

SSF, RMF และ Thai ESG พร้อมเฟ้นหาไอเดียการลงทุน
ระยะยาว ในธีมที่ชอบ กองทุนที่ใช่



ลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีกับ InnovestX ดีอย่างไร?

ลงทุนได้ทันทีไม่ต้องเซ็น
หรือส่งเอกสารเพิ่ม

ลดหย่อนภาษี
ไว้มากถึง 19 บลจ.

เท่ากับลงทุน
กับธนาคาร

จากหลากหลาย บลจ.

แนะนำการลงทุน

แนะนำการลงทุน


กองทุนลดหย่อนภาษี
SSF และ RMF
แนะนำโดย InnovestX
กับกลยุทธ์การจัดพอร์ตแกนหลัก (Core Portfolio) และพอร์ตส่วนเสริม (Satellite Portfolio)
Core Portfolio คือ?
เหมาะสำหรับผู้ลงทุนระยะยาวที่
ไม่ต้องการจับจังหวะตลาด
ลงทุนกองภาษีด้วยกองทุนที่เป็น Core Portfolio

SSF
RMF-H
(SSF)
WORLD(A)


FIXED-SSF
Satellite Portfolio คือ?
เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ ต้องการจับจังหวะตลาดหรือมีมุมมองในการลงทุนเป็นของตัวเอง
Theme ที่เติบโตในระยะยาวเพื่อเสริมพอร์ตแนะนำลงทุนกองภาษีที่เป็น Satellite Portfolio

และนวัตกรรมโลก

เศรษฐกิจเติบโตสูง
SSF
VNEQRMF

กับโลกอนาคต
SSF
RMF

Satellite Portfolio คือ?
เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ ต้องการจับจังหวะตลาดหรือมีมุมมองในการลงทุนเป็นของตัวเอง
หุ้นทั่วโลก | USA | Vietnam | Technology | Thai ESG หุ้นไทย | Thai ESG ตราสารหนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|
กองทุนรวมแนะนำ โดย KAsset | KGSELECTRMF | K-USA-SSF KUSARMF | K-VIETNAM-SSF KVIETNAMRMF | KGTECHRMF | K-TNZ-ThaiESG | K-ESGSI-ThaiESG |
กองทุนรวมแนะนำโดย KAsset | |
---|---|
หุ้นทั่วโลก | KGSELECTRMF |
USA | K-USA-SSF KUSARMF |
Vietnam | K-VIETNAM-SSF KVIETNAMRMF |
Techonology | KGTECHRMF |
Thai ESG หุ้นไทย | K-TNZ-ThaiESG |
Thai ESG ตราสารหนี้ | K-ESGSI-ThaiESG |





Popular SSF / RMF
เลือกลงทุนมากที่สุดในแอปพลิเคชัน InnovestX
TOP 10 SSF
S&P500
-SSF

FIXED-SSF
TECHSSF
SSF
ASSF
(SSF)
SSFPLU
S-SSF
S&P500
(SSFA)
(SSF)
ASSF
(SSF)
SSFPLU
S-SSF
S&P500
(SSFA)
(SSF)
TOP 10 RMF

S&P500
TECHRMF
RMS50
VIETRMF
RMF
RMF
RMS50
VIETRMF
RMF
RMF

Best in Class SSF / RMF
หุ้น
กองทุนหุ้น Active | SSF | RMF |
---|---|---|
กองทุนหุ้นโลก (Global Equity) | KKP GNP-H-SSF | KKP GNP RMF-H |
กองทุนหุ้นสหรัฐฯ (US Equity) | K-USA-SSF | KUSARMF |
กองทุนหุ้นยุโรป (Europe Equity) | MEURO-SSF | ES-EGRMF |
กองทุนหุ้นญี่ปุ่น (Japan Equity) | SCBJAPAN(SSF) | SCBRMJAPAN(A) |
กองทุนหุ้นเอเชีย (Asia Equity) | B-ASIASSF | B-ASIARMF |
กองทุนหุ้นจีน (China Equity) | KT-CHINA-SSF | KT-CHINA RMF |
กองทุนหุ้นอินเดีย (India Equity) | KT-INDIA-SSF | KFINDIARMF |
กองทุนหุ้นไทย (Thai Equity) | ASP-SME-SSF | ASP-SMERMF |
กองทุนหุ้นเทคโนโลยี (Technology Equity) | B-INNOTECHSSF | B-INNOTECHRMF |
กองทุนหุ้นสุขภาพ (Healthcare Equity) | MHEALTHSSF | MHEALTHRMF |

กองทุนหุ้น Passive | SSF | RMF |
---|---|---|
กองทุนหุ้นโลก (Global Equity) | KKP PGE-H-SSF | KKP PGE RMF-H |
กองทุนหุ้นสหรัฐฯ (US Equity) | SCBS&P500-SSF | SCBRMS&P500 |
กองทุนหุ้นยุโรป (Europe Equity) | - | SCBRMEU |
กองทุนหุ้นเอเชีย (Asia Equity) | SCBAXJ(SSF) | - |
กองทุนหุ้นจีน A-share (China A Equity) | SCBCHA-SSF | SCBRMCHA |
กองทุนตราสารหนี้ | SSF | RMF |
---|---|---|
กองทุนตราสารหนี้ไทย (Fixed Income) | KKP ACT FIXED-SSF | KKP INRMF |
กองทุนตราสารหนี้โลก (Global Fixed Income) | UGIS-SSF | UGISRMF |
กองทุนทางเลือก | SSF | RMF |
---|---|---|
กองทุนทองคำ (Gold) | SCBGOLDH-SSF | SCBGOLDHRMF |
กองทุนผสม | SSF | RMF |
---|---|---|
กองทุนผสม (Mixed Fund) | UGBF-SSF | UGBFRMF |
กองทุนตลาดเงิน | SSF | RMF |
---|---|---|
บลจ.เกียรตินาคิน ภัทร (KKPAM) | KKP MP-SSF | KKP MMRMF |
บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) | SCBSFFPLUS-SSF | SCBRM1 |
บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) (UOBAM) | UOBSD-SSF | UOBSVRMF |
บลจ.บัวหลวง (BBLAM) | - | MM-RMF |
บลจ.พรินซิเพิล (PRINCIPAL) | - | PRINCIPAL MMRMF |
บลจ.กสิกรไทย (KASSET) | K-SF-SSF | KSFRMF |
บลจ.กรุงศรี (KSAM) | KFCASHSSF | KFCASHRMF |
บลจ.กรุงไทย (KTAM) | KTSTPLUS-SSF | RMF4 |





ลดหย่อนภาษีเพิ่มได้อีก!
ด้วยกองทุนรวม Thai ESG



และตราสารหนี้ไทย
สรุปข้อแตกต่างและเงื่อนไข SSF, RMF และ Thai ESG


คำเตือน: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF หรือ RMF ก่อนตัดสินใจลงทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษีจะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน
ผลตอบแทนในอดีตมิได้ยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต
ผลตอบแทนคาดหวังเป็นเพียงการประมาณการณ์ในระยะยาว บริษัทไม่ได้รับประกันถึงผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สอบถามรายละเอียดและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ
ที่ บล.อินโนเวสท์เอ็กซ์ หรือเพจเฟสบุ๊ค
InnovestX
บทความเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษี
FAQs
FATCA คืออะไร และเกี่ยวข้องกับใคร ?
Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA) & Common Reporting Standard (CRS) คือ การยืนยันสถานะความเป็นบุคคลอเมริกันและผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษีในประเทศอื่น
Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA)
คือ กฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ออกมาเพื่อบังคับให้สถาบันการเงิน ที่ไม่ใช่สัญชาติอเมริกันนอกประเทศสหรัฐอเมริกา (Foreign Financial Institution หรือ FFI) จะต้องทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ
1.รายงานข้อมูลบัญชีและธุรกรรมทางการเงินของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสัญชาติอเมริกัน ที่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินนั้นๆ ไปยังกรมสรรพากรสหรัฐฯ เพื่อให้ได้รับข้อมูลของพลเมืองสหรัฐฯ และนิติบุคคลสหรัฐฯ ที่มีรายได้จากนอกสหรัฐฯ อย่างครบถ้วนโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557
2.หักภาษี ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) จำนวน 30% ของรายได้ที่มีแหล่งที่มาหรืออ้างอิงหลักทรัพย์จากสหรัฐฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อมของสถาบันการเงิน นิติบุคคล และเจ้าของบัญชี ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎของ FATCA (Recalcitrant Account holders) และนำส่งให้กับกรมสรรพากรสหรัฐฯ
InnovestX เราให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการป้องกันมิให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีสถานะเป็นบุคคลอเมริกันหลีกเลี่ยงภาษี (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA) และมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินแบบอัตโนมัติ (Common Reporting Standard - CRS)
เราจึงมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูลของลูกค้า รวมถึงการขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม และนำส่งกรมสรรพากร
ทั้งนี้ลูกค้าสามารถอัปเดตสถานะได้ในแอป InnovestX หลังจากกดปุ่มซื้อกองทุน SSF และ RMF ลดหย่อนภาษี โดย >>กดยืนยัน >> และกดอัปเดตสถานะ
คำสงวนสิทธิ์
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลความรู้แก่ลูกค้าเท่านั้น มิใช่เป็นคำแนะนำ หรือการให้คำแนะนำใดๆ เกี่ยวกับกฎหมายภาษีอากรของประเทศสหรัฐอเมริกา หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว ท่านสามารถขอคำแนะนำได้จากที่ ปรึกษาด้านภาษีอากรของท่าน หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.irs.gov/FATCA
คุณลูกค้าสามารถขายกองภาษีได้โดยการส่งเอกสารประกอบการขายกองทุน เอกสารที่ต้องใช้ หลัก ๆ จะประกอบด้วย แบบฟอร์มคำสั่งการขายหน่วยลงทุน สำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารประกอบเพิ่มเติม และติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่าน InnovestX Line: @innovestx หรือ โทร: 02-949-1999 เพื่อแจ้งความประสงค์ในการขายกองทุนภาษี
ทั้งนี้เนื่องจาก บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เป็นผู้จำหน่ายกองทุนจาก 19 บลจ. เพื่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุนสูงสุด และความถูกต้องจึงจำเป็นที่จะต้องใช้เอกสารยืนยัน และเมื่อคุณลูกค้าส่งเอกสารฉบับจริงเข้ามาที่บริษัทฯ อย่างครบถ้วนแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป ภายใน 7-10 วันทำการครับ
หมายเหตุ เอกสารประกอบเพิ่มเติมขึ้นกับเงื่อนไขของกองทุนที่ลูกค้าถือครอง และเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการลูกค้าสามารถตรวจสอบระยะเวลาการถือครองกองทุนภาษีได้จากประวัติการทำรายการหรือ ติดต่อ บลจ. ผู้ดูแลกองทุนที่ท่านถือครอง”
สิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้กำหนดให้ กองทุน ThaiESG ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และลงทุนสูงสุดได้ไม่เกิน 100,000 บาท โดยไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ
ซึ่งความพิเศษอยู่ที่ “ไม่ต้องรวมคำนวณกับกองทุนการออมประเภทอื่นๆ” อันได้แก่ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ซึ่งอย่างหลังทั้งหมดนี้ถูกกำหนดให้สามารถลดหย่อนภาษีรวมแล้วได้ไม่เกิน 500,000 บาท ดังนั้น จึงทำให้การลงทุนใน TESG จะช่วยทำให้เราลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้น รวมการลดหย่อนด้านการลงทุนอื่นๆ ได้สูงสุดถึง 600,000 บาท
ระยะเวลาการลงทุน ThaiESG ต้องถือลงทุนเป็นเวลา 8 ปีเต็มนับจากวันที่ซื้อ (นับแบบวันชนวัน ไม่ใช่นับแบบปีปฏิทิน) ซื้อปีไหน ลดหย่อนปีนั้น และไม่บังคับว่าต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
กองทุนรวมลดหย่อนภาษี Thai ESG (Thailand ESG Fund) เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินด้านความยั่งยืนที่มีความหลากหลายที่ผู้ออกทรัพย์สินนั้นเป็นภาครัฐหรือกิจการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่ง ก.ล.ต. ให้การสนับสนุน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ส่งเสริมความยั่งยืนของประเทศไทย โดยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวได้ตั้งแต่ปีภาษี 2566
TESG หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน มีกำหนดระยะถือครองการลงทุนอยู่ที่ 8 ปี ระยะเวลาที่ถือครองน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ SSF ที่มีระยะเวลาถือครองที่นานกว่า หรือ RMF ที่ต้องรอจนอายุ 55 ปี ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
ส่วนที่ลงทุนได้เกิน 200,000 บาท จะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และกำไรที่ได้รับจากการขายคืน (เฉพาะส่วนที่เกินสิทธิ) จะถือเป็นรายได้ในปีที่ขายคืน
2.ซื้อทีเดียว แบบใกล้ๆจะสิ้นปี
3.กองทุนรวม RMF ซื้อแล้วหยุดได้
4. กองทุนรวม SSF RMF ซื้อแล้วจะกำไรตลอด
ลูกค้าที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมลดหย่อนภาษี SSF หรือ RMF ตั้งแต่ 1 ม.ค 2565 และประสงค์ ใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ลูกค้าจะต้องแจ้งความประสงค์ในการส่งข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนของตนต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เท่านั้น (ภายในวันทำการสุดท้ายของรอบปีภาษี)
ไม่สามารถแจ้งตรงต่อกรมสรรพากรโดยใช้หนังสือรับรองการซื้อหน่วยลงทุนแบบเดิมได้ ลูกค้าต้องขอแจ้ง ความประสงค์ โดยสามารถดูลิงก์ของแต่ละบลจ. ได้ที่เนื้อหาด้านบน “ช่องทางแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิขอยกเว้นภาษีเงินได้ 19 บลจ. ไว้ที่นี่” ครับ
วิธีการหาเลขผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID) เพื่อนำไปติดต่อกับบลจ.
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบ Unitholder ID ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX โดยเลือกแถบเมนู Activity และเลือกรายการซื้อกองทุน หรือ สอบถามผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด (โทร 02-949-1999) โดย Unitholder ID จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)
ขั้นตอนที่ 2 นำเลขผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID ) ไปติดต่อบลจ. เช่น แจ้งความประสงค์ในการ ส่งข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนของตนต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หรือ ขอหนังสือรับ รองการซื้อหน่วยลงทุน เพื่อเป็นเอกสารยื่นแบบภาษี
เมื่อนำจำนวนเงินที่ซื้อไปรวมกับกองทุนการออมเพื่อเกษียณอายุอื่น ๆ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท ค่าลดหย่อนเมื่อรวมกับ กองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน SSF RMF กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 500,000 บาท
2.ต้องถือครองทั้งหมด 10 ปี แบบวันชนวัน
3.ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
2.ลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรือปีเว้นปี โดยไม่กำหนดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ
3.ถือครองจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ อย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน) และขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อผู้ลงทุนมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ ยกเว้น หน่วยลงทุนที่ซื้อก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2551 สามารถขายคืนได้เมื่อลงทุนต่อเนื่องครบ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน)