ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. DR (Depositary Receipt) ลงทุนหุ้นนอก เหมือนซื้อหุ้นไทย
  3. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  4. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  5. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  6. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  7. ตราสารอนุพันธ์ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  8. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  9. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  10. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
  11. กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}
TAX C RNER
 
เริ่มต้นสร้างพอร์ตการลงทุน ด้วยกองทุนลดหย่อนภาษี
RMF และ Thai ESG พร้อมเฟ้นหาไอเดียการลงทุน
ระยะยาว ในธีมที่ชอบ กองทุนที่ใช่
ลงทุนกับ InnovestX

ลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีกับ InnovestX ดีอย่างไร?

ลงทุนกองทุนรวมลดหย่อนภาษีกับ InnovestX มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์และคัดเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีมาให้ครบแบบเป็นกลางไม่มีข้อจำกัด เลือกกองทุนที่ดีที่สุดให้คุณ พร้อมโปรโมชันคุ้มๆ จากหลากหลาย บลจ. มีให้หมดทั้ง RMF และ Thai ESG เพื่อให้ผู้ลงทุนประหยัดภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลงทุนได้อย่างมั่นใจ
สะดวก และง่าย
ลงทุนได้ทันทีไม่ต้องเซ็น
หรือส่งเอกสารเพิ่ม
รวมกองทุน
ลดหย่อนภาษี
ไว้มากถึง 19 บลจ.
ค่าธรรมเนียม
เท่ากับลงทุน
กับธนาคาร
โปรโมชันคุ้ม ๆ
จากหลากหลาย บลจ.
 
มีผู้เชี่ยวชาญ
แนะนำการลงทุน
 
มีผู้เชี่ยวชาญ
แนะนำการลงทุน
 

กองทุนลดหย่อนภาษี

RMF และ ThaiESG

แนะนำโดย InnovestX

เริ่มต้นสร้างพอร์ตการลงทุนได้ง่ายๆ ด้วยกองทุนลดหย่อนภาษี
กับกลยุทธ์การจัดพอร์ตแกนหลัก (Core Portfolio) และพอร์ตส่วนเสริม (Satellite Portfolio)

Core Portfolio คืออะไร ?

พอร์ตการลงทุนส่วนที่เป็นแกนหลัก
เหมาะสำหรับผู้ลงทุนระยะยาวที่
ไม่ต้องการจับจังหวะตลาด
 
หากนักลงทุน ยังไม่เคย ลงทุนในกองทุนรวม แนะนำเริ่มต้น
ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีด้วยกองทุนที่เป็น Core Portfolio
 
หุ้นโลก Active
KKP GNP RMFH
หุ้นโลก Passive
SCBRMWORLD(A)
ตราสารหนี้โลก
UGISRMF
ตราสารหนี้ไทย
KKP INRMF

Satellite Portfolio คืออะไร ?

พอร์ตการลงทุนส่วนที่เป็นส่วนเสริม
ต้องการจับจังหวะตลาด หรือมีมุมมองในการลงทุนเป็นของตัวเอง
หากนักลงทุนมี Core Portfolio อยู่แล้ว และอยากลงทุนใน
Theme ที่เติบโตในระยะยาวเพื่อเสริมพอร์ตแนะนำซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีที่เป็น Satellite Portfolio
สหรัฐผู้นำด้านเศรษฐกิจ
และนวัตกรรมโลก
หุ้นสหรัฐฯ Active
KUSARMF
หุ้นสหรัฐฯ Passive
SCBRMS&P500
เวียดนามโอกาส
เศรษฐกิจเติบโตสูง
PRINCIPAL
VNEQRMF
หุ้นเทคโนโลยีเติบโตระยะยาว
กับโลกอนาคต
B-INNOTECH
RMF
ลงทุนกับ InnovestX

หุ้นโลก Active

KKP GNP-H SSF
KKP GNP RMF-H

หุ้นโลก Passive

SCBWORLD(SSF)
SCBRMWORLD(A)

ตราสารหนี้โลก

UGIS-SSF
UGISRMF
 
 
 

ตราสารหนี้ไทย

KKP ACT FIXED-SSF
KKP INRMF
 
 
 

Satellite Portfolio คือ?

พอร์ตการลงทุนส่วนที่เป็นส่วนเสริม
เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ ต้องการจับจังหวะตลาดหรือมีมุมมองในการลงทุนเป็นของตัวเอง
หากนักลงทุนมี Core Portfolio อยู่แล้ว และอยากลงทุนใน Theme ที่เติบโตในระยะยาวเพื่อเสริมพอร์ตแนะนำลงทุนกองภาษีที่เป็น Satellite Portfolio

สหรัฐผู้นำด้านเศรษฐกิจ
และนวัตกรรมโลก

หุ้นสหรัฐฯ Active

K-USA-SSF
KUSARMF

หุ้นสหรัฐฯ Passive

SCBS&P500(SSFA)

SCBRMS&P500

เวียดนามโอกาส
เศรษฐกิจเติบโตสูง

B-VIETNAM SSF
PRINCIPAL VNEQRMF
 
 

หุ้นเทคโนโลยีเติบโตระยะยาว
กับโลกอนาคต

B-INNOTECH SSF
B-INNOTECH RMF
 
 
ลงทุนกับ InnovestX

Best in Class RMF

คัดตัวท็อปมาให้ครบ ทุกธีมที่นักลงทุนสนใจ

หุ้น

กองทุนหุ้น Active RMF
กองทุนหุ้นโลก (Global Equity) KKP GNP RMF-H
กองทุนหุ้นสหรัฐฯ (US Equity) KUSARMF
กองทุนหุ้นยุโรป (Europe Equity) ES-EGRMF
กองทุนหุ้นญี่ปุ่น (Japan Equity) SCBRMJAPAN(A)
กองทุนหุ้นเอเชีย (Asia Equity) B-ASIARMF
กองทุนหุ้นจีน (China Equity) KT-CHINA RMF
กองทุนหุ้นอินเดีย (India Equity) KFINDIARMF
กองทุนหุ้นไทย (Thai Equity) ASP-SMERMF
กองทุนหุ้นเทคโนโลยี (Technology Equity) B-INNOTECHRMF
กองทุนหุ้นสุขภาพ (Healthcare Equity) MHEALTHRMF
คลิกเพื่อดูเพิ่มเติม

ลดหย่อนภาษีเพิ่มได้อีก !
ด้วยกองทุนรวม Thai ESG

กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) อีกทางเลือกสำหรับการลงทุนลดหย่อนภาษี ด้วยนโยบายการลงทุนที่กำหนดให้สามารถลงทุนได้ทั้งในหุ้นไทยและตราสารหนี้ไทย ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนตามเกณฑ์ ESG ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และ บรรษัทภิบาล (Governance)
ลงทุนในหุ้นไทย Active และ Passive
หุ้นไทย Active
ASP-ThaiESG
หุ้นไทย Passive
K-TNZ-THAIESG
ลงทุนในตราสารหนี้ไทย
 
 
ตราสารหนี้ไทย
KKP GB THAI ESG
 
กองทุนผสมหุ้นไทยและตราสารหนี้ไทย
 
กองทุนผสมหุ้นไทย
และตราสารหนี้ไทย
SCBTM(ThaiESGA)
 
ลงทุนในหุ้นไทย Active และ Passive
หุ้นไทย Active
ASP-ThaiESG
หุ้นไทย Passive
K-TNZ-THAIESG
ลงทุนในตราสารหนี้ไทย
 
 
ตราสารหนี้ไทย
KKP GB THAI ESG
 
กองทุนผสมหุ้นไทยและตราสารหนี้ไทย
 
กองทุนผสมหุ้นไทย
และตราสารหนี้ไทย
SCBTM(ThaiESGA)
 

สรุปข้อแตกต่างและเงื่อนไขของกองทุนลดหย่อนภาษี RMF และ Thai ESG

ความแตกต่างและเงื่อนไขของกองทุนลดหย่อนภาษีความแตกต่างและเงื่อนไขของกองทุนลดหย่อนภาษี
*วงเงินลดหย่อนภาษีกลุ่มเกษียณ ได้แก่ RMF, PVD, กบข., ประกันชีวิตแบบบำนาญ และกองทุนสงเคราะห์ครู รวมกันแล้วทั้งหมดต้องไม่เกิน 500,000 บาท

รวบรวมช่องทางติดต่อ 19 บลจ. ไว้ที่นี่

คำเตือน: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน RMF หรือ Thai ESG ก่อนตัดสินใจลงทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษีจะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน ผลตอบแทนในอดีตมิได้ยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต
ผลตอบแทนคาดหวังเป็นเพียงการประมาณการณ์ในระยะยาว บริษัทไม่ได้รับประกันถึงผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สอบถามรายละเอียดและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ
ที่ บล.อินโนเวสท์เอ็กซ์ หรือเพจเฟสบุ๊ค InnovestX

รวมช่องทางแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิขอยกเว้นภาษีเงินได้ 19 บลจ. ไว้ที่นี่
+

FAQs

คำถามพบบ่อย
ซื้อกองทุนลดหย่อนอะไรดี ควรซื้อกองทุน RMF และ Thai ESG ทั้ง 2 ประเภทเลยไหม ?
ขึ้นอยู่กับฐานภาษีของผู้ลงทุน และจำนวนเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทั้งนี้ ผู้ลงทุนควรพิจารณาระยะเวลาที่สามารถลงทุนได้ เนื่องจากกองทุน Thai ESG ห้ามขายคืนก่อน 5 ปี และกองทุน RMF ห้ามขายคืนก่อนอายุ 55 ปี
ข้อควรรู้ก่อนซื้อกองทุน RMF สรุปเงื่อนไขกองทุนลดหย่อนภาษี Thai ESG

1. ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
ค่าลดหย่อนเมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน RMF Thai ESG กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 500,000 บาท

2. ลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรือปีเว้นปี โดยไม่กำหนดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ

3. ต้องถือครองจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ อย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน
นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน) และขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อผู้ลงทุนมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ ยกเว้น หน่วยลงทุนที่ซื้อก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2551 สามารถขายคืนได้เมื่อลงทุนต่อเนื่องครบ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน)
ควรลงทุน RMF, ThaiESG, และ ThaiESGX ทั้ง 3 ประเภทเลยไหม?
ขึ้นอยู่กับฐานภาษีของผู้ลงทุน และจำนวนเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทั้งนี้ผู้ลงทุนควรพิจารณาระยะเวลาที่สามารถลงทุนได้ เนื่องจากกองทุน ThaiESG และ ThaiESGX มีระยะการถือครองขั้นต่ำ 5 ปี ส่วนกองทุนรวม RMF มีระยะการถือครองขั้นต่ำ 5 ปี และห้ามขายคืนก่อนอายุ 55 ปีบริบูรณ์
วิธีการขายกองทุน RMF ทำอย่างไร ?
คุณลูกค้าสามารถขายกองภาษีได้โดยการส่งเอกสารประกอบการขายกองทุน เอกสารที่ต้องใช้ หลัก ๆ จะประกอบด้วย แบบฟอร์มคำสั่งการขายหน่วยลงทุน สำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารประกอบเพิ่มเติม และติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่าน InnovestX Line: @innovestx หรือ โทร: 02-949-1999 เพื่อแจ้งความประสงค์ในการขายกองทุนภาษี
ทั้งนี้เนื่องจาก บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เป็นผู้จำหน่ายกองทุนจาก 19 บลจ. เพื่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุนสูงสุด และความถูกต้องจึงจำเป็นที่จะต้องใช้เอกสารยืนยัน และเมื่อคุณลูกค้าส่งเอกสารฉบับจริงเข้ามาที่บริษัทฯ อย่างครบถ้วนแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป ภายใน 7-10 วันทำการ
หมายเหตุ เอกสารประกอบเพิ่มเติมขึ้นกับเงื่อนไขของกองทุนที่ลูกค้าถือครอง และเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการลูกค้าสามารถตรวจสอบระยะเวลาการถือครองกองทุนลดหย่อนภาษีได้จากประวัติการทำรายการหรือ ติดต่อ บลจ. ผู้ดูแลกองทุนที่ท่านถือครอง
ทั้งนี้ก่อนการดำเนินการขายกองทุน:
- ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการถือครองกองทุนลดหย่อนภาษีของท่านได้จาก บลจ. ที่ดูแลกองทุน ผ่านช่องทางติดต่อดังนี้ คลิก

- กรณีที่ท่านต้องการขายกองทุนลดหย่อนภาษีผิดเงื่อนไข (ก่อนกำหนด) ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขได้ที่กรมสรรพากร ผ่านเว็บไซต์ https://www.rd.go.th/36195.html หรือ โทร 1161 ในวันและเวลาทำการ 8:30 - 18:00 น.
ข้อควรรู้ก่อนซื้อกองทุน ThaiESGX สรุปเงื่อนไขกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESGX
ThaiESGX คือ กองทุนรวมลดหย่อนภาษีน้องใหม่ล่าสุด ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับเงินลงทุนที่คงค้างอยู่ในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว LTF โดยกองทุน ThaiESGX มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV และต้องเป็นหุ้นในดัชนี SET หรือ mai ไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV
ทั้งนี้ กองทุนรวม ThaiESGX จะทำให้ผู้ลงทุนมีวงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุดเพิ่มเติมอีก 800,000 บาท โดยแบ่งออกเป็น

1. เงินลงทุนใหม่ใน ThaiESGX 300,000 บาท (คาดว่าจะเปิดขายช่วง 1 พ.ค. - 30 มิ.ย. 2568)

2. เงินลงทุนจากการสับเปลี่ยน LTF มาเข้า ThaiESGX 500,000 บาท โดยแบ่งออกเป็น*

2.1 300,000 บาทในปี 2568 (คาดว่าจะเปิดให้สับเปลี่ยนช่วง 1 พ.ค. - 30 มิ.ย. 2568)

2.2 ปีที่ 2 - 5 ลดหย่อนสูงสุดไม่เกินปีละ 50,000 บาท รวมทั้งหมดเป็น 200,000 บาท
หมายเหตุ: ผู้ลงทุนต้องสับเปลี่ยนกองทุน LTF ทุกกอง ของทุกบลจ. ที่ถือครอง ณ 11 มี.ค. 2568 หากต้องการใช้วงเงินลดหย่อนภาษีส่วนที่ 2
ข้อควรรู้ก่อนซื้อกองทุน ThaiESG สรุปเงื่อนไขกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG
กองทุน ThaiESG คือ กองทุนรวมลดหย่อนภาษีที่ลงทุนหุ้นและตราสารหนี้ด้านความยั่งยืนในประเทศ
1.ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 300,000 บาท และไม่นับรวมกับกองทุนลดหย่อนภาษีอื่น ๆ จึงทำให้การลงทุนในกองทุน ThaiESG จะช่วยทำให้เราลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้น รวมการลดหย่อนด้านการลงทุนอื่นๆ ได้สูงสุดถึง 800,000 บาท

2.ไม่ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี และไม่กำหนดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ

3.ถือครอง 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน)
วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุดในปี 2568 คือเท่าไหร่
วงเงินลดหย่อนภาษีจากกองทุนลดหย่อนภาษีในปี 2568 มีทั้งหมด 1,400,000 บาท ประกอบด้วย
1. เงินลงทุนใหม่ 1,100,000 บาท
1.1 RMF ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน หรือ 500,000 บาท
1.2 ThaiESG ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปี หรือ 300,000 บาท
1.3 ThaiESGX ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปี หรือ 300,000 บาท (คาดว่าจะเปิดขายช่วง 1 พ.ค. - 30 มิ.ย. 2568)
2. เงินลงทุนจากการสับเปลี่ยน LTF มาเข้า ThaiESGX 300,000 บาท (คาดว่าจะเปิดให้สับเปลี่ยนช่วง 1 พ.ค. - 30 มิ.ย. 2568) โดยผู้ลงทุนต้องสับเปลี่ยนกองทุน LTF ทุกกอง ของทุกบลจ. ที่ถือครอง ณ 11 มี.ค. 2568 หากต้องการใช้วงเงินลดหย่อนภาษีส่วนนี้
หนังสือรับรองการลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษี RMF, ThaiESG สามารถขอได้ที่ไหน ?
สำหรับหนังสือรับรองการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จะจัดส่งเอกสารดังกล่าวให้กับท่านทางไปรษณีย์ หรือตามอีเมลที่ท่านแจ้งไว้ตอนเปิดบัญชีลงทุนกับ InnovestX
กรณีที่ท่านไม่ได้รับเอกสาร ท่านสามารถขอเอกสารกับ บลจ. ได้โดยดำเนินการดังนี้
1. ตรวจสอบเลขที่ผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID) ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX (วิธีการตามด้านล่าง)
2. แจ้ง บลจ. เพื่อขอหนังสือรับรองการลงทุน โดยใช้ข้อมูลผู้ถือหน่วยลงทุน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด และเลขที่ผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID) ช่องทางการติดต่อ (คลิก)
วิธีการตรวจสอบเลขที่ผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID) ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX:
1. กดไปที่กองทุนที่ต้องการ
2. เลือก "ขาย"
3. เลขที่ผู้ถือหน่วยลงทุน จะแสดงอยู่ด้านบน
ต้องการขอหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ทวิ 50) ของกองทุนลดหย่อนภาษี RMF, ThaiESG ที่มีการจ่ายปันผล ต้องทำอย่างไร ?
ท่านสามารถติดต่อ บลจ. ที่จัดสรรกองทุนลดหย่อนภาษีของท่านโดยตรง เพื่อขอหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ทวิ 50) ช่องทางการติดต่อ (คลิก)
วิธีการขายกองทุน LTF ทำอย่างไร ?
ท่านสามารถทำการขายกองทุน LTF ที่ครบกำหนดได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX
วิธีการขายกองทุนบนแอปพลิเคชัน InnovestX:
1. Log in แอป InnovestX และเลือกเมนู "Portfolio" ที่มุมขวาล่าง
2. เลือก "Fund" --> และเลือกกองทุน LTF ที่ต้องการขาย
3. เลือก "ขาย" และระบุจำนวนหน่วยลงทุนที่ต้องการ
4. เลือกบัญชีธนาคารสำหรับรับเงิน และ เลือก "ตรวจสอบข้อมูล"
หลังจากการขายกองทุน LTF เงินจะเข้าบัญชีธนาคารตามที่ท่านได้เลือกไว้ โดยเงินจะเข้าตามระยะเวลาการจัดสรรของกองทุนนั้นๆ ไม่เกิน 14 วันทำการ
หมายเหตุ: ผู้ลงทุนสามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF มาสู่กองทุน ThaiESGX เพื่อรับวงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมอีก 500,000 บาทได้ (คาดว่าจะเปิดให้สับเปลี่ยนช่วง 1 พ.ค. - 30 มิ.ย. 2568) ทั้งนี้ วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท จะถูกแบ่งออกเป็น 300,000 บาทในปีแรก และอีกไม่เกินปีละ 50,000 บาทในปีที่ 2 - 5 ทั้งนี้ ผู้ลงทุนต้องสับเปลี่ยนกองทุน LTF ทุกกอง ของทุกบลจ. ที่ถือครอง ณ 11 มี.ค. 2568 หากต้องการใช้วงเงินลดหย่อนภาษีส่วนนี้
หากต้องการขายกองทุนลดหย่อนภาษี ต้องทำอย่างไร ?
กรณีที่ท่านต้องการขายกองทุนลดหย่อนภาษี ท่านสามารถแจ้งความประสงค์ในการขายกองทุน ผ่าน InnovestX Customer Service โทร: 02-949-1999, Facebook หรือ Line: @InnovestX
ทั้งนี้ก่อนการดำเนินการขายกองทุน:
- ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการถือครองกองทุนลดหย่อนภาษีของท่านได้จาก บลจ. ที่ดูแลกองทุน ผ่านช่องทางติดต่อดังนี้ คลิก
กรณีที่ท่านต้องการขายกองทุนลดหย่อนภาษีผิดเงื่อนไข (ก่อนกำหนด) ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขได้ที่กรมสรรพากร ผ่านเว็บไซต์ https://www.rd.go.th/36195.html หรือ โทร 1161 ในวันและเวลาทำการ 8:30 - 18:00 น.
FATCA คืออะไร และเกี่ยวข้องกับใคร ? - ต้นปีแบบนี้ ทยอยซื้อกองทุน RMF ลดหย่อนภาษีแล้ว อย่าลืมอัปเดตสถานะ FATCA เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ลดหย่อนภาษี! วันนี้เมื่อซื้อกองภาษีกับ InnovestX สามารถทำรายการผ่านแอปได้แล้ว

Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA) & Common Reporting Standard (CRS) คือ การยืนยันสถานะความเป็นบุคคลอเมริกันและผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษีในประเทศอื่น


Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA) คือ กฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ออกมาเพื่อบังคับให้สถาบันการเงิน ที่ไม่ใช่สัญชาติอเมริกันนอกประเทศสหรัฐอเมริกา (Foreign Financial Institution หรือ FFI) จะต้องทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ

1.รายงานข้อมูลบัญชีและธุรกรรมทางการเงินของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสัญชาติอเมริกัน ที่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินนั้นๆ ไปยังกรมสรรพากรสหรัฐฯ เพื่อให้ได้รับข้อมูลของพลเมืองสหรัฐฯ และนิติบุคคลสหรัฐฯ ที่มีรายได้จากนอกสหรัฐฯ อย่างครบถ้วนโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557

2.หักภาษี ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) จำนวน 30% ของรายได้ที่มีแหล่งที่มาหรืออ้างอิงหลักทรัพย์จากสหรัฐฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อมของสถาบันการเงิน นิติบุคคล และเจ้าของบัญชี ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎของ FATCA (Recalcitrant Account holders) และนำส่งให้กับกรมสรรพากรสหรัฐฯ


InnovestX เราให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการป้องกันมิให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีสถานะเป็นบุคคลอเมริกันหลีกเลี่ยงภาษี (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA) และมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินแบบอัตโนมัติ (Common Reporting Standard - CRS)


เราจึงมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูลของลูกค้า รวมถึงการขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม และนำส่งกรมสรรพากร


ทั้งนี้ลูกค้าสามารถอัปเดตสถานะได้ในแอป InnovestX หลังจากกดปุ่มซื้อกองทุน SSF และ RMF ลดหย่อนภาษี โดย >>กดยืนยัน >> และกดอัปเดตสถานะ 


คำสงวนสิทธิ์

ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลความรู้แก่ลูกค้าเท่านั้น มิใช่เป็นคำแนะนำ หรือการให้คำแนะนำใดๆ เกี่ยวกับกฎหมายภาษีอากรของประเทศสหรัฐอเมริกา หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว ท่านสามารถขอคำแนะนำได้จากที่ ปรึกษาด้านภาษีอากรของท่าน หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.irs.gov/FATCA



ขั้นตอนในการขายกองทุนลดหย่อนภาษี LTF, RMF, Thai ESG ทำอย่างไร ?


คุณลูกค้าสามารถขายกองทุนลดหย่อนภาษีได้โดยการส่งเอกสารประกอบการขายกองทุน โดยเอกสารที่ต้องใช้หลัก ๆ ประกอบด้วย แบบฟอร์มคำสั่งการขายหน่วยลงทุน สำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารประกอบเพิ่มเติม จากนั้นติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่าน InnovestX Line: @innovestx หรือ โทร: 02-949-1999 เพื่อแจ้งความประสงค์ในการขายกองทุนภาษี


ทั้งนี้ เนื่องจาก บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เป็นผู้จำหน่ายกองทุนจาก 19 บลจ. เพื่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุนสูงสุด และความถูกต้อง จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เอกสารยืนยัน เมื่อคุณลูกค้าส่งเอกสารฉบับจริงเข้ามาที่บริษัทฯ อย่างครบถ้วนแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป ภายใน 7-10 วันทำการ


หมายเหตุ เอกสารประกอบเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกองทุนที่ลูกค้าถือครอง และเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ ลูกค้าสามารถตรวจสอบระยะเวลาการถือครองกองทุนภาษีได้จากประวัติการทำรายการหรือ ติดต่อ บลจ. ผู้ดูแลกองทุนที่ท่านถือครอง”


เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG

สิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้กำหนดให้ กองทุน ThaiESG ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และลงทุนสูงสุดได้ไม่เกิน 100,000 บาท โดยไม่มีกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำ

 

ซึ่งความพิเศษอยู่ที่ “ไม่ต้องรวมคำนวณกับกองทุนการออมประเภทอื่น ๆ” อันได้แก่ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF), กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD), กองทุนบำเหน็จบำนาญราชการ (กบข.), กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ซึ่งอย่างหลังทั้งหมดนี้ถูกกำหนดให้สามารถลดหย่อนภาษีรวมแล้วได้ไม่เกิน 500,000 บาท ดังนั้น จึงทำให้การลงทุนใน TESG จะช่วยทำให้เราลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้น โดยรวมการลดหย่อนด้านการลงทุนอื่น ๆ ได้สูงสุดถึง 600,000 บาท

 

ระยะเวลาการลงทุน ThaiESG ต้องถือลงทุนเป็นเวลา 8 ปีเต็มนับจากวันที่ซื้อ (นับแบบวันชนวัน ไม่ใช่นับแบบปีปฏิทิน) ซื้อปีไหน ลดหย่อนปีนั้น และไม่บังคับว่าต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี


Thai ESG กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (TESG) คืออะไร ต่างกับ RMF อย่างไร ?

กองทุนรวมลดหย่อนภาษี Thai ESG (Thailand ESG Fund) คือกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินด้านความยั่งยืนที่มีความหลากหลาย โดยผู้ออกทรัพย์สินนั้นเป็นภาครัฐ หรือเป็นกิจการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่ง ก.ล.ต. ให้การสนับสนุน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ส่งเสริมความยั่งยืนของประเทศไทย โดยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวได้ตั้งแต่ปีภาษี 2566

 

TESG หรือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน มีกำหนดระยะถือครองการลงทุนอยู่ที่ 8 ปี ระยะเวลาที่ถือครองน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ RMF ที่ต้องรอจนอายุ 55 ปี ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท

 


ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี RMF และ Thai ESG ต้องแจ้งความประสงค์การใช้สิทธิลดหย่อนไหม ?
สรรพากรกำหนดให้ผู้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่านกองทุน RMF และ Thai ESG ต้องแจ้งความประสงค์การใช้สิทธิลดหย่อน

ลูกค้าที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมลดหย่อนภาษี RMF และ Thai ESG ตั้งแต่ 1 ม.ค 2566 และประสงค์ใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ลูกค้าจะต้องแจ้งความประสงค์ในการส่งข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนของตนต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเท่านั้น (ภายในวันทำการสุดท้ายของรอบปีภาษี)

ไม่สามารถแจ้งตรงต่อกรมสรรพากรโดยใช้หนังสือรับรองการซื้อหน่วยลงทุนแบบเดิมได้ ลูกค้าต้องขอแจ้งความประสงค์ โดยสามารถดูลิงก์ของแต่ละบลจ. ได้ที่  “ช่องทางแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิขอยกเว้นภาษีเงินได้ 19 บลจ. ไว้ที่นี่” 

วิธีการหาเลขผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID) เพื่อนำไปติดต่อกับบลจ.

ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบ Unitholder ID ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX โดยเลือกแถบเมนู Activity และเลือกรายการซื้อกองทุน หรือ สอบถามผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด (โทร 02-949-1999) โดย Unitholder ID จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)

ขั้นตอนที่ 2 นำเลขผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID ) ไปติดต่อบลจ. เช่น แจ้งความประสงค์ในการส่งข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนของตนต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หรือ ขอหนังสือรับรองการซื้อหน่วยลงทุน เพื่อเป็นเอกสารยื่นแบบภาษี
ข้อควรรู้ก่อนซื้อกองทุน RMF สรุปเงื่อนไขกองทุนลดหย่อนภาษี RMF
กองทุนรวม RMF คือกองทุนรวมลดหย่อนภาษีที่สามารถลงทุนได้ในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก ทั้งในไทยและต่างประเทศ
1.ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
ค่าลดหย่อนเมื่อรวมกับ กองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 500,000 บาท

2.ลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรือปีเว้นปี โดยไม่กำหนดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ

3.ถือครองจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ อย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน
นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน) และขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อผู้ลงทุนมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ ยกเว้น หน่วยลงทุนที่ซื้อก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2551 สามารถขายคืนได้เมื่อลงทุนต่อเนื่องครบ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน)
กลับด้านบน