Tax Corner
รวมสูตรลงทุนกองทุนรวมลดหย่อนภาษี SSF / RMF
Tax Corner ฟีเจอร์จาก Innovest X มาพร้อมกับหลากหลายสูตรการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี
ทุกสูตรจัดโดยผู้เชี่ยวชาญ ช่วยกระจายความเสี่ยง ตอบทุกโจทย์การลงทุน
Tax Corner
ทำให้เรื่องกองทุนลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องง่ายๆ
ได้ทั้งลดหย่อนภาษี และเลือกจัดพอร์ตลงทุนในแบบคุณ
InnovestX เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่จัดสูตรการซื้อกองทุน SSF และกองทุน RMF เพื่อการลดหย่อนภาษีในแบบที่เหมาะกับสไตล์
การลงทุนของคุณ ด้วยวัตถุดิบชั้นดีจากกองทุนลดหย่อนภาษีมากถึง 19 บลจ. โดยคุณสามารถเลือกลงทุนตามสูตรแนะนำซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี
จากผู้เชี่ยวชาญ ที่จัดมาให้ ทำให้พอร์ตกองทุนของคุณได้กระจายความเสี่ยง
เพิ่มโอกาสเติบโตในระยะยาว หรือจะ DIY เลือกลงทุนกองทุนรวมลดหย่อนภาษีเองก็ได้ พร้อมโปรโมชันพิเศษหลากหลายที่ InnovestX
และ บลจ. มอบให้
ฐานเงินเดือนของคุณ ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดเท่าไหร่
ยิ่งซื้อเยอะ ยิ่งลดหย่อนได้เยอะ
หมายเหตุ : ตัวอย่างข้างต้นคำนวณจากรายได้ 12 เดือน และไม่มีโบนัส โดยกรอบการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี (SSF/RMF) สูงสุดนั้นคำนวณมาจากเพดานสูงสุดที่สามารถซื้อได้ จาก SSF ก่อน และ RMF
เป็นลำดับรองลงมา จนทำให้ภาระภาษีเหลือ
ศูนย์บาท หรือเหลือภาระภาษีน้อยที่สุด โดยนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในปริมาณที่เหมาะสมกับตนเองได้
หากคุณยังไม่แน่ใจว่า คุณเหมาะกับความเสี่ยงระดับใด กดประเมินความสามารถการยอมรับความเสี่ยงของคุณที่นี่
ทำแบบทดสอบประเมินความเสี่ยงเลือกสูตรลดหย่อนภาษีในแบบคุณ
ความเสี่ยงเบาๆ
มือใหม่ก็ดื่มได้
Iced Latte
สูตรดื่มสบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้เป็นส่วนหลักของพอร์ตเพื่อความมั่นคงของพอร์ตลงทุน และเสริมลงทุนในหุ้นทั่วโลก รวมถึงหุ้นไทยขนาดเล็กในสัดส่วนเล็กน้อย เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตดีในระยะยาว
ความเสี่ยงกลางๆ
เข้มข้นกำลังดี
Frappuccino
สูตรเน้นความกลมกล่อมสมดุล ระหว่างการลงทุนในตราสารหนี้ กับตราสารทุน เพื่อสร้างความมั่นคงให้พอร์ตพร้อมสร้างโอกาสในการแสวงหาผลตอบแทน เสริมการลงทุนในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีเพื่อช่วยสร้างการเติบโตในระยะยาว
ความเสี่ยงเข้มข้น
แบบกาแฟคั่วเข้ม
โอกาสสร้างผลตอบแทนเน้นๆ
Espresso
สูตรเข้มข้นเน้นการลงทุนในตราสารทุน โดยเน้นลงทุนในดัชนีหุ้นทั่วโลกเป็นหลัก เสริมด้วยสร้างโอกาสการเติบโตที่ดีจากหุ้น Tech ชั้นนำทั่วโลก และหุ้นเวียดนาม ที่เป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง แต่ยังมีการกระจายความเสี่ยงในตราสารหนี้
คั่วจากส่วนผสมชั้นนำทั่วโลก
ความเสี่ยงสูง แต่โอกาสเติบโตสูง
INVX SIGNATURE
สูตรเข้มจัด signature ของ InnovestX สร้างโอกาสการลงทุนให้เติบโตสูงในระยะยาว ด้วยการเฟ้นคัดกองทุนหลากหลายที่ใช้กลยุทธ์เชิงรุก Active Fund ที่มีผู้จัดการกองทุนที่มีคุณภาพ โดยเลือกหุ้นทั่วโลกและตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูง เช่น จีน เวียดนาม รวมถึง หุ้นไทยขนาดเล็กและกลาง ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
ช็อตเดียวจบ ง่าย
ลงทุนหลากหลายสินทรัพย์
READY TO DRINK
สูตรกาแฟพร้อมดื่ม ลงทุนง่ายในกองทุนเดียว กระจายการลงทุนครบจบหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลกทั้งหุ้นและตราสารหนี้ กว่า 3,000 หลักทรัพย์ เน้นลงทุนสินทรัพย์ที่จ่ายผลตอบแทนสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับคนที่อยากกระจายความเสี่ยง แต่ไม่อยากลงหลายกองทุน
สูตรกาแฟสายบุญ
ได้ลงทุน ได้ทำบุญ ได้ลดหย่อน
EASTSPRING
Specialty
สูตรกาแฟสายบุญ นอกจากได้สิทธิ์ลดหย่อนจากกองทุนลดหย่อนภาษีแล้ว InnovestX และ Eastspring จะร่วมบริจาคสบทบทุนบริจาคให้กับคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลอีกด้วย โดยสูตรลงทุนนี้จะสร้างโอกาสการลงทุนให้เติบโตสูงในระยะยาวจากกองทุนหลากหลายที่ใช้กลยุทธ์เชิงรุก (Active Fund) โดยมีทั้งกองทุนที่น่าสนใจจากทั่วทุกมุมโลก
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม คลิกFund Tax Talk
ง่ายๆ ผ่าน LINE OA
สแกน QR CODE เลย!
คำเตือน: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF หรือ RMF ก่อนตัดสินใจลงทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษีจะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน
ผลตอบแทนในอดีตมิได้ยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต
ผลตอบแทนคาดหวังเป็นเพียงการประมาณการณ์ในระยะยาว บริษัทไม่ได้รับประกันถึงผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สอบถามรายละเอียดและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ
ที่ บล.อินโนเวสท์เอ็กซ์ หรือเพจเฟสบุ๊ค
InnovestX
บทความเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษี
FAQs
FATCA คืออะไร และเกี่ยวข้องกับใคร ?
Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA) & Common Reporting Standard (CRS) คือ การยืนยันสถานะความเป็นบุคคลอเมริกันและผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษีในประเทศอื่น
Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA)
คือ กฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ออกมาเพื่อบังคับให้สถาบันการเงิน ที่ไม่ใช่สัญชาติอเมริกันนอกประเทศสหรัฐอเมริกา (Foreign Financial Institution หรือ FFI) จะต้องทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ
1.รายงานข้อมูลบัญชีและธุรกรรมทางการเงินของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสัญชาติอเมริกัน ที่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินนั้นๆ ไปยังกรมสรรพากรสหรัฐฯ เพื่อให้ได้รับข้อมูลของพลเมืองสหรัฐฯ และนิติบุคคลสหรัฐฯ ที่มีรายได้จากนอกสหรัฐฯ อย่างครบถ้วนโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557
2.หักภาษี ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) จำนวน 30% ของรายได้ที่มีแหล่งที่มาหรืออ้างอิงหลักทรัพย์จากสหรัฐฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อมของสถาบันการเงิน นิติบุคคล และเจ้าของบัญชี ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎของ FATCA (Recalcitrant Account holders) และนำส่งให้กับกรมสรรพากรสหรัฐฯ
InnovestX เราให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการป้องกันมิให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีสถานะเป็นบุคคลอเมริกันหลีกเลี่ยงภาษี (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA) และมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินแบบอัตโนมัติ (Common Reporting Standard - CRS)
เราจึงมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูลของลูกค้า รวมถึงการขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม และนำส่งกรมสรรพากร
ทั้งนี้ลูกค้าสามารถอัปเดตสถานะได้ในแอป InnovestX หลังจากกดปุ่มซื้อกองทุน SSF และ RMF ลดหย่อนภาษี โดย >>กดยืนยัน >> และกดอัปเดตสถานะ
คำสงวนสิทธิ์
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลความรู้แก่ลูกค้าเท่านั้น มิใช่เป็นคำแนะนำ หรือการให้คำแนะนำใดๆ เกี่ยวกับกฎหมายภาษีอากรของประเทศสหรัฐอเมริกา หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว ท่านสามารถขอคำแนะนำได้จากที่ ปรึกษาด้านภาษีอากรของท่าน หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.irs.gov/FATCA
คุณลูกค้าสามารถขายกองภาษีได้โดยการส่งเอกสารประกอบการขายกองทุน เอกสารที่ต้องใช้ หลัก ๆ จะประกอบด้วย แบบฟอร์มคำสั่งการขายหน่วยลงทุน สำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารประกอบเพิ่มเติม และติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่าน InnovestX Line: @innovestx หรือ โทร: 02-949-1999 เพื่อแจ้งความประสงค์ในการขายกองทุนภาษี
ทั้งนี้เนื่องจาก บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เป็นผู้จำหน่ายกองทุนจาก 19 บลจ. เพื่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุนสูงสุด และความถูกต้องจึงจำเป็นที่จะต้องใช้เอกสารยืนยัน และเมื่อคุณลูกค้าส่งเอกสารฉบับจริงเข้ามาที่บริษัทฯ อย่างครบถ้วนแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป ภายใน 7-10 วันทำการครับ
หมายเหตุ เอกสารประกอบเพิ่มเติมขึ้นกับเงื่อนไขของกองทุนที่ลูกค้าถือครอง และเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการลูกค้าสามารถตรวจสอบระยะเวลาการถือครองกองทุนภาษีได้จากประวัติการทำรายการหรือ ติดต่อ บลจ. ผู้ดูแลกองทุนที่ท่านถือครอง”
สิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้กำหนดให้ กองทุน ThaiESG ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และลงทุนสูงสุดได้ไม่เกิน 100,000 บาท โดยไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ
ซึ่งความพิเศษอยู่ที่ “ไม่ต้องรวมคำนวณกับกองทุนการออมประเภทอื่นๆ” อันได้แก่ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ซึ่งอย่างหลังทั้งหมดนี้ถูกกำหนดให้สามารถลดหย่อนภาษีรวมแล้วได้ไม่เกิน 500,000 บาท ดังนั้น จึงทำให้การลงทุนใน TESG จะช่วยทำให้เราลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้น รวมการลดหย่อนด้านการลงทุนอื่นๆ ได้สูงสุดถึง 600,000 บาท
ระยะเวลาการลงทุน ThaiESG ต้องถือลงทุนเป็นเวลา 8 ปีเต็มนับจากวันที่ซื้อ (นับแบบวันชนวัน ไม่ใช่นับแบบปีปฏิทิน) ซื้อปีไหน ลดหย่อนปีนั้น และไม่บังคับว่าต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
กองทุนรวมลดหย่อนภาษี Thai ESG (Thailand ESG Fund) เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินด้านความยั่งยืนที่มีความหลากหลายที่ผู้ออกทรัพย์สินนั้นเป็นภาครัฐหรือกิจการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่ง ก.ล.ต. ให้การสนับสนุน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ส่งเสริมความยั่งยืนของประเทศไทย โดยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวได้ตั้งแต่ปีภาษี 2566
TESG หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน มีกำหนดระยะถือครองการลงทุนอยู่ที่ 8 ปี ระยะเวลาที่ถือครองน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ SSF ที่มีระยะเวลาถือครองที่นานกว่า หรือ RMF ที่ต้องรอจนอายุ 55 ปี ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
ส่วนที่ลงทุนได้เกิน 200,000 บาท จะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และกำไรที่ได้รับจากการขายคืน (เฉพาะส่วนที่เกินสิทธิ) จะถือเป็นรายได้ในปีที่ขายคืน
2.ซื้อทีเดียว แบบใกล้ๆจะสิ้นปี
3.RMF ซื้อแล้วหยุดได้
4.SSF RMF ซื้อแล้วจะกำไรตลอด
ลูกค้าที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมลดหย่อนภาษี SSF หรือ RMF ตั้งแต่ 1 ม.ค 2565 และประสงค์ ใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ลูกค้าจะต้องแจ้งความประสงค์ในการส่งข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนของตนต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เท่านั้น (ภายในวันทำการสุดท้ายของรอบปีภาษี)
ไม่สามารถแจ้งตรงต่อกรมสรรพากรโดยใช้หนังสือรับรองการซื้อหน่วยลงทุนแบบเดิมได้ ลูกค้าต้องขอแจ้ง ความประสงค์ โดยสามารถดูลิงก์ของแต่ละบลจ. ได้ที่เนื้อหาด้านบน “ช่องทางแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิขอยกเว้นภาษีเงินได้ 19 บลจ. ไว้ที่นี่” ครับ
วิธีการหาเลขผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID) เพื่อนำไปติดต่อกับบลจ.
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบ Unitholder ID ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX โดยเลือกแถบเมนู Activity และเลือกรายการซื้อกองทุน หรือ สอบถามผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด (โทร 02-949-1999) โดย Unitholder ID จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)
ขั้นตอนที่ 2 นำเลขผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID ) ไปติดต่อบลจ. เช่น แจ้งความประสงค์ในการ ส่งข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนของตนต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หรือ ขอหนังสือรับ รองการซื้อหน่วยลงทุน เพื่อเป็นเอกสารยื่นแบบภาษี
เมื่อนำจำนวนเงินที่ซื้อไปรวมกับกองทุนการออมเพื่อเกษียณอายุอื่น ๆ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท ค่าลดหย่อนเมื่อรวมกับ กองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน SSF RMF กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 500,000 บาท
2.ต้องถือครองทั้งหมด 10 ปี แบบวันชนวัน
3.ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
2.ลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรือปีเว้นปี โดยไม่กำหนดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ
3.ถือครองจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ อย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน) และขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อผู้ลงทุนมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ ยกเว้น หน่วยลงทุนที่ซื้อก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2551 สามารถขายคืนได้เมื่อลงทุนต่อเนื่องครบ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน)