ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. DR (Depositary Receipt) ลงทุนหุ้นนอก เหมือนซื้อหุ้นไทย
  3. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  4. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  5. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  6. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  7. ตราสารอนุพันธ์ไทย มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  8. ตราสารอนุพันธ์ต่างประเทศ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  9. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  10. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  11. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
  12. กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. เกี่ยวกับเรา ร่วมเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับเรา InnovestX
  2. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}
แชร์บทความนี้
7E2FD4EA02FF51AE0C35AB6B250804882D68BFFF

กรุงเทพฯ, 25 กันยายน 2568 - บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) เรือธงด้านการลงทุนภายใต้กลุ่มเอสซีบีเอกซ์ (SCBX Group) ประเมินภาพรวมการลงทุนไตรมาส 4/2568 ว่า ทิศทางตลาดเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มสดใสขึ้นหลังจากมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีน้อยและช้ากว่าที่เคยประกาศไว้ ณ เดือน เมษายน ด้านทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น แต่ต้องจับตาเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัว กดดันจากการส่งออกและภาคเศรษฐกิจในประเทศที่จะชะลอลง แต่เสถียรภาพการเมืองรวมถึงทีมเศรษฐกิจใหม่และนโยบายที่จะออกมาเป็นความหวังของเศรษฐกิจไทย โดย InnovestX ประเมินกรอบเป้าหมายดัชนี SET ปี 2568 ที่ 1,350–1,400 จุด โดยมองว่าระดับต่ำกว่า 1,200 จุดเป็นจุดเข้าซื้อที่น่าสนใจ กลยุทธ์หลักคือการคัดเลือกหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง เช่น AP, CENTEL, DIF, HMPRO และ MTC ควบคู่กับการจัดพอร์ตอย่างสมดุลในหลายสินทรัพย์ ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ และ REITs เพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนและการลดความผันผวนในระยะยาว

 

นายสุทธิชัย คุ้มวรชัย Head of Research Department บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด เผยมุมมองเศรษฐกิจประจำไตรมาส 4/2568 ว่า “บรรยากาศการลงทุนไตรมาส 4/2568 ชัดเจนขึ้น ความไม่แน่นอนเศรษฐกิจคลี่คลาย โดยมีแรงหนุนจากการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เร็วและแรงกว่าคาด แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวแต่ไม่ถดถอย ช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้หุ้นกลุ่มประเทศเกิดใหม่รวมถึงไทย ด้านปัจจัยในประเทศ ความชัดเจนทางการเมืองหนุนให้นักลงทุนกลับมาให้น้ำหนักต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนผลักดันให้ SET Index รักษาแรงส่งเชิงบวกต่อเนื่อง ทั้งนี้ยังคงแนะนำการกระจายพอร์ตลงทุนในหลายสินทรัพย์ ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำ เพื่อสร้างผลตอบแทนควบคู่การบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น”

 

ดร. ปิยศักดิ์ มานะสันต์ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า “เศรษฐกิจโลกไตรมาส 4/2568 และปี 2569 มีสัญญาณบวกมากขึ้น หลังสหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษี “Reciprocal Tariff” ต่ำกว่าที่ประกาศเดิม โดยประเทศพัฒนาแล้วถูกเก็บราว 15% และประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย 19–20% หนุนให้ GDP โลกปี 2568–2569 อาจขยายตัว 2.9% และ 3.0% ขณะที่ Fed ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ท่ามกลางตลาดแรงงานชะลอ แต่ยังเสี่ยงเงินเฟ้อจากภาษีศุลกากร ส่วนเศรษฐกิจจีนยังชะลอจากปัญหาโครงสร้าง คาดขยายตัวเพียง 4.4% และ 4.0% ในปี 2568 -2569 แม้รัฐบาลเดินหน้ามาตรการกระตุ้นและนโยบาย Anti-Involution เพื่อพยุงการเติบโต สำหรับเศรษฐกิจไทยคาดชะลอใน 4 ไตรมาสข้างหน้า ทำให้ทั้งปี 2568–2569 โตเพียง 1.8% และ 1.4% แต่ยังพอได้แรงหนุนบางส่วนจากมาตรการเศรษฐกิจ โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการแต่งตั้งทีมเศรษฐกิจใหม่ของรัฐบาลอนุทิน”

 

ด้าน นายสิทธิชัย ดวงรัตนฉายา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าว “ตลาดหุ้นไทยไตรมาส 4/2568 ความเสี่ยงขาลงจำกัด แม้ Upside ไม่กว้างนัก นักลงทุนควรเน้นลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศ ภายใต้ธีม Domestic Play ที่หนุนด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การฟื้นตัวท่องเที่ยว แนวโน้มดอกเบี้ยของ ธปท. และเงินบาทแข็งค่าที่ช่วยดึงเงินทุนต่างชาติ InnovestX ปรับเป้าหมาย SET ปี 2568 ที่ 1,350–1,400 จุด โดยมองว่าบริเวณต่ำกว่า 1,200 จุดน่าสนใจในการเข้าซื้อ กลยุทธ์หลักคือคัดเลือกหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง งบดุลมั่นคง ได้อานิสงส์จากอุปสงค์ในประเทศ ดอกเบี้ยขาลง และนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ พร้อม Valuation สมเหตุสมผล หุ้นเด่น ได้แก่ AP, CENTEL, DIF, HMPRO และ MTC ซึ่งตอบโจทย์ทั้งการป้องกันความเสี่ยงและการเติบโตระยะยาว

 

 

ขณะเดียวกัน แนวโน้มเศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพมากขึ้น หนุนการลงทุนเชิงบวก โดยมีปัจจัยจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง จีนเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ และแนวโน้ม Fed กับ ธปท. ลดดอกเบี้ย กลยุทธ์คือเน้นหุ้นวัฏจักรและอุตสาหกรรมที่เติบโตตามเศรษฐกิจ รวมถึงหุ้นเทคโนโลยีที่ได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลง ส่วนตลาดเกิดใหม่ยังได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นและดอลลาร์อ่อนค่า แม้ Upside หุ้นโลกจำกัด แต่ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อ โดยหุ้นเด่น ได้แก่ TSLA, MSFT, NVDA, AAPL, RTX, JPM (สหรัฐฯ), ASML, LVMH, BAE System, ABB, BNP Paribas, L’Oreal (ยุโรป) และ Tencent, Alibaba, SMIC, Trip.com, HKEX, Lenovo, Xpeng/Zeekr (จีน)

 

 

ขณะที่ ดร. รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ Head of Investment Strategy Department และ Trading Product Specialist Department บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า “กลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 4/2568 ควรจัดพอร์ตอย่างรอบคอบและกระจายความเสี่ยง หลังตลาดหุ้นปรับขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เมษายน โดยยังเน้นหุ้นสหรัฐฯ คุณภาพสูง หรือกลุ่มอิงดัชนี S&P500 แบบ Equal Weight ในธีม Catch up play ขณะเดียวกัน หุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากมาตรการการคลังและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงหุ้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงและดอลลาร์อ่อนค่า เช่น Emerging markets โดยเฉพาะหุ้นจีนที่เราแนะนำต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี และตลาดหุ้นไทยที่มีปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่

 

ด้านตราสารหนี้ แนะนำลงทุนระยะสั้น–กลาง เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของพันธบัตรระยะยาว ส่วนสินทรัพย์ทางเลือก ทองคำยังเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ REITs ได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและเศรษฐกิจโลกฟื้น โดย REITs ไทยน่าสนใจกว่า REITs โลกจาก Dividend yield ที่สูงกว่า นอกจากนี้ สินทรัพย์ดิจิทัลยังได้แรงหนุนจากกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนขึ้นในหลายประเทศ สร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ดังนั้น ควรจัดพอร์ตแบบผสมผสานเพื่อสร้างโอกาสผลตอบแทนควบคู่กับการลดความเสี่ยงระยะยาว

 

กองทุนเด่นประจำไตรมาสเพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างโอกาสรับผลตอบแทน ได้แก่ หุ้นจีน KFCSI300-A, หุ้นยุโรป ES-EG-A, ทองคำ UOBSG-H และ REITs ไทย MPDIVMF สำหรับผู้สนใจหุ้นจีน สามารถลงทุนผ่าน DR23 ที่คัดเลือกหุ้นชั้นนำในธีมการเติบโตระยะยาว อาทิ CATL23, HSHD23, SMIC23, BABA23, KUAISH23 อีกทั้งยังสามารถใช้ US Options เพื่อเพิ่มผลตอบแทนและป้องกันความเสี่ยงในหุ้นสหรัฐฯ รวมถึงใช้ USD Futures ผ่านตลาด TFEX เพื่อบริหารความเสี่ยงค่าเงินได้เช่นกัน”

InnovestX แพลตฟอร์มลงทุนที่มั่นใจได้ จากกลุ่ม SCBX ที่เดียวครบ ง่าย ได้เปรียบ ในทุกสภาวะตลาดทั่วโลก สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการลงทุน สามารถติดตามบทวิเคราะห์ และกลยุทธ์การลงทุนจาก InnovestX ที่ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ได้ที่ www.innovestx.co.th/cafeinvest และ Facebook: InnovestX หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line: @InnovestX

 

*ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ กองทุนรวมมีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนสามารถขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ผลตอบแทนในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต

 

#InnovestX #InnovestXResearch #InnovestXSuperApp #ครบง่ายได้เปรียบในทุกสภาวะตลาดทั่วโลก