Thai ESGx คือ กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนพิเศษ (Thailand ESG Extra Fund) เป็น กองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นไทย และ/หรือ ตราสารหนี้ไทย ที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืนตามหลักเกณฑ์เดียวกับ Thai ESG โดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีทั้งเงินลงทุนใหม่ และการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF สำหรับการลงทุนในช่วง พ.ค. - มิ.ย. 68
เงื่อนไขในการลงทุน Thai ESGx มีอะไรบ้าง?
รายละเอียดสิทธิประโยชน์ทางภาษี Thai ESGXแบ่งออกเป็น 2 วงเงินใหม่ โดยไม่รวมคำนวณกับกองทุน Thai ESG เดิม, RMF และกลุ่มลดหย่อนเกษียณอื่นๆ ได้แก่
1. วงเงินลดหย่อนที่ 1 - "เงินใหม่" - ลงทุนใน Thai ESGX ด้วยเงินลงทุนใหม่ วงเงินไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท (เฉพาะปี 2568)
2. วงเงินลดหย่อนที่ 2 – "สับเปลี่ยนจาก LTF" - เป็นการให้สิทธิสำหรับผู้ลงทุนที่ถือครอง LTF เดิม โดยสับเปลี่ยนไปยัง Thai ESGX ในระยะเวลาที่กำหนด และต้องเป็นการ สับเปลี่ยนในทุกกองทุน ทุก บลจ. สูงสุด 500,000 บาท
หมายเหตุ: สำหรับวงเงินลดหย่อนที่ 2 ผู้ลงทุนต้องสับเปลี่ยนจาก LTF เดิมที่มีอยู่ ณ 11 มี.ค. 68 ในทุกกองทุน ทุก บลจ. ไปยัง Thai ESGX ทั้งหมด หากสับเปลี่ยนไม่ครบจะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีวงเงินนี้ได้
ทั้งนี้ การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด
หากมี LTF เดิมอยู่เกิน 500,000 บาท สามารถขายออกบางส่วนเพื่อใช้สิทธิวงเงินลดหย่อนที่ 2 ได้หรือไม่?
ไม่ได้ หากมีการขายหรือสับเปลี่ยน LTF หลัง 11 มี.ค. 68 จะทำให้ไม่ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีวงเงินที่ 2 แต่หากมีการขายหรือสับเปลี่ยน LTF บางส่วนไปก่อนภายใน 11 มี.ค.
68 ยังคงสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีวงเงินที่ 2 ได้
สนใจใช้วงเงินลดหย่อนที่ 2 สูงสุด 500,000 ต้องยื่นลดหย่อนอย่างไร?
วงเงินที่ 2 เป็นการใช้สิทธิทยอยลดหย่อน โดยปีแรกสูงสุด 300,000 บาท และปีที่ 2-5 ปีละ 50,000 บาทจนครบ 200,000 บาท
ทั้งนี้ กรณีมีสับเปลี่ยน LTF ไปยัง Thai ESGX ด้วยจำนวนเงินไม่ถึง 500,000 บาท จะเป็นการใช้สิทธิลดหย่อนให้เต็มก่อนในแต่ละปี แล้วค่อยลดหย่อนในส่วนที่เหลือ
ตัวอย่าง: สับเปลี่ยน LTF ไปยัง Thai ESGX ด้วยยอดเงิน 420,000 บาท
- ปีที่ 1 (2568): 300,000 บาท
- ปีที่ 2-3 (2569-2570): 50,000 บาท/ปี
- ปีที่ 4 (2571): 20,000 บาท (ส่วนที่เหลือ)
สรุปสิทธิลดหย่อนภาษีจากการลงทุนในปี 2568 คือเท่าไหร่?
1,400,000 บาท = RMF สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท + Thai ESG เดิม สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
+ Thai ESGX วงเงินที่ 1 ไม่เกิน 300,000 บาท
+ Thai ESGX วงเงินที่ 2 ไม่เกิน 300,000 บาท
ทั้งนี้ RMF ต้องนำไปรวมกับกลุ่มลดหย่อนเกษียณอื่นๆ และลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท, Thai ESG ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท, Thai ESGX วงเงินลดหย่อนที่ 1 ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท และ Thai ESGX วงเงินลดหย่อนที่ 2 สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท (สำหรับปี 2568)