ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

INVX Biweekly Portfolio Strategy 08/01/2024 ช่วงสั้นมอง SET มีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อได้ แต่ Upside จำกัด ระหว่างรอปัจจัยชี้นำใหม่ๆ

blog_list_heading
08 ม.ค. 2567;
240
แชร์บทความนี้
test_blog_details_img

เนื้อหาโดยรวม

ช่วงสั้นมอง SET มีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อได้ แต่ Upside จำกัด ระหว่างรอปัจจัยชี้นำใหม่ๆ

ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 66-5 ม.ค. 67 (4 สัปดาห์ที่ผ่านมา) SET ปรับตัวขึ้น 3.4% ซึ่งสอดคล้องกับตลาดโลกที่ปรับตัวดีขึ้น หลังประธานเฟดส่งสัญญาณยุติขึ้นดอกเบี้ย และปรับ Dot Plot ลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2567 ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าและ Bond Yield ปรับลง หนุนให้มีเม็ดเงินไหลเข้าของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ในประเทศเองมีปัจจัยหนุนต่อเนื่องจากการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนจากกองทุนต่างๆ ในช่วงปลายปี (SSF, TESG, RMF) และความคาดหวังเชิงบวกต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐบาล อาทิ มาตรการ E-receipt ตั้งแต่ 1 ม.ค. 67 และฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนถาวรตั้งแต่ 1 มี.ค. 67 จึงทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่และหุ้น Laggard ทั้งนี้หุ้นที่มีแรงซื้อกลับ นำโดย กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, MINT) กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, HANA) กลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB) และกลุ่มค้าปลีก (CPALL, COM7) โดยนักลงทุนต่างชาติและสถาบันมียอดซื้อสุทธิใน SET ราว 2.7 พัน ลบ. และ 7.2 พันลบ. ตามลำดับ (อย่างไรก็ดีภาพรวมทั้งปี 2566 นักลงทุนต่างชาติยังมียอดขายสุทธิใน SET 1.92 แสน ลบ. ขณะที่สถาบันในประเทศและรายย่อยมียอดซื้อสุทธิ 8.1 หมื่นลบ. และ 1.17 แสนลบ. ตามลำดับ ขณะที่ SET Index ปรับลง 15.2%YoY แย่กว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค)

เรามองว่า ช่วงสั้นตลาดหุ้นไทยยังมีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อได้ แต่อยู่ภายใต้ Upside ที่จำกัด เนื่องจากปัจจัยภายนอกยังมีความผันผวน และอยู่ระหว่างรอปัจจัยชี้นำใหม่ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ในหุ้นที่มีโอกาสได้รับผลบวก ดังนี้
1)หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จาก January Effect ซึ่งพบว่าปี 2011-2023 มีโอกาสที่ SET จะปรับขึ้น 69.23% และให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 1.37% ทั้งนี้เลือก AOT KTB KBANK DIF ซึ่งจากข้อมูลย้อนหลังพบว่าเป็นกลุ่มหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยชนะ SET
2)หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ปรับลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT), การแพทย์ (BDMS), โรงไฟฟ้า (GULF), อสังหาฯ (AP) และ Consumer Finance (TIDLOR)
3)หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ E-Receipt ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 5 หมื่นบาท เริ่มในวันที่ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2567 ได้แก่ CRC HMPRO ZEN MINT ADVANC

ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังซื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อ (MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT BTG)

       
      ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก  Biweekly Portfolio Strategy 240108_T 2

      InnovestX Biweekly Portfolio Strategy

      InnovestX Biweekly Portfolio Strategy

      InnovestX Biweekly Portfolio Strategy

      InnovestX Biweekly Portfolio Strategy

      InnovestX Biweekly Portfolio Strategy

      InnovestX Biweekly Portfolio Strategy

      InnovestX Biweekly Portfolio Strategy

      กลับด้านบน