ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

แนะนำกองทุน ETF ซื้อเก็บไว้ ไม่เสียดายของอย่างแน่นอน

blog_list_heading
29 พ.ค. 2566;
ใช้เวลาอ่าน 5 นาที
18585
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

    ใครมองหาการลงทุนที่กระจายความเสี่ยง ค่าธรรมเนียมต่ำ ซื้อขายได้เหมือนหุ้น ต้องลงทุน ETF เลย มีให้เลือกมากมายตามวัตถุประสงค์การลงทุน เลือกดี ๆ มีเงินปันผลให้

รู้จักกองทุน ETF คืออะไร ลงทุนดีไหม มีข้อดีอย่างไร?

กองทุน ETF เป็นหนึ่งในกองทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน เนื่องจากเป็นการรวมข้อดีของหุ้นและกองทุนเข้าไว้ด้วยกัน มาดูกันดีกว่าว่า กองทุนนี้เป็นอย่างไร เหมาะกับสไตล์การลงทุนของเราหรือไม่ รวมถึงมีความคุ้มค่าและน่าสนใจแค่ไหน ที่สำคัญคือ ถ้าไม่ซื้อไว้จะเสียดายทีหลังจริงหรือเปล่า อยากรู้มาอ่านกันเลย

กองทุน ETF คืออะไร? น่าลงทุนมากแค่ไหน

กองทุน ETF คืออะไร?

กองทุน ETF หรือชื่อเต็มคือ Exchange Traded Fund คือกองทุนเปิดที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มีสภาพคล่องสูง และมีค่าใช้จ่ายในการซื้อขายต่ำ ลักษณะการซื้อขายเหมือนกับเป็นหุ้นตัวหนึ่ง

นักลงทุนส่วนใหญ่จะเลือกใช้กองทุน ETF เป็นเครื่องมือในการลงทุนให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของตัวเอง เพราะเป็นการลงทุนที่มีนโยบายหลากหลายประเภทให้เลือกลงทุน โดยนโยบายของ ETF จะเน้นสร้างผลตอบแทนตามสินทรัพย์อ้างอิง อย่างหุ้น ตราสารหนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ มีทั้งแบบที่เป็นดัชนี สินทรัพย์กลุ่ม และสินทรัพย์เดี่ยว

ราคาซื้อขายกองทุน ETF จะมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งวัน ซื้อขายแบบ Real-time ตามเวลาของตลาดหลักทรัพย์

กองทุน ETF ถูกใช้ลงทุนเพื่อวัตถุประสงค์ใด?

อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า การลงทุน ETF นั้นสามารถมีได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ของการลงทุนที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้ การเก็งกำไร การรับประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นของราคา และการป้องกันความเสี่ยงการลงทุนในพอร์ตฟอลิโอ เรียกว่าเป็นการลงทุนที่ตอบรับนักลงทุนได้ทุกสไตล์และทุกความต้องการ

ประเภทของกองทุน ETF

เราสามารถแบ่งประเภทของกองทุน ETF ได้ 8 ประเภทหลัก ๆ คือ

1. หุ้น (Equity ETFs) เป็นกองทุนที่ลงทุนในดัชนีหุ้น ได้รับความนิยมจากนักลงทุนมากที่สุด ซึ่งจะให้ผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้น มีความคล่องตัวสูง และหลากหลาย นอกจากนี้ยังสามารถลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่นักลงทุนมีความรู้ และเข้าใจความผันผวนของดัชนีอ้างอิงนั้น ๆ เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ แบตเตอรี่ โซลาร์เซลล์ การเงิน

2. ตราสารหนี้ (Bonds/Fixed Income ETFs) เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ มีความผันผวนน้อย แต่สร้างรายได้สม่ำเสมอ โดยที่นักลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องการครบกำหนดของอายุตราสาร ตัวอย่างตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่น หุ้นกู้ภาคเอกชน

3. สินทรัพย์โภคภัณฑ์ (Commodity ETFs) เป็นกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์โภคภัณฑ์ มักใช้ในวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงให้กับพอร์ตฟอลิโอ และเก็งกำไรจากตลาดที่เปลี่ยนแปลง มีทั้งสินทรัพย์เดี่ยวและตะกร้าสินทรัพย์ ตัวอย่างของสินทรัพย์โภคภัณฑ์ เช่น ทอง เงิน น้ำมัน

4. สกุลเงิน (Currency ETFs) เป็นกองทุน ETF ที่เน้นลงทุนในสกุลเงินต่าง ๆ มักใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงิน มีทั้งลงทุนในสกุลเงินเดี่ยว และตะกร้าสกุลเงิน ซึ่งนอกจากสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ แล้ว ยังมีการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลอีกด้วย

5. สัญญาอนุพันธ์ที่สวนทางกับดัชนี (Inverse ETFs) เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในตลาดที่ทำกำไรจากการกลับตัวของราคา ซึ่งเป็นการสร้างกำไรในขณะที่ราคาอยู่ในช่วงขาลง หรือทำสถานะสวนทางกับการเคลื่อนไหวของหลักทรัพย์อ้างอิงนั่นเอง จึงเป็นการลงทุนที่เหมาะกับช่วงตลาดขาลง

6. ทวีคูณสัญญาอนุพันธ์ (Leveraged ETFs) นักลงทุนที่ต้องการผลกำไรจำนวนมาก มักจะลงทุนในกองทุน ETF ที่มีการยกระดับผลตอบแทนเหนือหลักทรัพย์อ้างอิง แม้ว่าจะมีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนประเภทอื่น ๆ ก็ตาม ตัวอย่างเช่น กองทุน Leveraged ETFs 2x

7. การกำหนดกระบวนการลงทุน (Factor ETFs) เป็นกองทุนที่กำหนดวิธีการหรือกระบวนการลงทุนผ่านการตั้งค่าปัจจัย (Rules-based ETF) อย่างกองทุน Smart Beta

8. การกระจายการลงทุน (Asset Allocation ETFs) เป็นการลงทุนที่หลายสินทรัพย์อ้างอิง สามารถปรับสัดส่วนพอร์ตตามแผนที่วางเอาไว้ ให้สอดรับกับสถานการณ์ เป็นการลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลกำไร โดยมีทั้งความเสี่ยงต่ำ ปานกลาง และสูง รวมไปถึงกองทุนประเภท Tactical Allocation

แนะนำกองทุน ETF ตามธีมยอดนิยม

นอกจากประเภทของกองทุน ETF แล้ว นักลงทุนยังนิยมลงทุนตามธีม ซึ่งมีธีมการลงทุนที่นิยมดังต่อไปนี้

1. ลงทุนในต่างประเทศ โดยจะเป็นการเลือกลงทุนในกองทุนที่อ้างอิงผลตอบแทนตามดัชนีหุ้นต่างประเทศ อย่าง S&P500, Russell 2000, Nasdaq 100, Dow Jones, MSCI EM, S&P 500 Financials Sector

2. ลงทุนในหุ้นไทย มีจุดเด่นคือมีสภาพคล่องสูง สามารถคำนวณราคาได้ มีให้เลือกทั้งดัชนี SET50 และ SET100

3. ลงทุนตามกลุ่มอุตสาหกรรม เน้นลงทุนตามกลุ่มที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่น และมีความรู้ เช่น EBANK, ENGY & ENY

4. ลงทุนตามเมกะเทรนด์ นอกจากการลงทุนตามเทรนด์หลักของโลกที่กำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็น Game & Esport, Clean Energy, AI & Robotics

นอกจากธีมที่ได้ยกตัวอย่างมาข้างต้น ก็ยังมีธีมอื่น ๆ อย่างการลงทุนในตราสารหนี้ ทองคำ และอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์ในการลงทุนด้วย

รูปแบบของผลตอบแทน

การลงทุน ETF จะได้รับผลตอบแทนใน 2 ลักษณะ คือ

1. กำไรจากส่วนต่างของราคาที่เราซื้อมาในราคาที่ต่ำ แล้วขายในราคาที่สูงกว่า

2. เงินปันผล หากว่าเราลงทุนในกองทุนกลุ่มหุ้น ก็จะมีโอกาสได้รับเงินปันผลจากองค์กรที่เป็นองค์ประกอบของดัชนีอ้างอิง

ข้อดีของการลงทุนในกองทุน ETF

ข้อดีของการลงทุนในกองทุน ETF

● ซื้อ-ขายได้แบบ Real-time ตามเวลาของตลาดหลักทรัพย์ สามารถเลือกราคาซื้อและขายได้

● ค่าใช้จ่ายต่ำ มีค่าธรรมเนียมเท่ากับการซื้อขายหุ้น ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ากองทุนส่วนใหญ่

● กระจายความเสี่ยง มีต้นทุนที่ต่ำ สามารถกระจายการลงทุนไปในหุ้นหลากหลายตัวในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยที่ไม่ต้องใช้เงินทุนที่สูงมาก

● ผลตอบแทนจากการขาย (กำไร) ไม่ต้องเสียภาษี** เนื่องจากการลงทุนในประเทศไทย นักลงทุนไม่ต้องเสียภาษีส่วนต่างกำไร (Capital Gain) แต่หากว่ากองทุน ETF ที่ถืออยู่มีเงินปันผลจะต้องเสียภาษีตามกฎหมาย

● เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวด้วยวิธีการ DCA ซึ่งเป็นรูปแบบการลงทุนที่เน้นการทยอยลงทุนอย่างสม่ำเสมอด้วยจำนวนเงินที่เท่ากัน

● จัดพอร์ตแบบ Asset Allocation ได้ คือ การจัดสรรการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลากหลายอย่าง เพื่อกระจายความเสี่ยง ไม่ต้องลงทุนในสินทรัพย์ทีละตัว ซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่า

● ไม่ต้องขายก็ได้ผลตอบแทนจากเงินปันผล ใครที่ชอบถือยาว ๆ ก็สามารถรับผลประโยชน์จากเงินปันผล แทนการขายกองทุน

● สามารถดูค่า Tracking Error ได้ ซึ่งเป็นตัวช่วยในการเลือกกองทุน ETF ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เริ่มต้นลงทุน ETF กับ InnovestX

ไม่ว่าใครก็สามารถลงทุน ETF ได้ง่าย ๆ กับ InnovestX เพียง 5 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ โดยเตรียมข้อมูลและเอกสารที่จำเป็นต่อการสมัคร ได้แก่ บัตรประชาชน และบัญชีเงินฝากธนาคาร

ขั้นตอนที่ 2 เข้าแอป InnovestX จากนั้นลงทะเบียนใช้งาน โดยเปิดบัญชีลงทุนได้แบบง่าย ๆ สำหรับผู้ที่เปิดบัญชีลงทุนใหม่ ให้เตรียมบัตรประชาชนและบัญชีเงินฝากเอาไว้ ส่วนผู้ที่เคยสมัครผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ให้เตรียมเฉพาะบัตรประชาชน อีเมลและเบอร์โทรศัพท์ที่เคยสมัคร

ขั้นตอนที่ 3 เลือกคำสั่งซื้อหรือขาย โดยระบุข้อมูลที่จำเป็นอย่าง ตัวย่อของชื่อกองทุน ETF ที่ต้องการซื้อขาย จำนวนที่ต้องการซื้อขาย ราคา และ Pin จากนั้นก็กดปุ่มซื้อ/ขาย เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ฟีเจอร์ใหม่ Wealth Idea เพลย์ลิสต์การลงทุนบน InnovestX

รวมไอเดียการลงทุนของทุกสินทรัพย์ไว้บนมือคุณ เมื่อถูกใจก็สามารถ "คลิกลงทุนได้ทันที"

● Save ไอเดียการลงทุนโปรดเอาไว้เลย

● Explore การลงทุนใหม่ ๆ ได้ไม่จำกัด ลองใช้ฟีเจอร์นี้เซฟกองทุน ETF ที่สนใจได้เลย!

สนใจลงทุนกองทุน ETF ต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องยาก สามารถศึกษาและซื้อผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX ได้ ซื้อได้หลากหลายประเภท ทั้ง กองทุนรวมต่างประเทศ และหุ้น แถมยังมีโปรโมชันคุ้ม ๆ เพียบ

เปิดบัญชีลงทุน InnovestX วันนี้ ลงทุนได้ครบทั้งจักรวาลการลงทุน คลิกดาวน์โหลด

 

คำเตือน
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
**กองทุน ETF มีผลตอบแทน 2 ส่วน คือ 1) ผลตอบแทนจากการขาย (กำไร) 2) ผลตอบแทนจากเงินปันผล เฉพาะผลตอบแทนจากการขายเท่านั้นที่ไม่เสียภาษีเงินได้ ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

หัวข้ออื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
กลับด้านบน