ผลิตต้องซื้อวัตถุดิบในราคาที่แพงขึ้น หรือ จำนวนแรงงานที่มีไม่เพียงพอต่อการผลิต จึงต้องมีการว่าจ้างบุคลากรเพิ่ม และผู้ผลิตก็ต้องจ่ายค่าแรงมากขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ผลิตเองก็ต้องปรับราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้ตอบรับกับต้นทุนที่เสียไป
ผู้บริโภคมีความต้องการมากขึ้น
นอกจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นแล้ว ความต้องการของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น ก็ถือเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อได้เช่นกัน เพราะเมื่อผู้คนมีความต้องการ แต่สินค้าและบริการกลับมีไม่เพียงพอ ก็กลายเป็นโอกาสของผู้ผลิตที่จะทำการปรับราคาสินค้าและบริการให้แพงขึ้น หากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัด ๆ ก็ต้องเป็น โทรศัพท์ iPhone ที่ถึงแม้จะขึ้นราคาทุกปี แต่คนทั่วโลกก็ยังรอซื้อจนหมดสต็อก
การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในภาครัฐ
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ก็คือการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในภาครัฐ จนกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอย เช่น การขึ้นภาษี หรือ การปรับกฎเกณฑ์ในการซื้อสินค้า จนทำให้ผู้คนไม่สามารถใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัวเหมือนที่เคย
สำหรับใครที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจและเงินเฟ้อ สามารถตรวจสอบข้อมูลล่าสุดได้จากเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือคลิกที่นี่เลย
3 วิธีรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ
หลังจากที่เราได้รู้กันแล้วว่า สาเหตุของภาวะเงินเฟ้อคืออะไร และส่งผลกระทบต่อเราทุกคนมากน้อยแค่ไหน มาดูกันว่า เราจะมีวิธีรับมือกับภาวะเงินเฟ้ออย่างไร เพื่อไม่ให้กลายเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตและการลงทุน
วางแผนการใช้จ่ายใหม่
อันดับแรก เราจะต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนแผนการใช้จ่าย โดยเพิ่มความระมัดระวังในการใช้เงินให้มากขึ้น ซึ่งเราสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อให้มองเห็นภาพรวมของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือน และดูว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนใดที่สามารถปรับลดลงได้บ้าง เพื่อนำไปต่อยอดในด้านอื่น ๆ เช่น การออมเงิน หรือ การลงทุน
วางแผนการออมเงินใหม่
เมื่อเราวางแผนการใช้จ่ายอย่างละเอียดแล้ว เราอาจพบว่าในแต่ละเดือนมีเงินเหลือใช้มากขึ้น ให้เรานำเงินส่วนนั้นไปออมในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้มีเงินสำรองใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน เช่น เงินสำหรับค่ารักษาพยาบาล หรือ เงินสำหรับซ่อมแซมบ้าน
วางแผนการลงทุนใหม่
เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อเป็นภาวะที่ส่งผลกระทบกับการลงทุนไม่น้อย นักลงทุนจึงต้องหันมาวางแผนการลงทุนใหม่ ด้วยกลยุทธ์ต่าง ๆ เช่น การลงทุนในสินทรัพย์ที่ผันผวนน้อย หรือ การกระจายการลงทุน เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกเมื่อ ซึ่งการวางแผนการลงทุนที่เหมาะสม จะช่วยให้เรามีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีอยู่เสมอ แม้สภาพเศรษฐกิจจะเปลี่ยนแปลง และยังช่วยป้องกันให้เราไม่เจ็บตัวหนักจนเกินไป ไม่ว่าจะเจอกับความผันผวนในรูปแบบใดก็ตาม 1.สามารถซื้อขายได้ด้วยเงินบาท
แนะนำ 4 สินทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุนในช่วงเงินเฟ้อ
อสังหาริมทรัพย์
สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาสินทรัพย์ที่ตอบโจทย์กับการลงทุนในช่วงเงินเฟ้อ บอกเลยว่าอสังหาริมทรัพย์นั้นถือเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์นั้นจะไม่ผันผวนไปตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดและสภาพเศรษฐกิจ และเรายังสามารถเลือกลงทุนได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์มาปล่อยเช่า หรือ การซื้อมาเก็บไว้เพื่อเก็งกำไร และปล่อยขายในจังหวะที่เหมาะสม
ทองคำ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หากใครที่กำลังวางแผนลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง ทองคำ คือหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะทองคำนั้นมีมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี โดยไม่มีท่าทีจะลดลง การลงทุนกับทองคำ จึงเป็นทางเลือกที่ดีในช่วงภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่แน่นอนและสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องกังวลกับความผันผวน
ตราสารหนี้
ตราสารหนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันมาให้ความสนใจมากขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ตราสารหนี้จะปรับเพิ่มราคาขึ้น และทำให้นักลงทุนได้รับดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งการที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีได้นั้น นักลงทุนก็จะต้องมีการวิเคราะห์และคาดการณ์ล่วงหน้า เพื่อเข้าซื้อตราสารหนี้ในช่วงที่เหมาะสม และเลือกซื้อตัวที่มีโอกาสจะได้ผลตอบแทนสูงที่สุด
หุ้น
หลายคนอาจมองว่า ภาวะเงินเฟ้อเป็นภาวะที่มีผลกระทบกับการลงทุนในหุ้นมากที่สุด แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะหุ้นก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่น่าลงทุน โดยนักลงทุนเองก็ต้องมีการปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์ และเลือกลงทุนในหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้น
หากนักลงทุนท่านไหนสงสัยว่า เมื่อเจอเงินเฟ้อ เราต้องบริหารพอร์ตอย่างไร? แนะนำว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การกระจายการลงทุน (Diversification) ให้มีประสิทธิภาพ โดยต้องมั่นใจว่า พอร์ตของคุณมีสินทรัพย์ที่หลากหลาย และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดที่มักเกิดขึ้นเสมอ ขณะเดียวกันควรมองไปถึงเป้าหมายการลงทุนในระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้คุณก้าวข้ามความผันผวนในระยะสั้นไปได้
หากไม่แน่ใจว่า พอร์ตของคุณควรกระจายการลงทุนให้เหมาะสมอย่างไร สามารถใช้บริการ InnovestX ได้เลย เราคือแอปพลิเคชันที่ให้คุณเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะที่จะช่วยบริหารพอร์ตการลงทุนแบบอัตโนมัติ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น สมัครเลย
คำเตือน * การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน