INVX Biweekly Portfolio Strategy –มอง SET มีโอกาสฟื้นตัวหรือรีบาวน์ได้บ้าง หลังค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า

16 ต.ค. 2566;

270

แชร์บทความนี้

เนื้อหาโดยรวม

สองสัปดาห์ที่ผ่านมาSETSETปรับลง1.41 โดยมีการปรับตัวลงไปทาจุดต่าสุดที่1 423.17จุดซึ่งนับเป็นจุดต่าสุดในรอบ2ปี10เดือนโดยมีแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่อ่อนลงหลุด37บาทต่อดอลลาร์อีกทั้งผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ15ปีที่4.8%อย่างไรก็ดีสัปดาห์ก่อนบรรยากาศในตลาดโลกกลับมาดูดีขึ้นหลังรายงานการประชุมFOMCFOMCบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้มากขึ้นว่าFedFedจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยส่วนหุ้นกลุ่มน้ามันได้รับแรงหนุนจากราคาน้ามันปรับขึ้นหลังฮามาซบุกอิสราเอลอย่างไรก็ดีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นได้น้อยกว่าตลาดหุ้นประเทศอื่นๆเนื่องจากมีแรงขายหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว(AOT CENTEL ERW AWCAWC)หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า(GULF BGRIM EAEA)และหุ้นที่คาดกาไร3 Q 6666จะออกมาอ่อนแอ(อาทิSCGP CPF CPAXT) โดยFund FlowFlowยังไหลออกจากตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องโดยสองสัปดาห์ที่ผ่านมาต่างชาติมียอดขายสุทธิในSETSETราว66พันลบ.ซึ่งเป็นการขายสุทธิในSETSETต่อเนื่องเข้าสู่เดือนที่9ของปีนี้

•เรามองช่วงสั้นSETSETมีโอกาสฟื้นตัวหรือรีบาวน์ได้โดยแม้ตลาดจะยังกังวลภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในอิสราเอลแต่ยังได้แรงหนุนจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายออกมาหนุนยุติปรับขึ้นดอกเบี้ยทาให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐชะลอลงและค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า(เงินบาทกลับมาแข็งค่า)อีกทั้งยังมีความคาดหวังจากจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินรวม1ล้านล้านหยวนและคาดยังมีแรงซื้อเก็งกาไรในหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาช่วยหนุนดัชนีดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงมองเป็น“โอกาสซื้อลงทุน”ในธีมที่มีปัจจัยเฉพาะตัวดังนี้

1) หุ้นเก็งกาไรซึ่งคาดได้อานิสงส์จากราคาน้ามันปรับขึ้นหรือทรงตัวในระดับสูงหลังกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลางกระทบอุปทานน้ามันเลือกPTTEP BCP

2) หุ้นUndervaluedUndervaluedซึ่งราคาปรับลงมาจนเข้าเขตOversoldOversoldและยังมีพื้นฐานดีอีกทั้งValuationValuationไม่แพง(PERPERและPBV 23 FFต่ากว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง5ปี)เลือกCPALL TOP CPN BDMS MINT

3) หุ้นที่มีEarning GrowthGrowthแข็งแรง(กาไรมีโมเมนตัมดีต่อเนื่อง)และตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันราคาหุ้นสามารถชนะตลาดได้เลือกAMATA BBL KTB BCH KLINIQ

•สำหรับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวแม้ปีนี้เรายังประมาณการตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยที่28ล้านคนและปีหน้า35ล้านคนแต่ช่วงสั้นคงต้องระมัดระวังการลงทุนในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่อิงรายได้จากในประเทศ(AOT ERW CENTEL) ก่อนเพื่อรอดูการฟื้นตัวในความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติหลังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่สยามพารากอนขณะที่ระยะกลางแนะนาระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกาลังซื้อภาคเกษตรลดลงได้แก่กลุ่มพาณิชย์(GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ(MTC SAWAD) กลุ่มยานยนต์(SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม(CBGCBGจากราคาน้าตาลที่สูงขึ้น)รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร(CPF GFPT)

ิbiweekly