ลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีกับ InnovestX ดีอย่างไร?
เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการคัดเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีที่ดีที่สุด เพื่อให้นักลงทุนสามารถใช้เป็น “กองทุนหลัก” โดยตอบโจทย์ในแต่ละกลุ่มประเภทสินทรัพย์ได้ทันที มีให้เลือกทั้ง กองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG และ RMF
เพื่อช่วยให้ผู้ลงทุนลดหย่อนภาษีควบคู่กับการออมเงินสำหรับการเกษียณในระยะยาว

ลงทุนได้ทันทีไม่ต้องเซ็น
หรือส่งเอกสารเพิ่ม

ลดหย่อนภาษี
ไว้มากถึง 19 บลจ.

เท่ากับลงทุน
กับธนาคาร

จากหลากหลาย บลจ.

แนะนำการลงทุน

แนะนำการลงทุน

กองทุนลดหย่อนภาษี
ThaiESG และ RMF
ThaiESG

K-TNZ-ThaiESG

KKP GB THAI ESG

และตราสารหนี้ไทย
SCBTM(ThaiESGA)
RMF

KKP PGE RMF-H

K-US500XRMF

B-INNOTECHRMF

PRINCIPAL
VNEQRMF

KKP INRMF

UOBGRMF-H




.png?sfvrsn=58a28ec0_2)
.png?sfvrsn=f64a19c3_2)












กองทุน
ลดหย่อนภาษียอดนิยม
บนแอปพลิเคชัน InnovestX
TOP 10 ThaiESG
THAI ESG

ThaiESG
(ThaiESGA)
ThaiESG
(ThaiESG)
ThaiESG
THAIESG
(ThaiESG)
ThaiESG
(ThaiESG)
TOP 10 RMF
S&P500

RMF
NDQ(A)
RMF
DIGIBLOC
RMF
RMF
VIETRMF

กองทุนลดหย่อนภาษี ที่ InnovestX
แนะนำในแต่ละกลุ่มสินทรัพย์
กองทุนหุ้น (Equity)
ประเภท | รายชื่อกองทุน |
---|---|
กองทุนหุ้นโลก (Global Equity Active) | K-GSELECTRMF |
กองทุนหุ้นโลก (Global Equity Passive) | KKP PGE RMF-H |
กองทุนหุ้นสหรัฐฯ (US Equity) (S&P500) | K-US500XRMF |
กองทุนหุ้นสหรัฐฯ (US Equity) (NASDAQ100) | K-USXNDQRMF |
กองทุนหุ้นยุโรป (Europe Equity) | ES-EGRMF |
กองทุนหุ้นญี่ปุ่น (Japan Equity) | K-JPRMF |
กองทุนหุ้นเอเชีย (Asia Equity) | B-ASIARMF |
กองทุนหุ้นจีน All Shares (China Equity) | ES-CORMF |
กองทุนหุ้นอินเดีย (India Equity) | K-INDIARMF |
กองทุนหุ้นไทย (Thai Equity) | KT-HiDiv RMF |
กองทุนหุ้นเวียดนาม (Vietnam Equity) | PRINCIPAL VNEQRMF |
กองทุนหุ้นเทคโนโลยี (Technology Equity) | B-INNOTECHRMF |
กองทุนตราสารหนี้ (Fixed Income)
ประเภท | รายชื่อกองทุน |
---|---|
กองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง (Mid-term Fixed Income) | KKP INRMF |
กองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก (Global Fixed Income) | K-GDBONDRMF |
กองทุนสินทรัพย์ทางเลือก (Alternatives)
ประเภท | รายชื่อกองทุน |
---|---|
กองทุนทองคำ (Gold) | UOBGRMF-H |
กองทุนสินทรัพย์ผสม (Allocation)
ประเภท | รายชื่อกองทุน |
---|---|
กองทุนสินทรัพย์ผสม (Allocation) | ES-GAINCOMERMF |
กองทุนตลาดเงิน และตราสารหนี้
ThaiESG และ RMF จาก บลจ. ชั้นนำ
ThaiESG
กองทุนตราสารหนี้
(Fixed Income)
ประเภท | รายชื่อกองทุน |
---|---|
บลจ. บัวหลวง (BBLAM) | B-SI-THAIESG |
บลจ. กสิกรไทย (KASSET) | K-ESGSI-ThaiESG |
บลจ. เกียรตินาคินภัทร (KKPAM) | KKP GB THAI ESG |
บลจ. กรุงศรี (KSAM) | KFGBTHAIESG-A |
บลจ. กรุงไทย (KTAM) | KTESGSI-ThaiESG |
บลจ. แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LHFUND) | LHSITHAIESG |
บลจ. เอ็มเอฟซี (MFC) | MSOV-ThaiESG |
บลจ. ไทยพาณิชย์ (SCBAM) | SCBTB(ThaiESGA) |
บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) (UOBAM) | UTSB-THAIESG |
RMF
กองทุนตลาดเงิน และตราสารหนี้ระยะสั้น
(Money Market and Short-term Fixed Income)
ประเภท | รายชื่อกองทุน |
---|---|
บลจ. อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) (Aberdeen) | ABSI-RMF |
บลจ. บัวหลวง (BBLAM) | MM-RMF |
บลจ. ดาโอ (DAOL) | DAOL-MONYRMF |
บลจ. อีสท์สปริง (ประเทศไทย) (EASTSPRING) | ES-MRMF |
บลจ. กสิกรไทย (KASSET) | K-SFRMF |
บลจ. เกียรตินาคินภัทร (KKPAM) | KKP MMRMF |
บลจ. กรุงศรี (KSAM) | KFCASHRMF |
บลจ. กรุงไทย (KTAM) | RMF4 |
บลจ. แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LHFUND) | LHMMRMF |
บลจ. เอ็มเอฟซี (MFC) | MMF-RMF |
บลจ. วรรณ (ONEAM) | M-RMF-A |
บลจ. พรินซิเพิล (PRINCIPAL) | PRINCIPAL PRMF |
บลจ. ไทยพาณิชย์ (SCBAM) | SCBRM1 |
บลจ. ทาลิส (TALIS) | TLMMRMF |
บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) (UOBAM) | UOBSVRMF |
สรุปข้อแตกต่างและเงื่อนไขของกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG และ RMF


กองทุนที่เข้าร่วมโครงการ
สามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์

"รับชำระผ่านบัตรเครดิต"


กองทุนที่เข้าร่วมโครงการ สามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์
"รับชำระผ่านบัตรเครดิต"







ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน ThaiESG หรือ RMF ก่อนตัดสินใจลงทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษีจะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน | ไม่เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายและคะแนนสะสมกับบัตรเครดิต | ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี | สอบถามรายละเอียดและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการที่บล.อินโนเวสท์เอ็กซ์ หรือเพจเฟสบุ๊ค InnovestX
รวบรวมช่องทางติดต่อ 19 บลจ. ไว้ที่นี่
FAQs
ขึ้นอยู่กับฐานภาษีของผู้ลงทุน และจำนวนเงินลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทั้งนี้ผู้ลงทุนควรพิจารณาวัตถุประสงค์ในการลงทุนและระยะเวลาที่สามารถลงทุนได้ โดยควรรู้เงื่อนไขการลงทุนก่อนซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี RMF
สรุปเงื่อนไขกองทุนลดหย่อนภาษี RMF
1.ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท ค่าลดหย่อนเมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน RMF Thai ESG กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 500,000 บาท
2.ลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรืออย่างน้อยปีเว้นปี โดยไม่มีกำหนดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ
3.ต้องถือครองไม่น้อยกว่าน้อย 5 ปี และขายคืนหน่วยลงทุนได้เมื่อผู้ลงทุนมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
ข้อควรรู้และสรุปเงื่อนไขการลงทุนก่อนซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี ThaiESG
1.ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 300,000 บาท
2.ไม่ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี และไม่กำหนดจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำ
3.ต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปีโดยนับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน)- กรณีที่ท่านต้องการขายกองทุนลดหย่อนภาษีผิดเงื่อนไข (ก่อนกำหนด) ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขได้ที่กรมสรรพากร ผ่านเว็บไซต์ https://www.rd.go.th/36195.html หรือ โทร 1161 ในวันและเวลาทำการ 8:30 - 18:00 น.
วงเงินลดหย่อนภาษีจากกองทุนลดหย่อนภาษีในปี 2568 มีทั้งหมด 1,400,000 บาท ประกอบด้วย
1. เงินลงทุนใหม่ (สำหรับปี 2568) แบ่งเป็น
1.1 RMF ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน หรือสูงสุด 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนลดหย่อนการออมเพื่อการเกษียณอื่นๆ (การออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน RMF Thai ESG กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ)
1.2 ThaiESG ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน หรือ 300,000 บาท
1.3 ThaiESGX ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน หรือ 300,000 บาท (เปิดขายแค่ช่วง 2 พ.ค. - 30 มิ.ย. 2568 เท่านั้น)
2. เงินลงทุนจากการสับเปลี่ยน LTF มายัง ThaiESGX โดยผู้ลงทุนต้องสับเปลี่ยนกองทุน LTF ทุกกองของทุก บลจ. ที่ถือครอง ณ 11 มี.ค. 2568 ไปยัง ThaiESGX ที่เปิดให้สับเปลี่ยนในช่วง 2 พ.ค. - 30 มิ.ย. 2568 โดยมูลค่าลดหย่อนสูงสุด 500,000 บาท แบ่งเป็นปี 2568 สูงสุด 300,000 บาท และปี 2569-2572 สูงสุดปีละ 50,000 บาท
Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA) & Common Reporting Standard (CRS) คือ การยืนยันสถานะความเป็นบุคคลอเมริกันและผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษีในประเทศอื่น
Foreign Account Tax Compliance Act (FATCA)
คือ กฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ออกมาเพื่อบังคับให้สถาบันการเงิน ที่ไม่ใช่สัญชาติอเมริกันนอกประเทศสหรัฐอเมริกา (Foreign Financial Institution หรือ FFI) จะต้องทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ
1.รายงานข้อมูลบัญชีและธุรกรรมทางการเงินของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลสัญชาติอเมริกัน ที่เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินนั้นๆ ไปยังกรมสรรพากรสหรัฐฯ เพื่อให้ได้รับข้อมูลของพลเมืองสหรัฐฯ และนิติบุคคลสหรัฐฯ ที่มีรายได้จากนอกสหรัฐฯ อย่างครบถ้วนโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557
2.หักภาษี ณ ที่จ่าย (Withholding Tax) จำนวน 30% ของรายได้ที่มีแหล่งที่มาหรืออ้างอิงหลักทรัพย์จากสหรัฐฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อมของสถาบันการเงิน นิติบุคคล และเจ้าของบัญชี ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎของ FATCA (Recalcitrant Account holders) และนำส่งให้กับกรมสรรพากรสหรัฐฯ
InnovestX เราให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐอเมริกาว่าด้วยการป้องกันมิให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีสถานะเป็นบุคคลอเมริกันหลีกเลี่ยงภาษี (Foreign Account Tax Compliance Act: FATCA) และมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการเงินแบบอัตโนมัติ (Common Reporting Standard - CRS)
เราจึงมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูลของลูกค้า รวมถึงการขอเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม และนำส่งกรมสรรพากร
ทั้งนี้ลูกค้าสามารถอัปเดตสถานะได้ในแอป InnovestX หลังจากกดปุ่มซื้อกองทุน SSF และ RMF ลดหย่อนภาษี โดย >>กดยืนยัน >> และกดอัปเดตสถานะ
คำสงวนสิทธิ์
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลความรู้แก่ลูกค้าเท่านั้น มิใช่เป็นคำแนะนำ หรือการให้คำแนะนำใดๆ เกี่ยวกับกฎหมายภาษีอากรของประเทศสหรัฐอเมริกา หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว ท่านสามารถขอคำแนะนำได้จากที่ ปรึกษาด้านภาษีอากรของท่าน หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.irs.gov/FATCA
คุณลูกค้าสามารถขายกองทุนลดหย่อนภาษีได้โดยการส่งเอกสารประกอบการขายกองทุน โดยเอกสารที่ต้องใช้หลัก ๆ ประกอบด้วย แบบฟอร์มคำสั่งการขายหน่วยลงทุน สำเนาบัตรประชาชน หรือเอกสารประกอบเพิ่มเติม จากนั้นติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่าน InnovestX Line: @innovestx หรือ โทร: 02-949-1999 เพื่อแจ้งความประสงค์ในการขายกองทุนภาษี
ทั้งนี้ เนื่องจาก บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ เป็นผู้จำหน่ายกองทุนจาก 19 บลจ. เพื่อการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุนสูงสุด และความถูกต้อง จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เอกสารยืนยัน เมื่อคุณลูกค้าส่งเอกสารฉบับจริงเข้ามาที่บริษัทฯ อย่างครบถ้วนแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไป ภายใน 7-10 วันทำการ
หมายเหตุ เอกสารประกอบเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกองทุนที่ลูกค้าถือครอง และเพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการ ลูกค้าสามารถตรวจสอบระยะเวลาการถือครองกองทุนภาษีได้จากประวัติการทำรายการหรือ ติดต่อ บลจ. ผู้ดูแลกองทุนที่ท่านถือครอง”
ต่างกันที่นโยบายการลงทุน เงื่อนไขการลงทุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี
1) นโยบายการลงทุน
RMF มีนโยบายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ ThaiESG มีเงื่อนไขการลงทุนในหุ้น/ตราสารหนี้ไทยที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืน โดยลงทุนเพียงแค่ในประเทศ
2) เงื่อนไขการลงทุน
RMF ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรืออย่างน้อยปีเว้นปี โดยต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปี และขายคืนได้เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ขณะที่ ThaiESG ไม่ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี ต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ
3) สิทธิประโยชน์ทางภาษี
RMF สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท ค่าลดหย่อนเมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน RMF Thai ESG กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ แล้วลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 500,000 บาท ขณะที่ ThaiESG สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปีที่เสียภาษี แต่ไม่เกิน 300,000 บาท
ลูกค้าที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมลดหย่อนภาษี RMF และ Thai ESG ตั้งแต่ 1 ม.ค 2566 และประสงค์ใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ลูกค้าจะต้องแจ้งความประสงค์ในการส่งข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนของตนต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเท่านั้น (ภายในวันทำการสุดท้ายของรอบปีภาษี)
ไม่สามารถแจ้งตรงต่อกรมสรรพากรโดยใช้หนังสือรับรองการซื้อหน่วยลงทุนแบบเดิมได้ ลูกค้าต้องขอแจ้งความประสงค์ โดยสามารถดูลิงก์ของแต่ละบลจ. ได้ที่ “ช่องทางแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิขอยกเว้นภาษีเงินได้ 19 บลจ. ไว้ที่นี่”
วิธีการหาเลขผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID) เพื่อนำไปติดต่อกับบลจ.
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบ Unitholder ID ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX โดยเลือกแถบเมนู Activity และเลือกรายการซื้อกองทุน หรือ สอบถามผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด (โทร 02-949-1999) โดย Unitholder ID จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)
ขั้นตอนที่ 2 นำเลขผู้ถือหน่วยลงทุน (Unitholder ID ) ไปติดต่อบลจ. เช่น แจ้งความประสงค์ในการส่งข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนของตนต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หรือ ขอหนังสือรับรองการซื้อหน่วยลงทุน เพื่อเป็นเอกสารยื่นแบบภาษี