เนื้อหาโดยรวม
เคลื่อนไหวในกรอบ 1370-1385 จุด |
คาด SET เคลื่อนไหวภายในกรอบ โดยกรอบบนคาดถูกจำกัดที่แนวต้าน 1380 และ 1385 จุด ตามลำดับ จากภาวะ overbought ในระยะสั้นทางเทคนิค และตลาดหุ้นสหรัฐทรงตัวเมื่อคืน ด้านกรอบล่างอยู่ที่แนวรับ 1370 จุด คาดยังรองรับอยู่ จากความหวังเฟดลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. |
ประเด็นสำคัญ |
• ก. คลัง ยอมรับ ศก. ไทยมีปัญหา เพราะ GDP ไทยโตลดลงมาตลอดจากจากช่วงต้มยำกุ้ง 5% เหลือเพียง 2% สวนทางกับ ปท. อื่นในภูมิภาคที่ขยายตัวมากกว่า โดยเฉพาะการส่งออกที่เคยเป็นฐานการผลิตสำคัญ • หอการค้าไทยทั่ว ปท. และสมาคมการค้าที่ใช้แรงงานกว่า 50 สมาคม คัดค้านนโยบายปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บ. ทั่วประเทศ ส่งผลกระทบต่อระบบ ศก. และขีดความสามารถในการแข่งขันของ ปท. • ก. ท่องเที่ยวฯ ระบุจำนวน นทท. ต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวไทย 1 ม.ค.- 5 พ.ค. 67 รวมราว 12.6 ล้านคน สร้างรายได้ราว 6 แสนลบ. คาดสัปดาห์นี้ นทท. ต่างชาติเดินทางเข้ามาลดลงจากการเข้าสู่ช่วง Low season • ทางการจีนระบุ เมืองเซินเจิ้นได้ดำเนินการตามทิศทางเดียวกับเมืองขนาดใหญ่แห่งอื่นๆ ด้วยการผ่อนคลายกฎระเบียบการซื้อบ้าน คาดหวังพลิกฟื้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงย่ำแย่ • ทางการจีนรายงาน Tesla จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ที่ผลิตในจีนได้ 62,167 คันในเดือน เม.ย. ลดลง 18%YoY ขณะที่ BYD จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 312,048 คันในเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 48.97%YoY • ราคาหุ้น Disney ปรับลง 9.5%DoD ซึ่งเป็นการปรับตัวลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ พ.ย. 65 หลังรายได้อยู่ที่ 2.208 หมื่นล้านเหรียญใน 2Q67 ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาด • ราคาหุ้น Apple ปรับขึ้น 0.4%DoD เปิดตัวชิปรุ่นใหม่ M4 โดยทางบริษัทจะนำชิปดังกล่าวมาใช้ใน iPad Pro แทนการใช้ในผลิตภัณฑ์ Laptop |
กลยุทธ์การลงทุน |
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ หลังขาดปัจจัยชี้นำที่ชัดเจน โดยปัจจัยในประเทศยังอยู่ระหว่างรอดูผลประกอบการ 1Q67 ของกลุ่ม Real Sector ที่กำลังทยอยประกาศภายในกลาง พ.ค. นี้ ขณะที่การประชุมของเฟดที่มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายและส่งสัญญาณว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 11-12 มิ.ย. เป็นไปตามตลาดคาด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” |
ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ |
ตลาดหุ้นไทยยังขาดปัจจัยชี้นำที่ชัดเจน โดยปัจจัยหลักยังอยู่ระหว่างรอดูผลประกอบการ 1Q67 ของกลุ่ม Real Sector ที่กำลังทยอยประกาศภายในกลาง พ.ค. นี้ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมหลัก ดังนี้ 1) หุ้นธีม Earning Play สำหรับเก็งกำไรผลประกอบการ 1Q67 ซึ่งคาดจะเติบโตดี YoY และจะประกาศในช่วงสองสัปดาห์หน้า อีกทั้งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับตัวขึ้นไม่มาก เลือก AOT ERW MINT KCE OSP ขณะที่แนะนำระมัดระวังการลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งมีความเสี่ยงค่าเงินบาทอ่อนจะกดดันผลประกอบการ 1Q67 (GPSC เป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่ประกาศตัวแรก 8 พ.ค. ซึ่งตลาดคาดกำไรหดตัว YoY) 2) หุ้นธีม Defensive Stock สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ ซึ่งผลประกอบการไม่ผันผวนตามเศรษฐกิจ เลือก หุ้นการแพทย์ (BDMS) หุ้นขนส่งทางบก (BEM) หุ้นค้าปลีก (CPALL CPAXT) หุ้นสื่อสาร (ADVANC) หุ้นอสังหาปันผลดี (AP) 3) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไรในหุ้น Mid- Small Cap. ซึ่งคาดมีโมเมนตัมกำไร 1Q-2Q67 เติบโตดีทั้ง YoY และ QoQ เลือก SNNP THRE TIDLOR 4) สถานการณ์ในตะวันออกกลางเริ่มเบาบางลง และรายงานสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งยังเป็นทิศทางตามฤดูกาล ในกรณีฐานที่เป็นสงครามเงา ราคาน้ำมันดิบ Bent จะอยู่ในระดับที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ดังนั้นการมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) จากกรณีความไม่สงบในตะวันออกกลาง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง เลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP |
Daily Top picks |
TIDLOR 1Q67 กำไรเติบโต 23% QoQ และ 16% YoY ดีเกินคาดเล็กน้อยจาก NIM (ต้นทุนทางการเงินต่ำกว่าคาด) ขณะที่ปี 2567 คาดกำไรเติบโตอัตราเร่งตัวขึ้นเป็น 19% หนุนจาก credit cost ที่ลดลง การเติบโตของสินเชื่อที่ดี และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตดี แม้ว่าจะมีแรงฉุดรั้งจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น |
บทวิเคราะห์วันนี้ |
กลุ่มปิโตรเคมี – ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้นเพราะต้นทุนแนฟทาลดลง BBL (High Conviction) – Valuation ถูก, สินเชื่อเติบโตดีขึ้น, NIM มี upside AP – 1Q67: กำไรสุทธิลดลงตามคาด DCC – 1Q67: กำไรเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จากการควบคุมต้นทุน IRPC – 1Q67: กำไรสุทธิดีกว่าคาด MTC – 1Q67: ดีเกินคาดเล็กน้อยจาก ECL เพราะ NPL ไหลเข้าลดลง SPRC – 1Q67: กำไรสุทธิสูงกว่าคาด TIDLOR – 1Q67: ดีเกินคาดเล็กน้อยจาก NIM |
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Daily240508_T |
Expected to move within 1370-1385 |
Market today |
The SET is expected to be range-bound with the upper bound at resistances of 1380 and 1385 in view of a short-term overbought signal and a rest in US markets last night, with the lower bound at support of 1370, which is expected to stand on hopes the Fed will cut interest rate in September. |
Today’s highlights |
• The Ministry of Finance has said the Thai economy has problems as seen in a steady decline in its GDP growth from a peak of 5% during the "Tom Yum Goong" period to only 2%, moving opposite to other countries in the region that are experiencing higher growth rates, especially in exports, which used to be an important driver. |
Strategy today |
In the short-term the SET is expected to be range-bound, lacking a clear catalyst, while domestically the market is waiting for the release of 1Q24 operating results, due out by mid-May. The FOMC kept interest unchanged and signalled it would keep rate unchanged at the next meeting on June 11-12, as expected by the market. Our strategy is “Selective Buy”. |
Trading today |
The Thai capital market still lacks a clear catalyst, though the main item of interest at this time is the release of 1Q24 operating results. We recommend “Selective Buy” in four main themes: |
Daily top picks |
TIDLOR: 1Q24 profit grew 23%QoQ and 16%YoY, slightly beating expectations, on higher NIM (lower-than-expected financial cost). Profit in 2024 is expected to grow 19% off lower credit cost, solid growth in loans and fee revenue, although there may be some drag from higher financial cost. |
Today’s reports |
Petrochemicals – Product spreads improve on cheaper naphtha |
Click here to read and/or download file Daily240508_E |