ต่างกันที่นโยบายการลงทุน เงื่อนไขการลงทุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี
1) นโยบายการลงทุน
RMF มีนโยบายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ ThaiESG มีเงื่อนไขการลงทุนในหุ้น/ตราสารหนี้ไทยที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืน โดยลงทุนเพียงแค่ในประเทศ
2) เงื่อนไขการลงทุน
RMF ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรืออย่างน้อยปีเว้นปี โดยต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปี และขายคืนได้เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ขณะที่ ThaiESG ไม่ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี ต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ
3) สิทธิประโยชน์ทางภาษี
RMF สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท ค่าลดหย่อนเมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน RMF Thai ESG กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 500,000 บาท ขณะที่ ThaiESG สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 300,000 บาท
ลูกค้าที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมลดหย่อนภาษี RMF และ Thai ESG ตั้งแต่ 1 ม.ค 2566 และประสงค์ใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ลูกค้าจะต้องแจ้งความประสงค์ในการส่งข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนของตนต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเท่านั้น (ภายในวันทำการสุดท้ายของรอบปีภาษี)
ไม่สามารถแจ้งตรงต่อกรมสรรพากรโดยใช้หนังสือรับรองการซื้อหน่วยลงทุนแบบเดิมได้ ลูกค้าต้องขอแจ้งความประสงค์ โดยสามารถดูลิงก์ของแต่ละบลจ. ได้ที่ “ช่องทางแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิขอยกเว้นภาษีเงินได้ 19 บลจ. ไว้ที่นี่”
วิธีการหาเลขผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID) เพื่อนำไปติดต่อกับบลจ.
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบ Unitholder ID ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX โดยเลือกแถบเมนู Activity และเลือกรายการซื้อกองทุน หรือ สอบถามผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด (โทร 02-949-1999) โดย Unitholder ID จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)
ขั้นตอนที่ 2 นำเลขผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID ) ไปติดต่อบลจ. เช่น แจ้งความประสงค์ในการส่งข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนของตนต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หรือ ขอหนังสือรับรองการซื้อหน่วยลงทุน เพื่อเป็นเอกสารยื่นแบบภาษี
Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA) & Common Reporting Standard (CRS) คือ การยืนยันสถานะความเป็นบุคคลอเมริกันและผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษีในประเทศอื่น
Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA)
คือ กฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ออกมาเพื่อบังคับให้สถาบันการเงิน ที่ไม่ใช่สัญชาติอเมริกันนอกประเทศสหรัฐอเมริกา (Foreign Financial Institution หรือ FFI) จะต้องทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ
1.รายงานข้อมูลบัญชีและธุรกรรมทางการเงินของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสัญชาติอเมริกัน ที่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินนั้นๆ ไปยังกรมสรรพากรสหรัฐฯ เพื่อให้ได้รับข้อมูลของพลเมืองสหรัฐฯ และนิติบุคคลสหรัฐฯ ที่มีรายได้จากนอกสหรัฐฯ อย่างครบถ้วนโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557
2.หักภาษี ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) จำนวน 30% ของรายได้ที่มีแหล่งที่มาหรืออ้างอิงหลักทรัพย์จากสหรัฐฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อมของสถาบันการเงิน นิติบุคคล และเจ้าของบัญชี ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎของ FATCA (Recalcitrant Account holders) และนำส่งให้กับกรมสรรพากรสหรัฐฯ
InnovestX เราให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการป้องกันมิให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีสถานะเป็นบุคคลอเมริกันหลีกเลี่ยงภาษี (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA) และมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินแบบอัตโนมัติ (Common Reporting Standard - CRS)
เราจึงมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูลของลูกค้า รวมถึงการขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม และนำส่งกรมสรรพากร
ทั้งนี้ลูกค้าสามารถอัปเดตสถานะได้ในแอป InnovestX หลังจากกดปุ่มซื้อกองทุน SSF และ RMF ลดหย่อนภาษี โดย >>กดยืนยัน >> และกดอัปเดตสถานะ
คำสงวนสิทธิ์
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลความรู้แก่ลูกค้าเท่านั้น มิใช่เป็นคำแนะนำ หรือการให้คำแนะนำใดๆ เกี่ยวกับกฎหมายภาษีอากรของประเทศสหรัฐอเมริกา หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว ท่านสามารถขอคำแนะนำได้จากที่ ปรึกษาด้านภาษีอากรของท่าน หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.irs.gov/FATCA
คุณลูกค้าสามารถขายกองทุนลดหย่อนภาษีได้โดยการส่งเอกสารประกอบการขายกองทุน โดยเอกสารที่ต้องใช้หลัก ๆ ประกอบด้วย แบบฟอร์มคำสั่งการขายหน่วยลงทุน สำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารประกอบเพิ่มเติม จากนั้นติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่าน InnovestX Line: @innovestx หรือ โทร: 02-949-1999 เพื่อแจ้งความประสงค์ในการขายกองทุนภาษี
ทั้งนี้ เนื่องจาก บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เป็นผู้จำหน่ายกองทุนจาก 19 บลจ. เพื่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุนสูงสุด และความถูกต้อง จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เอกสารยืนยัน เมื่อคุณลูกค้าส่งเอกสารฉบับจริงเข้ามาที่บริษัทฯ อย่างครบถ้วนแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป ภายใน 7-10 วันทำการ
หมายเหตุ เอกสารประกอบเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกองทุนที่ลูกค้าถือครอง และเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ ลูกค้าสามารถตรวจสอบระยะเวลาการถือครองกองทุนภาษีได้จากประวัติการทำรายการหรือ ติดต่อ บลจ. ผู้ดูแลกองทุนที่ท่านถือครอง”













