เนื้อหาโดยรวม
Upside ยังถูกจำกัด | |||||||||||||||
SET เข้าใกล้แนวต้านสำคัญบริเวณ 1400 จุด และยังไม่ผ่าน ตลอดจนมีแรงขายเข้ามาอีกครั้ง และสัญญาณเทคนิคดูอ่อนแรง ทำให้กรอบบนยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1390 และ 1395 จุด ตามลำดับ ขณะที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงได้อยู่ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1370 และ 1360 จุด ตามลำดับ | |||||||||||||||
ประเด็นสำคัญ | |||||||||||||||
• วุฒิสภาสหรัฐมีมติอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณมูลค่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ และสภาได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กับ ปธน. โจ ไบเดน เพื่อลงนามเป็นกฎหมาย และหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วน • ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ระบุความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ไม่ใช่สิ่งที่ไม่มีเหตุผล และรู้สึกพอใจต่อสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง • นายกฯ ระบุยังไม่มีการปรับ ครม. โดยเฉพาะตำแหน่ง รมว.คลัง ที่มีกระแสข่าวว่าจะมีคนนอกเข้ามารับตำแหน่งนี้ ส่วนโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตได้มอบหมายให้ รมช.คลัง ชี้แจงถึงการกำหนดระยะเวลาของโครงการอีกครั้ง • คลังเตรียมเสนอ ครม. พิจารณามาตรการการเงินให้ธนาคารรัฐลดและตรึง ดบ. แบ่งเบาค่าครองชีพ ปชช. ส่งสัญญาณ ธ.พ. ต้องลด ดบ. ให้ลูกค้าด้วย คาดหวังประชุม กนง. 10 เม.ย.นี้ จะลด ดบ. นโยบาย ประคอง ศก. ที่อ่อนแอ • ก. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แถลงยุทธศาสตร์เอไอ ปรับปรุงองค์คณะ ตั้งบอร์ดเอไอแห่งชาติ เสริม ศก. ดิจิทัล พร้อมผลักดันกฎหมายเอไอฉบับแรก คุมจริยธรรม ดึงเม็ดเงินลงทุนมุ่งสู่ฮับของอาเซียน • วันนี้เป็นวันแรกที่ ตลท. เริ่มขยายเวลาซื้อขายหลักทรัพย์ช่วงบ่ายเร็วขึ้น 30 นาทีทั้งในตลาด SET และ mai รวมทั้ง TFEX โดยช่วง Pre-open จะเป็น 13.30-14.00 น.จากเดิม 14.00-14.30 น และช่วง Trading เป็น 14.00-16.30 น. จากเดิม 14.30-16.30 น. | |||||||||||||||
กลยุทธ์การลงทุน | |||||||||||||||
ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัว หลังเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณฟื้นตัวในภาคการผลิตและการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลบวกให้ดัชนีภาคอุตสาหกรรม (MPI) ของไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากเดือน ม.ค. ที่ปรับตัวลดลง 2.9%YoY ขณะที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้เป็นไปตามตลาดคาด ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” | |||||||||||||||
ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์ | |||||||||||||||
ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัว หลังข้อมูลเศรษฐกิจจีนดีขึ้นและเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงิน ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลัก ดังนี้ 1) หุ้นเก็งกำไรหลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้นทะลุ US$85 /bbl จากกังวลเศรษฐกิจถดถอยลดลงหนุนอุปสงค์ ด้านอุปทานได้ผลบวกจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน โดยผู้รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำ Trading PTTEP (ราคาน้ำมันระยะยาวเพิ่มทุก US$1 /bbl บวกต่อราคาเป้าหมาย 5 บาทต่อหุ้น) และ TOP (ค่าการกลั่นและกำไรสต๊อก) ขณะที่มองลบต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน (ค่าการตลาดแคบ) และกลุ่มสายการบิน (ต้นทุนเพิ่ม) 2) หุ้นเก็งกำไรจากภาวะดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มกำลังจะปรับตัวลง เลือก กลุ่มไฟแนนซ์ (TIDLOR) กลุ่มสาธารณูปโภค (GULF) กลุ่มขนส่ง (AOT) 3) หุ้นเก็งกำไรเชิงเทคนิคหลังราคาหุ้น Breakout Downtrend และเริ่มเห็น NVDR พลิกกลับมา Net Buy ในเดือน มี.ค. เลือก IVL GULF PTTGC GPSC | |||||||||||||||
Daily Top picks | |||||||||||||||
GPSC ช่วงสั้นมองได้ Sentiment บวกจากราคาก๊าซในยุโรปและ Bond Yield ของสหรัฐที่ปรับตัวลง ขณะที่เชื่อว่าปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับ GPSC ได้ผ่านพ้นไปแล้ว โดยแรงกดดันที่ลดน้อยลงจากต้นทุนพลังงานและกำไรที่ดีขึ้นจากโรงไฟฟ้าทั่วไป จะหนุนให้ปี 2567 กำไรปกติจะเติบโตแข็งแกร่ง 49%YoY KCE มองเป็นหุ้นเด่นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จากกำไรจะเติบโตแข็งแกร่งสุดในกลุ่ม โดยปี 2567 คาดกำไรสุทธิจะเติบโต 32%YoY จากการเติบโตที่ดีของ EV และเริ่มบริหารจัดการต้นทุนได้ดีมากขึ้น ขณะที่ valuation น่าสนใจ โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PE ปี 2567 เพียง 21.1 เท่า ซึ่งเท่ากับระดับ -1SD ของ PE mean | |||||||||||||||
บทวิเคราะห์วันนี้ | |||||||||||||||
KTB (High Conviction) – ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป, valuation ถูก, ความเสี่ยงต่ำ | |||||||||||||||
| |||||||||||||||
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Daily240325_T
|