ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  3. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  4. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  5. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  6. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  7. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  8. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  9. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
  10. กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}
TAX C RNER
 
เริ่มต้นสร้างพอร์ตการลงทุน ด้วยกองทุนลดหย่อนภาษี
SSF, RMF และ Thai ESG พร้อมเฟ้นหาไอเดียการลงทุน
ระยะยาว ในธีมที่ชอบ กองทุนที่ใช่
ลงทุนกับ InnovestX

ลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีกับ InnovestX ดีอย่างไร?

เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการคัดเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีที่ดีที่สุดในแต่ละสภาวะการณ์ และเป้าหมายการลงทุน พร้อมกับคัดเลือกกองทุนได้เหมาะสมกับประเภทของกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ SSF, RMF และ Thai ESG เพื่อช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวได้
สะดวก และง่าย
ลงทุนได้ทันทีไม่ต้องเซ็น
หรือส่งเอกสารเพิ่ม
รวมกองทุน
ลดหย่อนภาษี
ไว้มากถึง 19 บลจ.
ค่าธรรมเนียม
เท่ากับลงทุน
กับธนาคาร
โปรโมชันคุ้มๆ
จากหลากหลาย บลจ.
 
มีผู้เชี่ยวชาญ
แนะนำการลงทุน
 
มีผู้เชี่ยวชาญ
แนะนำการลงทุน
 

กองทุนลดหย่อนภาษี

SSF และ RMF

แนะนำโดย InnovestX

เริ่มต้นสร้างพอร์ตการลงทุนได้ง่ายๆ ด้วยกองทุนลดหย่อนภาษี
กับกลยุทธ์การจัดพอร์ตแกนหลัก (Core Portfolio) และพอร์ตส่วนเสริม (Satellite Portfolio)

Core Portfolio คือ?

พอร์ตการลงทุนส่วนที่เป็นแกนหลัก
เหมาะสำหรับผู้ลงทุนระยะยาวที่
ไม่ต้องการจับจังหวะตลาด
 
หากนักลงทุน ยังไม่เคย ลงทุนในกองทุนรวม แนะนำเริ่มต้น
ลงทุนกองภาษีด้วยกองทุนที่เป็น Core Portfolio
 
หุ้นโลก Active
KKP GNP-H
SSF
KKP GNP
RMF-H
หุ้นโลก Passive
SCBWORLD
(SSF)
SCBRM
WORLD(A)
ตราสารหนี้โลก
UGIS-SSF
UGISRMF
ตราสารหนี้ไทย
KKP ACT
FIXED-SSF
KKP INRMF

Satellite Portfolio คือ?

พอร์ตการลงทุนส่วนที่เป็นส่วนเสริม
เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ ต้องการจับจังหวะตลาดหรือมีมุมมองในการลงทุนเป็นของตัวเอง
หากนักลงทุนมี Core Portfolio อยู่แล้ว และอยากลงทุนใน
Theme ที่เติบโตในระยะยาวเพื่อเสริมพอร์ตแนะนำลงทุนกองภาษีที่เป็น Satellite Portfolio
สหรัฐผู้นำด้านเศรษฐกิจ
และนวัตกรรมโลก
หุ้นสหรัฐฯ Active
K-USA-SSF
KUSARMF
หุ้นสหรัฐฯ Passive
SCBS&P500(SSFA)
SCBRMS&P500
เวียดนามโอกาส
เศรษฐกิจเติบโตสูง
B-VIETNAM
SSF
PRINCIPAL
VNEQRMF
หุ้นเทคโนโลยีเติบโตระยะยาว
กับโลกอนาคต
B-INNOTECH
SSF
B-INNOTECH
RMF
ลงทุนกับ InnovestX

หุ้นโลก Active

KKP GNP-H SSF
KKP GNP RMF-H

หุ้นโลก Passive

SCBWORLD(SSF)
SCBRMWORLD(A)

ตราสารหนี้โลก

UGIS-SSF
UGISRMF
 
 
 

ตราสารหนี้ไทย

KKP ACT FIXED-SSF
KKP INRMF
 
 
 

Satellite Portfolio คือ?

พอร์ตการลงทุนส่วนที่เป็นส่วนเสริม
เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ ต้องการจับจังหวะตลาดหรือมีมุมมองในการลงทุนเป็นของตัวเอง
หากนักลงทุนมี Core Portfolio อยู่แล้ว และอยากลงทุนใน Theme ที่เติบโตในระยะยาวเพื่อเสริมพอร์ตแนะนำลงทุนกองภาษีที่เป็น Satellite Portfolio

สหรัฐผู้นำด้านเศรษฐกิจ
และนวัตกรรมโลก

หุ้นสหรัฐฯ Active

K-USA-SSF
KUSARMF

หุ้นสหรัฐฯ Passive

SCBS&P500(SSFA)

SCBRMS&P500

เวียดนามโอกาส
เศรษฐกิจเติบโตสูง

B-VIETNAM SSF
PRINCIPAL VNEQRMF
 
 

หุ้นเทคโนโลยีเติบโตระยะยาว
กับโลกอนาคต

B-INNOTECH SSF
B-INNOTECH RMF
 
 
ลงทุนกับ InnovestX
 หุ้นทั่วโลก USA Vietnam Technology Thai ESG หุ้นไทย Thai ESG ตราสารหนี้
กองทุนรวมแนะนำ
โดย KAsset
KGSELECTRMF K-USA-SSF
KUSARMF
K-VIETNAM-SSF
KVIETNAMRMF
KGTECHRMF K-TNZ-ThaiESG K-ESGSI-ThaiESG
กองทุนรวมแนะนำโดย KAsset
หุ้นทั่วโลก KGSELECTRMF
USA K-USA-SSF
KUSARMF
Vietnam K-VIETNAM-SSF
KVIETNAMRMF
Techonology KGTECHRMF
Thai ESG
หุ้นไทย
K-TNZ-ThaiESG
Thai ESG
ตราสารหนี้
K-ESGSI-ThaiESG
รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุด 35%
โอกาสลงทุนสร้างผลตอบแทนระยะยาว
มีกองทุนลดหย่อนภาษีมากมายให้ลงทุนและสับเปลี่ยน
KAsset บลจ. ขนาดใหญ่อันดับ 1 ของไทย น่าเชื่อถือ
ลงทุน ง่าย สะดวก ไม่ต้องเซ็น ไม่ต้องส่งเอกสาร

Best in Class SSF / RMF

คัดตัวท็อปมาให้ครบ ทุกธีมที่นักลงทุนสนใจ
นักลงทุนสายไหนก็ตรงใจ กับกองทุนแนะนำที่คัดเลือกมาให้แล้วครบทุกหมวด ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหุ้นโลก กองทุนสหรัฐฯ หรือแม้แต่กองทุนตราสารหนี้ตอบโจทย์นักลงทุนสายความเสี่ยงต่ำ

หุ้น

กองทุนหุ้น ActiveSSFRMF
กองทุนหุ้นโลก (Global Equity)KKP GNP-H-SSFKKP GNP RMF-H
กองทุนหุ้นสหรัฐฯ (US Equity)K-USA-SSFKUSARMF
กองทุนหุ้นยุโรป (Europe Equity)MEURO-SSFES-EGRMF
กองทุนหุ้นญี่ปุ่น (Japan Equity)SCBJAPAN(SSF)SCBRMJAPAN(A)
กองทุนหุ้นเอเชีย (Asia Equity)B-ASIASSFB-ASIARMF
กองทุนหุ้นจีน (China Equity)KT-CHINA-SSFKT-CHINA RMF
กองทุนหุ้นอินเดีย (India Equity)KT-INDIA-SSFKFINDIARMF
กองทุนหุ้นไทย (Thai Equity)ASP-SME-SSFASP-SMERMF
กองทุนหุ้นเทคโนโลยี (Technology Equity)B-INNOTECHSSFB-INNOTECHRMF
กองทุนหุ้นสุขภาพ (Healthcare Equity)MHEALTHSSFMHEALTHRMF
คลิกเพื่อดูเพิ่มเติม

ลดหย่อนภาษีเพิ่มได้อีก!
ด้วยกองทุนรวม Thai ESG

กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) อีกทางเลือกสำหรับการลงทุนลดหย่อนภาษี นโยบายการลงทุนกำหนดให้ลงทุนได้ทั้งในหุ้นไทยและตราสารหนี้ไทย ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนตามเกณฑ์ ESG ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และ บรรษัทภิบาล (Governance)
หุ้นไทย Active
ASP-ThaiESG
หุ้นไทย Passive
K-TNZ-THAIESG
 
 
ตราสารหนี้ไทย
KKP GB THAI ESG
 
 
กองทุนผสมหุ้นไทย
และตราสารหนี้ไทย
SCBTM(ThaiESGA)
 
หุ้นไทย Active
ASP-ThaiESG
หุ้นไทย Passive
K-TNZ-THAIESG
 
 
ตราสารหนี้ไทย
KKP GB THAI ESG
 
 
กองทุนผสมหุ้นไทย
และตราสารหนี้ไทย
SCBTM(ThaiESGA)
 

สรุปข้อแตกต่างและเงื่อนไข SSF, RMF และ Thai ESG

*วงเงินลดหย่อนภาษีกลุ่มเกษียณ ได้แก่ SSF, RMF, PVD, กบข., ประกันชีวิตแบบบำนาญ และกองทุนสงเคราะห์ครู รวมกันแล้วทั้งหมดต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ขั้นตอนการซื้อกองทุนด้วยบัตรเครดิต
+
ช่องทางแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิขอยกเว้นภาษีเงินได้ 19 บลจ. ไว้ที่นี่
+

คำเตือน: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF หรือ RMF ก่อนตัดสินใจลงทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษีจะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน ผลตอบแทนในอดีตมิได้ยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต
ผลตอบแทนคาดหวังเป็นเพียงการประมาณการณ์ในระยะยาว บริษัทไม่ได้รับประกันถึงผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สอบถามรายละเอียดและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ
ที่ บล.อินโนเวสท์เอ็กซ์ หรือเพจเฟสบุ๊ค InnovestX

บทความเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษี

FAQs

คำถามพบบ่อย
หนังสือรับรองการลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษี SSF, RMF, LTF, ThaiESG สามารถขอได้ที่ไหน
หนังสือรับรองการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จะจัดส่งเอกสารดังกล่าวให้กับท่านทางไปรษณีย์ หรือตามอีเมลที่ท่านแจ้งไว้ตอนเปิดบัญชีลงทุนกับ InnovestX
กรณีที่ท่านไม่ได้รับเอกสาร ท่านสามารถขอเอกสารกับ บลจ. ได้โดยดำเนินการดังนี้
1. ตรวจสอบเลขที่ผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID) ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX (วิธีการตามด้านล่าง)
2. แจ้ง บลจ. เพื่อขอหนังสือรับรองการลงทุน โดยใช้ข้อมูลผู้ถือหน่วยลงทุน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด และเลขที่ผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID) ช่องทางการติดต่อ (คลิก)
วิธีการตรวจสอบเลขที่ผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID) ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX:
1. กดไปที่กองทุนที่ต้องการ
2. เลือก "ขาย"
3. เลขที่ผู้ถือหน่วยลงทุน จะแสดงอยู่ด้านบน
ต้องการขอหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ทวิ 50) ของกองทุนลดหย่อนภาษี SSF, RMF, LTF, ThaiESG ที่มีการจ่ายปันผล ต้องทำอย่างไร
ท่านสามารถติดต่อ บลจ. ที่จัดสรรกองทุนลดหย่อนภาษีของท่านโดยตรง เพื่อขอหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ทวิ 50) ช่องทางการติดต่อ (คลิก)
วิธีการขายกองทุน LTF ทำอย่างไร
ท่านสามารถทำการขายกองทุน LTF ที่ครบกำหนดได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX
วิธีการขายกองทุนบนแอปพลิเคชัน InnovestX:
1. Log in แอป InnovestX และเลือกเมนู "Portfolio" ที่มุมขวาล่าง
2. เลือก "Fund" --> และเลือกกองทุน LTF ที่ต้องการขาย
3. เลือก "ขาย" และระบุจำนวนหน่วยลงทุนที่ต้องการ
4. เลือกบัญชีธนาคารสำหรับรับเงิน และ เลือก "ตรวจสอบข้อมูล"
หลังจากการขายกองทุน LTF เงินจะเข้าบัญชีธนาคารตามที่ท่านได้เลือกไว้ โดยเงินจะเข้าตามระยะเวลาการจัดสรรของกองทุนนั้นๆ ไม่เกิน 14 วันทำการ
หากต้องการขายกองทุนลดหย่อนภาษี ต้องทำอย่างไร
กรณีที่ท่านต้องการขายกองทุนลดหย่อนภาษี ท่านสามารถแจ้งความประสงค์ในการขายกองทุน ผ่าน InnovestX Customer Service โทร: 02-949-1999, Facebook หรือ Line: @InnovestX
ทั้งนี้ก่อนการดำเนินการขายกองทุน:
- ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการถือครองกองทุนลดหย่อนภาษีของท่านได้จาก บลจ. ที่ดูแลกองทุน ผ่านช่องทางติดต่อดังนี้ คลิก
- กรณีที่ท่านต้องการขายกองทุนลดหย่อนภาษีผิดเงื่อนไข (ก่อนกำหนด) ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขได้ที่กรมสรรพากร ผ่านเว็บไซต์ https://www.rd.go.th/36195.html หรือ โทร 1161 ในวันและเวลาทำการ 8:30 - 18:00 น.
ต้นปีแบบนี้ ทยอยซื้อกองทุน RMF และ SFF แล้ว อย่าลืมอัปเดตสถานะ FATCA เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ลดหย่อนภาษี! วันนี้เมื่อซื้อกองภาษีกับ InnovestX สามารถทำรายการผ่านแอปได้แล้ว


FATCA คืออะไร และเกี่ยวข้องกับใคร ?

Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA) & Common Reporting Standard (CRS) คือ การยืนยันสถานะความเป็นบุคคลอเมริกันและผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษีในประเทศอื่น


Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA) คือ กฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ออกมาเพื่อบังคับให้สถาบันการเงิน ที่ไม่ใช่สัญชาติอเมริกันนอกประเทศสหรัฐอเมริกา (Foreign Financial Institution หรือ FFI) จะต้องทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ

1.รายงานข้อมูลบัญชีและธุรกรรมทางการเงินของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสัญชาติอเมริกัน ที่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินนั้นๆ ไปยังกรมสรรพากรสหรัฐฯ เพื่อให้ได้รับข้อมูลของพลเมืองสหรัฐฯ และนิติบุคคลสหรัฐฯ ที่มีรายได้จากนอกสหรัฐฯ อย่างครบถ้วนโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557

2.หักภาษี ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) จำนวน 30% ของรายได้ที่มีแหล่งที่มาหรืออ้างอิงหลักทรัพย์จากสหรัฐฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อมของสถาบันการเงิน นิติบุคคล และเจ้าของบัญชี ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎของ FATCA (Recalcitrant Account holders) และนำส่งให้กับกรมสรรพากรสหรัฐฯ


InnovestX เราให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการป้องกันมิให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีสถานะเป็นบุคคลอเมริกันหลีกเลี่ยงภาษี (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA) และมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินแบบอัตโนมัติ (Common Reporting Standard - CRS)


เราจึงมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูลของลูกค้า รวมถึงการขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม และนำส่งกรมสรรพากร


ทั้งนี้ลูกค้าสามารถอัปเดตสถานะได้ในแอป InnovestX หลังจากกดปุ่มซื้อกองทุน SSF และ RMF ลดหย่อนภาษี โดย >>กดยืนยัน >> และกดอัปเดตสถานะ 


คำสงวนสิทธิ์

ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลความรู้แก่ลูกค้าเท่านั้น มิใช่เป็นคำแนะนำ หรือการให้คำแนะนำใดๆ เกี่ยวกับกฎหมายภาษีอากรของประเทศสหรัฐอเมริกา หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว ท่านสามารถขอคำแนะนำได้จากที่ ปรึกษาด้านภาษีอากรของท่าน หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.irs.gov/FATCA


 

ขั้นตอนในการขายกองทุนลดหย่อนภาษี SSF LTF RMF เป็นอย่างไร ?


คุณลูกค้าสามารถขายกองภาษีได้โดยการส่งเอกสารประกอบการขายกองทุน เอกสารที่ต้องใช้ หลัก ๆ จะประกอบด้วย แบบฟอร์มคำสั่งการขายหน่วยลงทุน สำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารประกอบเพิ่มเติม และติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่าน InnovestX Line: @innovestx หรือ โทร: 02-949-1999 เพื่อแจ้งความประสงค์ในการขายกองทุนภาษี


ทั้งนี้เนื่องจาก บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เป็นผู้จำหน่ายกองทุนจาก 19 บลจ. เพื่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุนสูงสุด และความถูกต้องจึงจำเป็นที่จะต้องใช้เอกสารยืนยัน และเมื่อคุณลูกค้าส่งเอกสารฉบับจริงเข้ามาที่บริษัทฯ อย่างครบถ้วนแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป ภายใน 7-10 วันทำการครับ


หมายเหตุ เอกสารประกอบเพิ่มเติมขึ้นกับเงื่อนไขของกองทุนที่ลูกค้าถือครอง และเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการลูกค้าสามารถตรวจสอบระยะเวลาการถือครองกองทุนภาษีได้จากประวัติการทำรายการหรือ ติดต่อ บลจ. ผู้ดูแลกองทุนที่ท่านถือครอง”


เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุนลดหย่อนภาษี TESG

สิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้กำหนดให้ กองทุน ThaiESG ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และลงทุนสูงสุดได้ไม่เกิน 100,000 บาท โดยไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ

 

ซึ่งความพิเศษอยู่ที่ “ไม่ต้องรวมคำนวณกับกองทุนการออมประเภทอื่นๆ” อันได้แก่ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ซึ่งอย่างหลังทั้งหมดนี้ถูกกำหนดให้สามารถลดหย่อนภาษีรวมแล้วได้ไม่เกิน 500,000 บาท ดังนั้น จึงทำให้การลงทุนใน TESG จะช่วยทำให้เราลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้น รวมการลดหย่อนด้านการลงทุนอื่นๆ ได้สูงสุดถึง 600,000 บาท

 

ระยะเวลาการลงทุน ThaiESG ต้องถือลงทุนเป็นเวลา 8 ปีเต็มนับจากวันที่ซื้อ (นับแบบวันชนวัน ไม่ใช่นับแบบปีปฏิทิน) ซื้อปีไหน ลดหย่อนปีนั้น และไม่บังคับว่าต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี


Thai ESG กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (TESG) คืออะไร ต่างกับ SSF และ RMF อย่างไร ?

กองทุนรวมลดหย่อนภาษี Thai ESG (Thailand ESG Fund) เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินด้านความยั่งยืนที่มีความหลากหลายที่ผู้ออกทรัพย์สินนั้นเป็นภาครัฐหรือกิจการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่ง ก.ล.ต. ให้การสนับสนุน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ส่งเสริมความยั่งยืนของประเทศไทย โดยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวได้ตั้งแต่ปีภาษี 2566

 

TESG หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน มีกำหนดระยะถือครองการลงทุนอยู่ที่ 8 ปี ระยะเวลาที่ถือครองน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ SSF ที่มีระยะเวลาถือครองที่นานกว่า หรือ RMF ที่ต้องรอจนอายุ 55 ปี ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท


สิ่งที่เรามักเข้าใจผิด(อย่างมหันต์) เกี่ยวกับกองทุน SSF RMF ลดหย่อนภาษี
1.ซื้อเท่าไรก็ได้ ซื้อมาก ได้ลดมาก
สิ่งที่ถูกต้อง : ควรซื้อให้ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด และซื้อตามวงเงินสิทธิที่เหลือ หลังหักจากการลดหย่อนประเภทอื่นๆ

ส่วนที่ลงทุนได้เกิน 200,000 บาท จะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และกำไรที่ได้รับจากการขายคืน (เฉพาะส่วนที่เกินสิทธิ) จะถือเป็นรายได้ในปีที่ขายคืน


2.ซื้อทีเดียว แบบใกล้ๆจะสิ้นปี

สิ่งที่ถูกต้อง : ควรหลีกเลี่ยงซื้อทีเดียวปลายปี เพราะเสี่ยงเจอกับวันหยุดกองทุน ซึ่งอาจจะทำให้รายการการซื้อไม่สมบูรณ์ และเสียสิทธิการลดหย่อยภาษี ดังนั้น แนะนำทยอยซื้อกองทุนได้ทั้งปี หรือ DCA เพื่อลดหย่อนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ

 

3.กองทุนรวม RMF ซื้อแล้วหยุดได้

สิ่งที่ถูกต้อง : การซื้อกองทุน RMF ตามเงื่อนไขแล้ว ต้องซื้ออย่างน้อย 5 ปี และขายได้เมื่ออายุครบ 55 ปี ดังนั้น ต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง หรืออย่างน้อยที่สุด คือ ปีเว้นปี

 

4. กองทุนรวม SSF RMF ซื้อแล้วจะกำไรตลอด

สิ่งที่ถูกต้อง : กองทุนรวม SSF และ RMF มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย และบางกองทุนลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น ทองคำ น้ำมัน ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ดังนั้น การลงทุนซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี SSF RMF มีโอกาสทั้งกำไรและขาดทุน

 

 

ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี SSF และ RMF ต้องแจ้งความประสงค์การใช้สิทธิลดหย่อนไหม ?
สรรพากรกำหนดให้ผู้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่านกองทุน SSF และ RMF ต้องแจ้งความประสงค์การใช้สิทธิลดหย่อน 

ลูกค้าที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมลดหย่อนภาษี SSF หรือ RMF ตั้งแต่ 1 ม.ค 2565 และประสงค์ ใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ลูกค้าจะต้องแจ้งความประสงค์ในการส่งข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนของตนต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เท่านั้น (ภายในวันทำการสุดท้ายของรอบปีภาษี) 

ไม่สามารถแจ้งตรงต่อกรมสรรพากรโดยใช้หนังสือรับรองการซื้อหน่วยลงทุนแบบเดิมได้ ลูกค้าต้องขอแจ้ง ความประสงค์ โดยสามารถดูลิงก์ของแต่ละบลจ. ได้ที่เนื้อหาด้านบน “ช่องทางแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิขอยกเว้นภาษีเงินได้ 19 บลจ. ไว้ที่นี่” ครับ

วิธีการหาเลขผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID) เพื่อนำไปติดต่อกับบลจ.

ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบ Unitholder ID ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX โดยเลือกแถบเมนู Activity และเลือกรายการซื้อกองทุน หรือ สอบถามผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด (โทร 02-949-1999) โดย Unitholder ID จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)

ขั้นตอนที่ 2 นำเลขผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID ) ไปติดต่อบลจ. เช่น แจ้งความประสงค์ในการ ส่งข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนของตนต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หรือ ขอหนังสือรับ รองการซื้อหน่วยลงทุน เพื่อเป็นเอกสารยื่นแบบภาษี
ควรลงทุน SSF และ RMF ทั้ง 2 ประเภทเลยไหม?
ขึ้นอยู่กับฐานภาษีของผู้ลงทุน และจำนวนเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพครับ ทั้งนี้ผู้ลงทุนควรพิจารณาระยะเวลาที่สามารถลงทุนได้ เนื่องจากกองทุน SSF ห้ามขายคืนก่อน 10 ปี และกองทุน RMF ห้ามขายคืนก่อนอายุ 55 ปี
ข้อควรรู้ก่อนซื้อกองทุน SSF สรุปเงื่อนไขกองทุนลดหย่อนภาษี SSF
1.ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท

เมื่อนำจำนวนเงินที่ซื้อไปรวมกับกองทุนการออมเพื่อเกษียณอายุอื่น ๆ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท ค่าลดหย่อนเมื่อรวมกับ กองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน SSF RMF กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 500,000 บาท
ส่วนที่ลงทุนได้เกิน 200,000 บาท จะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และกำไรที่ได้รับจากการขายคืน (เฉพาะส่วนที่เกินสิทธิ) จะถือเป็นรายได้ในปีที่ขายคืน
ซึ่งต้องนำไปรวมคำนวณภาษีด้วยแม้จะถือหน่วยลงทุนเกินกว่า 10 ปีก็ตาม

 

2.ต้องถือครองทั้งหมด 10 ปี แบบวันชนวัน

หากว่าเราขายก่อน 10 ปี จะต้องคืนสิทธิการลดหย่อนภาษีทั้งหมดคืนแก่รัฐ โดยนับจากวันซื้อแบบวันชนวัน โดยสามารถสับเปลี่ยนกองทุน SSF ได้ แต่ไม่นับเป็นการซื้อใหม่

 

3.ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี

สำหรับใครที่รายได้ไม่แน่นอน หรือมีรายจ่ายจำนวนมาก ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะกองทุน SSF ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ และไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี ทั้งยังไม่จำเป็นต้องซื้อกองทุนเดิมทุกปี สามารถสลับไปซื้อกองทุนอื่น ๆ เพื่อบริหารความเสี่ยง

การนับวันลงทุน SSF นับอย่างไร?
เงินลงทุนแต่ละครั้ง จะนับ 10 ปีเต็ม (โดยนับแยกตามการซื้อเป็นรายครั้ง มิใช่รายปี) เช่น ลงทุนวันที่ 1 พ.ย. 2566 เงินลงทุนจะครบ 10 ปีเต็ม วันที่ 30 ต.ค. 2576 และขายคืนได้วันที่ 1 พ.ย. 2576
ข้อควรรู้ก่อนซื้อกองทุน RMF สรุปเงื่อนไขกองทุนลดหย่อนภาษี SSF
1.ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
ค่าลดหย่อนเมื่อรวมกับ กองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน SSF RMF กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 500,000 บาท

2.ลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรือปีเว้นปี โดยไม่กำหนดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ 

3.ถือครองจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ อย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน) และขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อผู้ลงทุนมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ ยกเว้น หน่วยลงทุนที่ซื้อก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2551 สามารถขายคืนได้เมื่อลงทุนต่อเนื่องครบ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน)
กลับด้านบน